6 ก.พ.2567- นางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตแกนนำนปช. โพสต์ความคิดเห็นต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีการแก้ไขมาตรา 112 เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2567 ว่าเป็นอีกครั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญและอำนาจตุลาการที่ไม่ยึดโยงกับประชาชน ได้ควบคุม ลงโทษ แสดงบทบาทเหนืออำนาจนิติบัญญัติ ที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการ ยังไม่ได้เป็นตัวบทกฎหมายตามมาตรา 148 ของรัฐธรรมนูญ (1) และ (2) ซึ่ง สส., สว. 1 ใน 10 หรือร่วมกันไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของทั้ง 2 สภา สามารถส่งความเห็นคัดค้านไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย หรือนายกฯ ก็อาจส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย
ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ร่างพระราชบัญญัติ ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญ อาจให้พระราชบัญญัติตกไป หรือ ข้อความที่ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญตกไป หรือดำเนินไปตามมาตรา 81 ของรัฐธรรมนูญ และมาตรา 145
นี่เป็นระบบการออกกฎหมายของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ 2560 เขียนโดยคณะของผู้ทำรัฐประหารของฝ่ายจารีต-อำนาจนิยมเอง ที่ให้บทบาทศาลรัฐธรรมนูญต่อฝ่ายนิติบัญญัติเมื่อผ่านกฎหมายจากทางรัฐสภาไปแล้ว ไม่มีข้อไหนที่ให้ศาลรัฐธรรมนูญเข้ามาจัดการ ตั้งแต่ตอนเสนอร่าง และไม่ได้ถูกบรรจุในวาระในสภาเลย
นี่เป็นประเด็นสำคัญในการมองขอบข่ายอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ที่ใช้มาตรา 49 ซึ่งเกี่ยวกับบุคคล คณะบุคคล ที่ไม่ได้ใช้กระบวนการอำนาจนิติบัญญัติในระบอบประชาธิปไตย
ดิฉันเห็นว่า นี่เป็นเรื่องสำคัญของระบอบประชาธิปไตยที่มีการคานอำนาจ 3 อำนาจ กลายเป็นอำนาจที่ 4 เหนืออำนาจอื่น ๆ เหนือกว่าอำนาจที่มีที่มาจากประชาชนในการออกกฎหมาย ฤาว่า ขณะนี้เราอยู่ในระบอบอื่น ที่องค์กรอิสระและอำนาจศาลรัฐธรรมนูญที่มาจากคณะรัฐประหารมีอำนาจเหนือกว่าประชาชน
การตรวจสอบเนื้อหากฎหมาย ควรเป็นอำนาจของรัฐสภา แล้วจึงลงมติเห็นชอบหรือไม่ นี่เป็นหน้าที่ของรัฐสภา ไม่ใช่องค์กรอื่นมาจัดการแทน ก่อนที่จะได้เข้ารัฐสภาด้วยซ้ำ เพราะศาลรัฐธรรมนูญสามารถเข้ามาจัดการได้ตามมาตรา 148 ที่กล่าวมาแล้ว เมื่อกฎหมายผ่านรัฐสภาแล้ว หรือตามมาตรา 210 ไม่ใช่มาตรา 49
เมื่อพิจารณาประเด็นเนื้อหาในร่างแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล กรณียกเว้นความผิดที่เป็นเนื้อหาสำคัญ ผู้เสนอร่างน่าจะเอามาจากกฎหมายอาญา กรณีในปี 2478 ที่เขียนยกเว้นไว้ กรณีให้ สน.พระราชวัง เป็นผู้ร้องทุกข์ ก็น่าจะเอามาจากต่างประเทศและ คอป. ชุดนายคณิต ณ นคร
ดิฉันไม่ต้องการลงรายละเอียดในร่างของพรรคก้าวไกล เพราะนั่นควรเป็นหน้าที่ของรัฐสภา เพื่อเข้าสู่วาระในรัฐสภา
อย่างไรก็ตาม ดิฉันเชื่อดังหลายท่านเชื่อว่า กฎหมายอาญามาตรา 112 ต้องสามารถปรับปรุงแก้ไขได้ให้เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ และเป็นไปตามหลักนิติธรรม, Rule of Law ที่เป็นยุคสมัยของระบอบประชาธิปไตยที่อำนาจเป็นของประชาชน ไม่ใช่ของคณะบุคคลชั้นนำจารีต
อาทิ การแบ่งลักษณะปฏิบัติการดูหมิ่นและการอาฆาตมาดร้าย เพื่อให้การลงโทษสอดคล้องกับเหตุแห่งโทษนั้น
รวมทั้งการให้โทษขั้นสูงสุดไม่ควรสูงกว่าหรือเท่ากับที่เคยมีในยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ที่เป็น 3, 7 ปี ไม่มีโทษขั้นต่ำ
การที่ปัจจุบันมีโทษขั้นต่ำ 3 ปี โทษขั้นสูง 15 ปี มันเกินควรหรือไม่?
รวมทั้งการป้องกันไม่ให้มีการฟ้องร้องกลั่นแกล้งโดยไม่สมควรที่มีมากมาย เรื่องไม่เป็นเรื่องก็ฟ้องประชาชน เยาวชน อย่างนี้เข้าข่ายบ่อนเซาะกัดกร่อนทำลายสถาบันฯ หรือไม่? พิจารณาดู
อนึ่ง ตัวมาตรา 112 ปัจจุบันนี้ ก็มีที่มาจากการแก้ไขโดยข้อ 1 แห่งคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41 [ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 93 ตอนที่ 134 หน้า 46 (ฉบับพิเศษ) วันที่ 21 ตุลาคม 2519]
ดิฉันเชื่อว่า วิถีทางรัฐสภาของพรรคการเมือง ไม่ใช่วิถีทางล้มล้างการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ตรงข้าม สถาบันตุลาการ และศาลรัฐธรรมนูญ กลับเห็นชอบกับการทำรัฐประหารโดยกองทัพและกลุ่มคนที่เอาสถาบันมาแอบอ้างเพื่อผลประโยชน์ อย่างนี้ไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติและฝ่ายใดเลย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อิ๊งค์' ยิ้มรับ 'พ่อ-เพื่อไทย' รอดล้มล้างปกครอง ชาวเน็ตชี้จากนี้ไป 'ทักษิณ' ใส่เกียร์เหลิง
จากกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย คำร้องที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ
2 ตุลาการศาลรธน.เสียงข้างน้อย รับคำร้อง 'ทักษิณ' สั่งรัฐบาลเอื้อประโยชน์ฮุนเซน น่าจะเกิดผลใช้สิทธิล้มล้างปกครองฯ
จากกรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 10 ต.ค.2567 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูก
แก้วสรร : ประเมินคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ
แก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง "ประเมินคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ" โดยมีเนื้อหาดังนี้
ศาลรธน.ยกคำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง เอกฉันท์ 5 ประเด็นเว้นประเด็น 2
จากกรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย
ระทึกสุดขีด! 22 พ.ย. ศาลรธน.ลงมติ 'รับ-ไม่รับ' คำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง
คอนเฟิร์ม ศุกร์นี้ 22 พ.ย. 9 ตุลาการศาลรธน.นัดประชุมวาระพิเศษ หลังงดมาสองรอบ เตรียมนำหนังสือ-ความเห็นอัยการสูงสุด กางบนโต๊ะประชุม ก่อนลุ้นโหวตลงมติ”รับ-ไม่รับคำร้อง”คดีทักษิณ-เพื่อไทย โดนร้องล้มล้างการปกครองฯ
'อสส.' ตอบความคืบหน้าคดี ทักษิณ-เพื่อไทย ล้มล้างปกครองฯ ต่อศาลรธน.เเล้ว
รายงานข่าวจากสำนักงานอัยการสูงสุด ความคืบหน้ากรณี เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2567 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญมีเผยแพร่เอกสาร การพิจารณาคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา