'ทนายอั๋น-ลุงศักดิ์' ได้ทีขยี้ซ้ำ! ร้อง ปปง. ฟัน 'ศรีสุวรรณ'

‘ทนายอั๋น บุรีรัมย์’ ควง ‘ลุงศักดิ์’ ยื่นหนังสือ ‘ปปง.’ สอบบ้าน 2 หลัง ‘ศรีสุวรรณ’ ข้องใจไม่มีอาชีพ คาดมีรายได้ 2 ทาง ‘รองโฆษก ปปง.’ ยันผิดจริงสาวถึงได้ เหตุคดีไม่ซ้อน ใช้เวลาไม่นาน

29 ม.ค. 2567 – ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ และนายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล หรือลุงศักดิ์ คนเสื้อแดง นำหลักฐานเป็นเอกสารเกี่ยวกับที่มาของบ้านเดี่ยว 2 หลังที่จังหวัดปทุมธานี ของนายศรีสุวรรณ จรรยา โดยเชื่อว่าอาจจะได้มาโดยมิชอบ

โดยนายภัทรพงศ์ กล่าวว่า นายศรีสุวรรณ เป็นนักร้องเรียนมากว่า 10 ปี ไม่มีอาชีพชัดเจน ไม่มีที่มารายได้เป็นหลักแหล่ง ทำให้เกิดความสงสัยว่า นำเงินที่ไหนมาซื้อทรัพย์สินราคาแพงแบบนี้ ซึ่งที่ผ่านมาคิดว่านายศรีสุวรรณมีรายได้ 2 ทาง คือ เจ้าของค่าย ที่เป็นนักการเมืองระดับรัฐมนตรี ที่มีพฤติกรรมชอบซื้อเรือดำน้ำ เป็นคนจ่ายเงิน เพื่อให้ไปร้องเรียนบุคคลหรือ ข้าราชการ นักการเมืองอื่น เพื่อให้ไปเล่นงานฝั่งตรงข้ามทางการเมืองของเจ้าของค่าย และทำการเบี่ยงเบนความสนใจจากสังคมที่มีประเด็นของค่าย โดยเจ้าของค่าย จะชอบให้นายศรีสุวรรณเป็นกระแส ยิ่งถูกโจมตีจะยิ่งได้รับความสนใจจากเจ้าของค่ายเป็นพิเศษ ส่วนรายได้ทางที่ 2 คือการไปร้องเรียนภาคเอกชนให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เพื่อให้ได้รับความเสียหาย และจะวิ่งไปหานายศรีสุวรรณเพื่อให้ช่วยเหลือ

เมื่อถามว่า เป็นการประกาศท้าชนนายศรีสุวรรณเลยหรือไม่ ทนายอั๋น ตอบว่า “ผมท้าชนนายศรีสุวรรณมานานแล้วเพราะพฤติกรรมแบบนี้มองว่ากระจอกกว่าที่คิด และผมขอประกาศว่านายศรีสุวรรณจะไม่กลับมากล้าร้องเรียนได้อีก ถ้ากลับมาจะกล้าหรือ ไม่อายหรือ“

ทนายอั๋น กล่าวว่า นายศรีสุวรรณเคยไปพูดผ่านรายการโทรทัศน์แห่งหนึ่งบอกว่าตนเองเป็นทนายความ ซึ่งตนเองไม่เชื่อ จึงไปตรวจสอบที่สภาทนายความ พบว่านายศรีสุวรรณไม่ได้เป็นทนายความตามที่พูด ทำให้ยิ่งน่าสงสัยว่าก็ไม่ได้มีอาชีพอะไร แค่ทำไมถึงมีเงินใช่จ่าย โดยเฉพาะการซื้อบ้านหลังที่จังหวัดปทุมธานี ส่วนสาเหตุที่พาลุงศักดิ์มาด้วยนั้น เพื่อมาประกาศชัยชนะ เพราะตนเองและลุงศักดิ์ได้ต่อสู้และเป็นคู่ขัดแย้งกับนายศรีสุวรรณ

ด้านลุงศักดิ์ กล่าวว่า การที่ตนทำร้ายไป 1-2 คน เมื่อครั้งก่อน ได้ทิ้งปริศนาไว้แล้วว่า ต้องมีใครสังคนเป็นคนชั่วที่สุดในประเทศนี้ รอเวลามา 15 เดือนเต็ม วันนี้ฟ้ามีตาแล้ว ขอให้ติดตามไปยาวๆ และยืนยันว่าไม่ใช่คนชอบใช้ความรุนแรง แต่บางครั้งก็ต้องใช้ความรุนแรงเพื่อเปิดแผล ส่วนวันนี้ไม่ขอฝากอะไรไปถึงนายศรีสุวรรณ เพราะจะกลายเป็นผู้อาวุโสรังแกรุ่นน้อง แต่เขาพูดว่ารักชาติ ตนก็รักชาติ แต่การรักชาติของเรามันผิดกัน เพราะตนเน้นคุณธรรมจริยธรรม ไม่รับเงินจากนักการเมืองและองค์กรใด ใช้เงินตนเองและเงินของทนายความ และจะไม่เป็นเบ๊ของใคร

ขณะที่นายสุทธิศักดิ์ สุมน ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฎหมายในฐานะรองโฆษกประจำสำนักงาน ปปง. กล่าวว่า จะนำหลักฐานที่ทนายอั๋นมาร้องไปตรวจสอบ หากเข้าข่ายจะนำเสนอคณะกรรมการธุรกรรมไปตรวจสอบและดำเนินการ ซึ่งเคสนี้ไม่ได้ซับซ้อน เพราะมีพยานหลักฐานเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับหลายคนที่เป็นเส้นทางการเงิน แม้ว่าจะเป็นการจ่ายเงินสดก็สามารถที่จะตรวจสอบได้ และหากมีการยึดทรัพย์ จะไม่ยึดทรัพย์เพียงแค่บุคคลที่ถูกกล่าวหา แต่จะเชื่อมโยงไปถึงบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

สำหรับหลักฐานที่ทนายอั๋นยื่นมานั้น จะนำไปรวมกับหลักฐานทางตำรวจและสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่มีการดำเนินการตรวจสอบอยู่ในขณะนี้ เท่าที่ดูอาจจะเข้าข่ายความผิดเป็นฐานเป็นบุคคลสนับสนุนให้เจ้าพนักงานกระทำความผิด และอาจจะเข้าข่ายกรรโชกทรัพย์ แต่ขอดูพยานหลักฐานอีกครั้งก่อน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มีหนาว! ‘เรืองไกร’ ร้อง ปปช. ตรวจสอบจนท.ของรัฐ 8 ราย ยื่นบัญชีและเสียภาษีถูกต้องหรือไม่

วันนี้ผมจึงส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้ ป.ป.ช. ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ของรัฐรวม 8 รายดังกล่าว

อดีตจเรตำรวจฯ ขอทำเรื่องเฉพาะหน้า ‘เพิ่มเงิน-สวัสดิการตำรวจ’ ก่อนจะไปเปลี่ยนประธาน ก.ตร.

ณะนี้มีการเคลื่อนไหวจะปฏิรูปตำรวจโดยตำรวจเอง หลักๆคือให้นายกรัฐมนตรีไม่เป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.  แต่ประธานจะมาจากการเลือกกันเองเหมือนคณะกรรมการข้าราชการอัยการ หรือ ก.อ. กระผม ไม่แน่ใจว่าจะเกิดผลดีกว่าเดิมหรือแย่กว่าเก่า

‘นักกฎหมายตำรวจ’ ถอดบทเรียน การเข้าระงับเหตุ ลดความสูญเสีย

ด้วยความเคารพความกล้าหาญ และเสียสละของผู้เสียชีวิต ควรแก่การยกย่องเป็นเกียรติประวัติสืบไป แต่การเข้าระงับเหตุ ของตำรวจไทยมีข้อผิดพลาด ต้องนำไปถอดบทเรียนแก้ไข

สลด! หนุ่มมุกดาหารโดนไฟดูด ดับคาเสาไฟฟ้าแรงสูง

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มุกดาหาร ได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนตายบนเสาไฟฟ้าแรงสูง บริเวณทางเข้าหมู่บ้านคำตุนาง ไปยังหมู่บ้านกุดโง้ง ตำบลมุก อำเภอเมือง

‘บิ๊กเอก’ ยกเสียงสะท้อนจากตำรวจ เจ็บปวดผู้มีอำนาจข่มขืนองค์กร ถึงเวลาต้องปฏิรูปตร.

อีกเสียงสะท้อนจากนายตำรวจ ที่สื่อสารออกมา อย่างเจ็บปวด เปรียบเทียบให้เห็นภาพองค์กรตำรวจ ผู้มีอำนาจทางการเมือง อดีตผู้บังคับบัญชาสูงสุด ทำอะไรไว้ ควรที่จะปฏิรูปตำรวจอีกหรือไม่