'อ.ไชยันต์' กางข้อมูล 'อนุสัญญายุโรป' เรื่องมาตรการยุบพรรค

2 ก.พ. 2567 – ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง “การห้ามพรรคการเมืองกระทำการบางอย่าง และการยุบพรรคการเมือง” โดยระบุว่า

อนุสัญญายุโรปเพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและคุณค่าของมรดกทางกฎหมายของยุโรป ได้แนะนำแนวปฏิบัติเกี่ยวกับแนวทางการห้ามพรรคการเมืองและมาตรการที่คล้ายคลึงกัน ดังต่อไปนี้

1.รัฐควรตระหนักว่าทุกคนมีสิทธิที่จะสมาคมอย่างเสรีในพรรคการเมือง สิทธินี้จะรวมถึงเสรีภาพในการถือความคิดเห็นทางการเมืองและรับและให้ข้อมูลโดยปราศจากการแทรกแซงจากหน่วยงานของรัฐและโดยไม่คำนึงถึงเขตแดน ข้อกำหนดในการจดทะเบียนพรรคการเมืองจะไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธินี้

2.ข้อจำกัดใดๆ ในการใช้สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่กล่าวข้างต้นผ่านกิจกรรมของพรรคการเมืองจะต้องสอดคล้องกับบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องของอนุสัญญายุโรปเพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและสนธิสัญญาระหว่างประเทศอื่นๆ ในเวลาปกติและในกรณีฉุกเฉินสาธารณะ

3.การห้าม หรือบังคับยุบพรรคการเมือง จะกระทำได้เฉพาะในกรณีที่พรรคการเมืองสนับสนุนการใช้ความรุนแรงหรือใช้ความรุนแรงเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อโค่นล้มคำสั่งตามรัฐธรรมนูญตามระบอบประชาธิปไตย อันจะบ่อนทำลายสิทธิและเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้ ข้อเท็จจริงเพียงอย่างเดียวที่ว่าพรรคที่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญโดยสันติไม่ควรเพียงพอสำหรับการห้ามหรือการยุบพรรค

4.พรรคการเมืองโดยรวมไม่สามารถรับผิดชอบต่อพฤติกรรมส่วนบุคคลของสมาชิกที่ไม่ได้รับอนุญาตจากพรรคภายในกรอบกิจกรรมทางการเมือง/สาธารณะและพรรค

5.การห้าม หรือ ยุบพรรคการเมือง ซึ่งเป็นมาตรการที่กว้างขวางเป็นพิเศษ ควรใช้ด้วยความยับยั้งชั่งใจอย่างที่สุด ก่อนที่จะขอให้หน่วยงานตุลาการที่มีอำนาจสั่งห้ามหรือยุบพรรค รัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐอื่นๆ ควรประเมินโดยคำนึงถึงสถานการณ์ของประเทศที่เกี่ยวข้องว่าพรรคดังกล่าวก่อให้เกิดอันตรายต่อระเบียบทางการเมืองที่เสรีและเป็นประชาธิปไตยหรือต่อสิทธิของพรรคการเมืองนั้นหรือไม่ และมาตรการอื่นๆที่รุนแรงน้อยกว่าสามารถป้องกันอันตรายดังกล่าวได้หรือไม่

6.มาตรการทางกฎหมายที่มุ่งห้าม หรือยุบพรรคการเมืองโดยบังคับตามกฎหมาย จะเป็นผลมาจากการพิจารณาของศาลว่าไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และจะถือว่ามีลักษณะพิเศษและอยู่ภายใต้หลักการของสัดส่วน มาตรการดังกล่าวจะต้องอยู่บนพื้นฐานหลักฐานที่เพียงพอว่าพรรคเองและไม่ใช่เพียงสมาชิกรายบุคคลเท่านั้นที่ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ทางการเมืองโดยใช้หรือเตรียมที่จะใช้วิธีการที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ

7.การห้าม หรือ การยุบพรรคการเมือง ควรได้รับการตัดสินใจโดยศาลรัฐธรรมนูญ หรือ หน่วยงานตุลาการที่เหมาะสมอื่นๆ ในขั้นตอนที่ให้หลักประกันกระบวนการทางกฎหมาย ความเปิดเผย และการพิจารณาคดีอย่างยุติธรรม

(อ้างอิง โปรดดู EUROPEAN COMMISSION FOR DEMOCRACY THROUGH LAW (VENICE COMMISSION) GUIDELINES ON PROHIBITION AND DISSOLUTION OF POLITICAL PARTIES AND ANALOGOUS MEASURES, Strasbourg, 10 January 2000 CDL-INF (2000) 1).

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' อย่าสับสน! โพลวัดผลงาน ไม่ใช่เรตติ้งนายกฯ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าสับสน !!! ระหว่างผลงาน กับการเลือกนายกฯ คนต่อไป

'วิโรจน์' บอก 7 ส.ค. ผลออกมา ต้องมีคำอธิบายที่ปชช.เข้าใจได้

'วิโรจน์' บอกตามตรง 7 ส.ค. ก็แค่วันปกติ ยัน ไม่ตื่นตระหนก แต่ไม่ประมาท 'คดียุบก้าวไกล' หากผลเป็นลบ ก็ต้องตอบสังคมให้ได้ภายใต้กรอบนิติรัฐ-นิติธรรม

พิธา มั่นใจ ก้าวไกล ไม่ถูกยุบ แต่เตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์

'พิธา' มองบวก 'ก้าวไกล' ยังมีโอกาสรอดสูง พร้อมเตรียมแผนรับรองทุกกรณี ลั่น ถึงไม่สมบูรณ์แบบ แต่การมีอยู่ของพวกผม จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศมากกว่า