เพจดังร้อง ปปช. สอบ 3 สส.ก้าวไกล ปมเกณฑ์ทหาร ซัดชอบเล่นบทเหยื่อโดนเปิดโปงหนัก

2 ก.พ.2567 - ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตัวแทนจากเพจ ‘วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร นำโดยนายทันกวินท์ รัฐวัฒก์อังกูร นายแทนคุณ จิตต์อิสระ และนายนิยม นพรัตน์ ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ขอให้ดำเนินคดีอาญาและตรวจสอบจริยธรรม สส.ก้าวไกล 3 คน ประกอบด้วย นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ สส.ฉะเชิงเทรา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม. กระทำความผิดในขณะดำรงตำแหน่ง สส.

โดยนายทันกวินท์ กล่าวว่า นายจิรัฏฐ์มีการนำเอกสารใบ สด.43 ออกมาแสดงต่อสาธารณะชน โดยบอกว่าเป็นเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ พร้อมท้าให้ไปตรวจสอบลายเซ็นในปี 54 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นายจิรัฏฐ์ผ่อนผันทหารอยู่ ขณะที่หน่วยงานภาครัฐก็ยืนยันว่า ไม่ใช่เอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ จึงเกิดพิรุธว่าในช่วงเวลาที่นายจิรัฏฐ์กล่าวอ้าง เหตุใดจึงมีคำว่าหมายเลขดำอยู่บนเอกสารที่นำมาแสดง เรื่องนี้จึงไม่ใช่การซื้อใบ สด.43 แต่เป็นการปลอมแปลงเอกสาร โดยที่นายจิรัฏฐ์ ทราบดีอยู่แล้วว่าเอกสารนั้นเป็นอย่างไร จึงเข้าข่ายการใช้เอกสารปลอมในการมาเผยแพร่ต่อสาธารณะ

นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์จากการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เพราะข้อเท็จจริงคือ หากไม่ได้รับการตรวจเลือกในวันที่ถูกเรียกตัว จะต้องได้รับคำพิพากษาจากศาลว่ากระทำความผิดอะไร และจะต้องเข้ารับราชการทหารทันทีโดยไม่มีสิทธิจับสลาก แต่นายจิรัฏฐ์อ้างว่า ตนเองไปเสียค่าปรับแล้วกลับมาจับใบดำใบแดงได้ เป็นการให้ข้อมูลที่บิดเบือนที่ทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ผิดพลาด จึงเป็นการกระทำความผิดทางอาญา

ขณะที่นายวิโรจน์นั้นพบข้อมูลว่า ในการพูดให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชน มีการตั้งคำถามว่า เมื่อมีการชำระเงินหรือจ่ายเงินซื้อใบ สด.43 ภาครัฐหรือกองทัพเป็นการฉ้อโกงหรือไม่ เป็นเหมือนการเห็นด้วยที่นายจิรัฏฐ์จ่ายเงินแล้วจะต้องได้เอกสารจริง ทั้งที่ตัวของนายวิโรจน์เป็นประธานคณะกรรมาธิการทหารฯ สภาผู้แทนราษฎร มีอำนาจในการตรวจสอบเรื่องนี้ ไม่จำเป็นต้องท้าทายประชาชน ไม่จำเป็นต้องท้าทายสื่อมวลชนและกองทัพ แต่สามารถดำเนินการได้เลย

ดังนั้น ข้อกล่าวหาคำว่าฉ้อโกง เป็นการยืนยันว่า นายวิโรจน์และนายจิรัฏฐ์รู้อยู่แล้วว่า มีการจ่ายค่าปรับใบ สด.43 ให้กับใคร และเมื่อไม่ได้ทำเอกสารฉบับจริง แล้วจะไปฟ้องฐานฉ้อโกงเป็นการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และหมิ่นประมาทกองทัพหรือไม่ ส่วนกรณีของนายศุภณัฐ พบว่าที่มีการให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 1 ก.พ.กรณีที่มีการซื้อขายสด.43 เกิดขึ้นจริง แต่ไม่ใช้อำนาจในการฟ้องขณะที่เป็น สส. แต่กลับกล่าวหากองทัพว่ามีการซื้อขายใบ สด.43 ดังนั้น ตนจึงจะใช้อำนาจของประชาชนตรวจสอบทั้ง 3 คน

นายทันกวินท์ หลังจากยื่นร้อง ป.ป.ช.รอบนี้แล้ว ในส่วนของนายจิรัฏฐ์ จะจบที่ชั้น ป.ป. ช. แต่ของนายวิโรจน์ และนายศุภณัฐจะมีเรื่องของจริยธรรม จึงอยากเรียกร้องให้คณะกรรมการจริยธรรม สภาผู้แทนราษฎร ตรวจสอบจริยธรรมว่ามีการใช้ตำแหน่ง ใช้อำนาจสส.มาข่มเหง กล่าวหา และท้าทายประชาชนหรือไม่ หากคณะกรรมการจริยธรรมไม่ปฏิบัติหน้าที่ ตนเองจะฟ้องคณะกรรมการจริยธรรมเช่นกัน และก่อนหน้านี้กองทัพได้บอกว่าจะร้องทุกข์กล่าวหา คงต้องรอว่าจะดำเนินการอย่างไร หากกองทัพไม่ดำเนินการก็จะฟ้องกลับทันทีเช่นกัน

นายทันกวินท์ กล่าวว่า ที่นายศุภณัฐ ไม่เอาเอกสารมาชี้แจง คงเพราะกลัวซ้ำรอยกับนายจิรัฏฐ์ จึงอยากให้เอาออกมาโชว์เพื่อจะได้ดำเนินการตามความผิดทางอาญา และนายศุภณัฐก็เคยต้องคำพิพากษาจากการไม่ไปเกณฑ์ทหารเมื่อเดือน มิ.ย. ปี 55 ส่วนของนายจิรัฏฐ์ ก็เกิดขึ้น ปี 55 แต่คำชี้แจงแตกต่างกัน เพราะนายศุภณัฐสามารถชี้แจงได้ชัดเจนว่าหลังต้องคำพิพากษาจะต้องไปแสดงตนเพื่อเข้ารับราชการทหารโดยไม่มีสิทธิ์จับสลาก แต่นายจิรัฏฐ์เกิดขึ้นปี 55 เช่นกันแต่กลับอ้างว่า จำไม่ได้ จึงอยากให้นายจิรัฏฐ์ไปสอบนายศุภณัฐ

ด้านนายนิยม กล่าวว่า กรณีของนายจิรัฏฐ จากการตรวจสอบมั่นใจ100%ว่า ไม่ได้เข้ารับการเกณฑ์ทหาร และใช้เอกสารปลอมในการชี้แจงต่อสาธารณะ จึงมายื่นต่อ ป.ป.ช.เพื่อจะถอดถอน โดยหลักฐานที่นำมามอบให้ เป็นหลักฐานที่มีรวมถึงคำพิพากษาศาลและข้อกฎหมายต่างๆ

“อยากฝากถึง สส.แบงค์ ซึ่งมีชื่อคนหนึ่งคล้ายสส.ได้ถูกคำพิพากษา เมื่อปี 55 จากกรณีไม่ได้เข้ารับการเกณฑ์ทหาร และถูกตัดสินจำคุกแต่ให้รอลงอาญา2ปี และนายศุภณัฐได้ท้าทายให้เปิดหลักฐาน ซึ่งมองว่า หากไม่จริงก็ควรจะต้องตอบคำถามมาว่า ไม่ได้หนีทหารและอยากให้นำสารออกมาชี้แจง ไม่ใช่มาตั้งคำถามกลับแล้วบอกจะฟ้อง และผมถามว่า สส.พรรคก้าวไกล ประชาชนห้ามถาม ห้ามสงสัยใช่หรือไม่ ประชาชนห้ามตรวจสอบพวกคุณใช่หรือไม่ พวกคุณอยากให้ยกเลิกและต้องการแก้ไข ม.112 เพื่อจะตั้งคำถามกับสถาบัน แต่ผมถามคุณในฐานะประชาชนที่เห็นความไม่ปกติ ซึ่งเราได้ข้อมูลมาแบบนี้ คุณก็ต้องชี้แจงต่อสาธารณะ ว่าไปรับการเกณฑ์ทหารมาจริง และสิ่งที่พวกผมพูดเป็นการกล่าวหา เอาเอกสาร ใบสด.43มายืนยัน และฝากถึง สส.แบงค์ อย่าข่มขู่ประชาชน”

นายนิยม กล่าวอีกว่า ฝากถึงสส.ก้าวไกลเลิกเล่นบทเหยื่อสักที เวลามีปัญหาอะไรจากการกระทำของพวกคุณเอง พอพวกเราออกมาตรวจสอบก็กล่าวหาว่าเป็นไอโอ กล่าวหาว่าเป็นกลุ่มที่ต้องการมาดิสเครดิต ซึ่งมองว่าหากในอดีตไม่ทำพฤติกรรมแบบนี้ไว้ ใครจะมาตรวจสอบคุณได้ หากไม่ผิดจะกลัวทำไม และวันนี้ตนเองมั่นใจในหลักฐานที่มีอยู่ ที่ทางพรรคบอกว่าคนเท่าเทียมกัน แต่คุณให้สัมภาษณ์ว่า สส.มีตัวเล็กตัวใหญ่ นี่เป็นความไม่เท่าเทียมของพรรคคุณ และกำลังสะท้อนให้เห็นความเหลื่อมล้ำของสังคม เพราะคุณเป็นลูกคนมีเงินไม่ต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหาร อันนี้เป็นความเหลื่อมล้ำ ใช้อำนาจอื่นๆเข้ามาช่วยเหลือ และฝากถึงกองเชียร์พรรคก้าวไกลด้วยว่าเห็นความเหลื่อมล้ำหรือไม่

นายแทนคุณ กล่าวว่า หน้าที่เปิดโปงเป็นหน้าที่ของ สส.ฝ่ายค้าน และขออย่ารอช้า พร้อมยืนยันการมายื่นหนังสือในวันนี้มาในนามส่วนตัวไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ หลังมีคนมาขอให้สอยสส.พรรคก้าวไกลเดือนละคน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แฉอีโม่ง วิ่งเต้นล้มปมชั้น 14 เตือนหยุดทำเถอะ

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2568 ให้จับตาดูวันที่ 15 ม.ค.ที่แพทยสภาขีดเส้นตายให้แพทย์รักษาทักษิณ ชินวัตร ชั้น 14 ส่งรายงานการรักษามาตรวจสอบการเอื้อหนีติดคุก แล้วยังต้องติดตามผลตรวจสอบของ ป.ป.ช.กรณีชั้น

'ชัยชนะ' ลั่นทักษิณไม่ผิด แต่เป็นผู้ได้รับผลของการกระทำนำตัวไปรักษาชั้น 14

นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราชและรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึง กรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

'โรม' ชี้ ป.ป.ช. ทำคดีจนท.รัฐ เอื้อ 'ทักษิณ' นอนชั้น 14 หลักฐานเยอะไม่ต้องใช้เวลานาน

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)รับพิจารณาคดีเจ้าที่รัฐเอื้อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ารักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ