'จตุพร 'คาดหลัง 18 ก.พ.การเมืองส่อเดือด มีนาฯ สว.โหมทวงดีลเขย่า'เศรษฐา'กระเพื่อมหนัก เชื่อก่อน พ.ค.เกิดเปลี่ยนแปลง จับตา ทูซี้เป็นนายกฯ ชนวนป่วนสถานการณ์พิเศษมาเร็ว
26 ม.ค.2567 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า ช่วงหลัง 18 ก.พ. ไป มี.ค. จนถึง พ.ค. อาจเห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง หากทุกอย่างเป็นสภาพเดิม โดยนายเศรษฐา ทวีสิน ยังเป็นนายกฯ สถานการณ์พิเศษคงเกิดเร็ว
นายจตุพร กล่าวว่า การแก้ ม.112 พรรคเพื่อไทยช่วงหาเสียงก็เสนอไม่แตกต่างจากพรรคก้าวไกล โดยนายเศรษฐา ทวีสิน อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร และแกนนำพรรคยืนยันจะแก้ไข แต่เมื่อเป็นรัฐบาลกลับเล่นอีกบท ซึ่งเหมือนกับการหาเสียงไม่กู้เงินมาแจกดิจิทัลวอลเล็ต เมื่อได้เป็นรัฐบาลก็มากู้เงิน
อีกทั้งกล่าวว่า ถ้ารัฐบาลบริหารตามปกติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขพิเศษแล้ว คงนำงบประมาณมาใช้จ่ายกันสะพัดกับโครงการใหม่ๆ หรือการจัดซื้อจัดจ้างตามงบประมาณปี 2567 ตั้งไว้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้งบประมาณยังไม่ถูกนำมาใช้จนกว่าจะถึง พ.ค. แสดงว่า นายเศรษฐาต้องเป็นนายกฯ ถึง 9 เดือนตั้งแต่ ส.ค. 2566-พ.ค. 2567 จึงได้ใช้งบประมาณ ซึ่งผิดปกติอย่างมาก
"เชื่อว่านายเศรษฐา จะเดินไปถึงวันที่จะได้ใช้งบประมาณเหรอ และไม่มีเหตุผลทางรัฐศาสตร์และไม่มีหลักความเป็นไปได้เลย เพราะมันคือข้อตกลงที่ทำกันไว้ จึงได้เสียง สว.152 เสียงมาโหวตให้เป็นนายกฯ รวมถึงนักโทษชั้น 14 ก็เป็นเรื่องเดียวกันหมด คือการดีลกันไว้แล้ว"
นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าการดีลกันแล้วได้อำนาจเบ็ดเสร็จ นายเศรษฐาต้องได้ใช้งบประมาณไปแล้วตั้งแต่เป็นรัฐบาล ดังนั้น ดีลนี้จึงน่าจะมีเงื่อนไขระยะเวลากำหนดไว้ เพราะการอภิปรายทั่วไปของ สว.เหมือนกับพวกทวงดีลจากนายเศรษฐาและรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
อีกทั้งคาดว่า ปรากฎการณ์ สว.ทวงดีลได้อภิปรายทั่วไปในมีนาคมนี้ แสดงว่า การเจรจาจะเข้มข้น หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขข้อตกลงแล้ว องค์กรอิสระที่แช่แข็งชนักบางเรื่องอยู่คงมีความชัดเจนในการขยับบางอย่างให้เห็นกันตามลำดับ
นอกจากนี้ ระบุว่า รัฐบาลไม่ทำผลงานตามหาเสียงไว้ โดยดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ได้เป็นเรื่องที่ตกลงหรือดีลกันไว้ตั้งแต่ต้น อีกอย่างโครงการแลด์บริดจ์เป็นการสวมเรื่องของรัฐบาลเดิม ค่ารถไฟฟ้าตลอดสาย 20 บาทก็ได้แค่สองสาย ขณะที่ค่าแรงงานขั้นต่ำก็ยังไม่ได้ ดังนั้น สิ่งที่หาเสียงไว้ยังทำไม่ได้สักเรื่อง จึงต้องหันหน้าไปทำกับเรื่องที่ไม่ได้หาเสียงกับประชาชน คือ แลนด์บริดจ์ จึงเป็นสิ่งผิดปกติ
ดังนั้น ภายใต้สถานการณ์ขณะนี้ รัฐบาลควรเอาเรื่องที่หาเสียงไว้มาทำเป็นเรื่องแรกก่อน ไม่ควรชูแต่โครงการแลนด์บริดจ์ที่ไม่ได้หาเสียง ซึ่งยังไม่มีประเทศใดให้ความสนใจอย่างจริงจังจะมาทำโครงการนี้ ส่วนนายกฯ เดินสายไปชักชวนคนมาลงทุนก็เป็นเรื่องปกติ ไม่รู้ต่างชาติจะมาตามการชวนหรือไม่ เพราะแลนด์บริดจ์หาจุดคุ้มทุนแทบไม่เจอ
"โครงการแลนด์บริดจ์ ยังศึกษาไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ดังนั้นความเป็นไปได้จึงไกลกว่าการแจกเงินดิจิทัลมากมาย เมื่อรัฐบาลประโคมความรักชาติบ้านเมืองมาปะปนกับการสร้างแลนด์บริดจ์ เพื่อเห็นแก่ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ แล้วพรรคเพื่อไทยตอนหาเสียงเคยพูดไว้เหรอ ไม่เคยพูดเลย"
นายจตุพร กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลได้บริหารด้วยงบประมาณ 2567 สถานารณ์บ้านเมืองจะเป็นเรื่องหนึ่ง แต่เมื่อมาแบบผิดปกติ ต้องผ่านการดีลทำข้อตกลงกันอะไรทำได้ ทำไม่ได้ ดังนั้น รัฐบาลที่ไม่ได้ใช้งบประมาณเลยจึงมีสภาพแย่หนักกว่าสมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ
อีกทั้งกล่าวว่า ยิ่งมีการดีลบนเงื่อนไขพิเศษ เพื่อนักโทษชั้น 14 ได้กลับประเทศไทย กระทั่งได้นายเศรษฐา เป็นนายกฯ จากการโหวตของ สว.สายพล.อ.ประยุทธ์ แต่งตั้ง จึงเป็นสิ่งนอกเหนือการคาดหมายว่าฝ่ายหนุนยึดอำนาจพรรคเพื่อไทยจะมาโหวตให้เพื่อไทยได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง ดังนั้น การดีลและมีข้อตกลงกันเท่านั้นจึงทำให้สิ่งเหนือคาดหมายเกิดเป็นจริงขึ้นมาได้
"วันนี้ถ้าอยู่ภายใต้สถานการณ์ทางการเมืองของรัฐบาลแบบนี้ จึงไม่มีต้นทุนความน่าเชื่อถือ และคนจะไม่เชื่อมั่น ถ้าประชาชนหาความจริงไม่ได้เพราะแต่ละเรื่องพูดอย่างทำอย่าง ซึ่งเราไม่เคยเจอการเมืองในลักษณะแบบนี้ เราเคยเจอแบบพูดแล้วไม่ทำ ซึ่งเสียหายน้อยกว่าพวกพูดอย่างทำอย่าง การเมืองจึงมาอยู่ที่จุดต่ำสุด ซึ่งสิ่งที่ไม่คาดฝันอาจเกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้น อย่าประมาท"
นายจตุพร กล่าวว่า ทุกอย่างในสิ่งผิดปกตินั้นจะเกิดขึ้นก่อน 11 พ.ค.นี้ ส่วนการเปลี่ยนแปลงนายกฯ หากมีนาคมถึงเมษายนไม่เปลี่ยนตัวแล้ว อาจมีเหตุการณ์อีกอย่างเกิดขึ้น เพราะการเลือกคนที่มีชนักติดตัวมาเป็นนายกฯ ย่อมเป็นชนวนเหตุให้เกิดสถานการณ์บางอย่างขึ้นมาได้
ดังนั้น หลังวันที่ 18 ก.พ.นี้ คนชั้น 14 คงได้กลับบ้าน การเมืองจะมีเปลี่ยนแปลง เพราะมีอำนาจเบ็ดเสร็จขึ้น แล้วยังต้องมีความเด็ดขาดในเรื่องการดีลกันไว้ อีกอย่างถ้าการดีลเป็นการตกลงขายขาดกันแล้ว เชื่อว่าดิจิทัลวอลเล็ตคงไม่อยู่ในสภาพสร้างวิกฤตให้ได้ ซึ่งสะท้อนได้ชัดเจนว่า การดีลยังเป็นเรื่องต่อเรื่อง ไม่มีการขายขาดกัน
"ถ้าการดีลไม่มีอะไรผิดแปลกแตกต่างแล้ว เชื่อว่าหลายเหตุการณ์คงไม่เกิดขึ้น และสภาพขณะนี้หลายคนรู้เวลากันอยู่ เพราะการบริหารของรัฐบาลผิดปกติไปหมด"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ซัด‘ทักษิณ’จุ้นขอถอนฟ้องนายกฯ
ถล่มเละ! บทบาท “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ไปขอ “เสรีพิศุทธ์” ถอนฟ้องคดี “เศรษฐา” ตั้ง “บิ๊กต่อ” เป็น ผบ.ตร.
นายกฯ เผยส่งหลักฐานครบปมตั้ง 'ทนายถุงขนม' แล้ว
นายกฯ เผย ส่งหลักฐานเพิ่มเติมให้ศาลรัฐธรรมนูญแล้วปม 40 สว. ร้องตั้ง 'พิชิต ชื่นบาน'
นายกฯ คาด 'อนุทิน' ส่งไม้ต่อให้ 'ชาดา' มาดูแลหนี้นอกระบบ
นายกฯ คาด 'ชาดา' เข้ามาดูแก้หนี้นอกระบบแทน เชื่อใจ 'อนุทิน' มอบหมายใครทำงานเต็มที่แน่ ชี้ปัญหาหนี้นอกระบบเรื่องใหญ่ต้องเดินต่อ
ตำรวจโชว์ผลงานปราบยาเสพติด 9 เดือนยึดทรัพย์กว่า 9 พันล้านบาท!
ตำรวจแถลงผลปราบปรามยาเสพติดรอบ 9 เดือน ทลาย 995 เครือข่าย ยึดยาบ้ากว่า 800 ลานเม็ด ยึดทรัพย์กว่า 9,000 ล้านบาท
'เศรษฐา' ฝันต่อยอดงาน 'THACCA SPLASH' เพิ่มมูลค่าไม่น้อยกว่า 4 ล้านล้าน!
นายกฯ พร้อมต่อยอดความสำเร็จจากงาน 'THACCA SPLASH - Soft Power Forum 2024' ปฐมบทการส่งเสริม 11 อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ไทย ตั้งเป้าหมายสร้างมูลค่าไม่น้อยกว่า 4 ล้านล้านบาท
'เศรษฐา' ร่วมทาสีสะพานโครงการพัฒนาคูคลองเกาะรัตนโกสินทร์
นายกฯ ตรวจติดตามโครงการพัฒนาคู คลอง ในเกาะรัตนโกสินทร์ฯ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร่วมกิจกรรมทาสีสะพาน พอใจการดำเนินงานภายใต้ กทม.-กลาโหม-ภาคีเครือข่าย