'ครูจวง' รับไม่ได้ 'รมว.ศึกษาธิการ' หารือ 'ทูตเกาหลีเหนือ' เพื่อเป็นต้นแบบ สะท้อนภาพลักษณ์-แนวคิดอำนาจนิยม ชี้สิ่งที่จะนำมาไม่ได้เรียกว่าวินัย แต่เหมือนกฎที่ถูกล้างสมองมากกว่า
08 ก.พ.2567 - นายปารมี ไวจงเจริญ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แลกเปลี่ยนความรู้วัฒนธรรมและการศึกษากับเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) ว่าแปลกใจที่ท่านเลือกหารือกับประเทศนี้ ก็ทราบอยู่แล้วว่าระบบการศึกษา หรือวิธีคิดของเกาหลีเหนือ ไม่เป็นไปตามหลักสากลตะวันตก ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.เพิ่มพูนให้สัมภาษณ์ว่า เป็นการหารือเพื่อเอาต้นแบบ ความมีวินัยของนักเรียนเกาหลีเหนือมาใช้กับนักเรียนไทยนั้น คิดว่าวินัยของท่านและวินัยของตนนั้น คงจะเป็นคนละประเภท อยากบอกว่าในประเทศสากลโลกตะวันตก นักเรียนเขามีวินัยกันมาก ทำไมจึงไม่ไปดูประเทศที่เป็นต้นแบบประชาธิปไตย หรือประเทศเสรีนิยมอื่นๆ สิ่งที่นักเรียนเกาหลีเหนือเขามี ไม่ได้เรียกว่าวินัย แต่เหมือนกฎที่ถูกล้างสมองมากกว่า
นายปารมี กล่าวย้ำว่า แปลกใจที่ท่านไปพบและนโยบายของพรรคก้าวไกล ส่งเสริมให้นักเรียนมีกฎระเบียบและวินัยในชีวิต แต่ต้องเป็นวินัยบนหลักการประชาธิปไตย เป็นวินัยที่อยู่บนพื้นฐานการเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน นักเรียนก็ต้องเคารพสิทธิของครู และครูก็ต้องเคารพสิทธินักเรียน ซึ่งล่าสุดพรรคก้าวไกลได้พูดคุยหารือกับเกาหลีใต้ เพื่อจะตั้งศูนย์การเรียนรู้ตลอดชีวิต แต่ท่านก็ไปพูดคุยกับฝั่งเกาหลีเหนือ ซึ่งก็ดูขัดๆ กัน
“ดิฉันอยากจะฝากว่า หลายคนยังคงเข้าใจผิด มักจะบอกว่านักเรียนในประเทศเสรีนิยมตะวันตก ไม่มีหัว ไม่มีหาง ไม่มีระเบียบวินัย เพราะในระบอบประชาธิปไตยเอง คือการมีวินัยในตัวเอง และเคารพกฎหมาย เป็นสิ่งสำคัญมาก หลักการหนึ่งของการปกครองระบอบประชาธิปไตยคือ หลักนิติธรรม ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย จริงๆ กฎตามโรงเรียนก็เป็นกฎหมายประเภทหนึ่ง ดิฉันกล้ายืนยันว่า นักเรียนในประเทศเสรีนิยมประชาธิปไตย เขาเคารพกฎหมายและมีวินัยในตัวเองแน่นอน และอีกสิ่งสำคัญ คือการเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน“ นายปารมี กล่าว
เมื่อถามว่า การที่ พล.ต.อ.เพิ่มพูน หารือกับเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีนั้น สะท้อนถึงอะไรได้บ้าง นายปารมี กล่าวว่า สามารถสะท้อนถึง พล.ต.อ.เพิ่มพูนได้อย่างหนึ่ง ในช่วงแรกๆ ตั้งแต่ พล.ต.อ.เพิ่มพูนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่กล่าวถึงนโยบายให้ครูล้างจานแทนการใส่ซอง และถึงขนาดว่าท่านก็ไปสืบสานไมตรี สนิทสนมกับเกาหลีเหนือ เป็นการสะท้อนภาพลักษณ์และแนวคิดว่า มีแนวคิดอำนาจนิยม นโยบายของพรรคก้าวไกล หรือนโยบายของนักเรียนและผู้ปกครองเอง ต่างส่งเสริมรณรงค์ไม่ให้มีอำนาจนิยมภายในโรงเรียน อย่างเรื่องครูต้องไม่ใช้อำนาจนิยมกับนักเรียน หลายครั้งที่คนบางกลุ่มมองว่า เอาแต่พูดถึงแต่สิทธิของนักเรียน แต่ไม่พูดถึงสิทธิครู ยืนยันว่า ทั้งครูและนักเรียนต้องเคารพซึ่งกันและกัน เราถึงจะสามารถอยู่ร่วมกันได้ในระบอบประชาธิปไตย
นอกจากนี้ ยังสะท้อนถึงภาพลักษณ์ของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งกระทรวงศึกษาฯ ก็ต้องเป็นกระทรวงยุคใหม่ได้แล้ว คิดใหม่ ทำใหม่ ในขณะที่มีการรณรงค์ ไม่ให้ใช้อำนาจนิยมในโรงเรียน กลับไปพูดคุยกับประเทศที่เรารู้กันอยู่ว่า ประชาชนคิดต่างจากรัฐไม่ได้ เป็นประเทศที่อำนาจนิยมสูงมาก แต่กลับจะไปเชื่อมสัมพันธ์ไมตรี และจะนำไปเป็นต้นแบบอีก รับไม่ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปปช.เปิดทรัพย์สิน 'ก่อแก้ว' สุดอู้ฟู่รวย 263 ล้านบาท
เปิดเซฟ 'ชัยธวัช ตุลาธน' อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล 19.3 ล้านบาท 'อภิชาติ' อดีตเลขาธิการพรรค 13.2 ล้านบาท 'ก่อแก้ว' อู้ฟู่ 263 ล้าน
ก้าวไกลแพ้! ศาลยกฟ้อง 'ณฐพร โตประยูร' แจ้งเท็จ-หมิ่น ล้มล้างการปกครอง
ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.308/2564 ที่พรรคก้าวไกล เป็นโจทก์ฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ,หมิ่นประมาทฯพร้อมเรียกค่าเสียหาย 20,062,475บาท
รู้ไว้ซะ 'ปิยบุตร' เผย 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน เพราะก้าวไกลชนะเลือกตั้ง!
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอีกครั้ง
“รมช.สุชาติ“ หารือเซเนกัล พร้อมเพิ่มปริมาณส่งออกข้าว ย้ำคุณภาพและมาตรฐานของข้าวไทย
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือกับนายอาบดูแล บาโร เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเซเนกัลประจำประเทศไทย ถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2567 ที่กระทรวงพาณิชย์
ศาลรธน.ยืนยัน ‘อุดม’ ไม่เสียดสี แค่ตอบ ‘ข้อกม.’
ศาลรัฐธรรมนูญทำหนังสือตอบกลับสภาผู้แทนฯ ยืนยัน "อุดม สิทธิวิรัชธรรม" ตุลาการศาล รธน. แสดงความเห็นหลังยุบพรรคก้าวไกล "ยุบ 3 วันตั้งพรรค"