25 ม.ค.2567 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทนายรัชพล ศิริสาคร เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดคดีหุ้นสื่อไอทีวี ที่ได้เคยแจ้งความไว้ที่ สน.ทุ่งสองห้องเมื่อ 13 มิ.ย.2566 ให้ดำเนินคดีกับ นายคิมห์ สิริทวีชัย ประธานในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นไอทีวี ปี 2566 และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้ร้องเรียน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เข้าข่ายเรื่องการแจ้งความเท็จ ปลอมเอกสาร หลังพบข้อมูลจากสื่อมวลชนว่ารายงานผลการประชุม ขัดแย้งกับคลิปวิดีโอการประชุมที่ถูกนำมาเสนอผ่านสื่อมีความพยายามฟื้นคืนชีพไอทีวีหรือไม่ โดยมี พ.ต.ท.ปริญญา เหมมาชูเกียรติกุล รอง ผกก. สำนักงานเทคโนโลยี และการสื่อสาร ในฐานะเวรอำนวยการ ประจำกองรักษาการณ์เป็นตัวแทนรับเรื่อง
ทนายรัชพล กล่าวว่าที่เดินทางมายื่นเรื่องวันนี้เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินและวินิจฉัยแล้วว่า ไอทีวีไม่ได้เป็นสื่อแล้วแต่รายงานการประชุมที่ออกมาว่าเป็นสื่อจึงเป็นรายงานเท็จและมีการนำเอกสารรายงานการประชุมไปยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต.ซึ่งมองว่าเข้าข่ายเป็นความผิด และทาง สน.ทุ่งสองห้องยังไม่มีความคืบหน้าใดๆในเรื่องดังกล่าว มีเพียงการเชิญ แยม ฐาปนีย์ เอียดศรีไชย ไปให้ปากคำ แต่ในส่วนของ กกต.อ้างว่าติดการประชุมตลอด ส่วนนายคิมห์ และนายเรืองไกร ทราบว่ายังไม่ได้มีการเรียกเข้าไปให้ปากคำแต่อย่างใด ซึ่งส่วนหนึ่งเชื่อว่าพนักงานสอบสวนรอคำพิพากษา ดังนั้นเมื่อผลคำพิพากษาออกมาแล้วมีความชัดเจนแล้วทางพนักงานสอบสวนจึงต้องดำเนินการให้รวดเร็วยิ่งขึ้น
สาเหตุที่คดีล่าช้าไม่มีความคืบหน้า ส่วนหนึ่งเนื่องจากทาง กกต.ที่เป็นผู้รับหนังสือรายงานการประชุมไม่ได้เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน จึงอยากขอความร่วมมือกับทาง กกต.ขอให้ร่วมมือกับพนักงานสอบสวน เพราะกกต.ถือเป็นผู้เสียหายโดยตรงเป็นผู้รับหนังสือรายงานการประชุม และควรเป็นหน่วยงานที่ควรแจ้งความแต่ยังนิ่งเฉยไม่มีการแจ้งความใดๆ ส่วนที่นายคิมห์ ได้เบิกความต่อศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับรายงานผลการประชุมผู้ถือหุ้นฯ โดยชี้แจงว่าที่ตอบไปว่าบริษัทยังประกอบกิจการตามวัตถุประสงค์ ไม่ได้เป็นการยืนยันว่าบริษัทดำเนินการเป็นสื่อมวลชนนั้นจะยังเข้าข่ายยื่นเอกสารหลักฐานเท็จหรือไม่นั้น เห็นว่าการที่นายคิมห์ชี้แจงแบบนั้นใครฟังก็รู้และเข้าใจว่าบริษัทยังดำเนินการอยู่ จะมาบอกว่าหมายความเป็นอย่างอื่นไม่ได้จะบิดเบือนไม่ได้ เห็นว่าเรื่องนี้ควรเข้าสู่กระบวนการในชั้นศาลและให้ศาลตัดสินว่าสิ่งที่ นายคิมห์พูดมีความหมายว่าอย่างไร เพราะคนทั่วไปฟังก็เชื่อว่าไอทีวียังประกอบกิจการสื่ออยู่ แม้จะอ้างว่าเป็นการบอกไปตามคู่มือของกรมธุรกิจการค้าถ้าบริษัทไม่ได้ดำเนินกิจการให้ระบุตามวัตถุประสงค์ข้อใดข้อหนึ่งจึงเลือกใส่ว่าเป็นสื่อโทรทัศน์ก็ตาม
ทนายรัชพล กล่าวว่าแม้หลังฟังคำพิพากษา นายพิธาจะไม่ฟ้องกลับแต่ส่วนตัวมองว่านายพิธา มีสิทธิ์ที่จะฟ้องร้องเกี่ยวกับคดีอาญารวมถึงฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ด้วยเพราะหลายสิ่งมีพิรุธอยู่และไอทีวีก็จอดำมานานแล้วแต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับนายพิธา ส่วนตนเองยืนยันว่าจากนี้ก็จะยังคงติดตามความคืบหน้าคดีนี้ต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีหนาว! ‘เรืองไกร’ ร้อง ปปช. ตรวจสอบจนท.ของรัฐ 8 ราย ยื่นบัญชีและเสียภาษีถูกต้องหรือไม่
วันนี้ผมจึงส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้ ป.ป.ช. ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ของรัฐรวม 8 รายดังกล่าว
'เศรษฐา' อย่าสับสน! โพลวัดผลงาน ไม่ใช่เรตติ้งนายกฯ
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าสับสน !!! ระหว่างผลงาน กับการเลือกนายกฯ คนต่อไป
เปิดผลสำรวจ 'เศรษฐา' อันดับ 1 ครองใจประชาชน พิธา ตามอันดับ 2
เปิดผลสำรวจ“เศรษฐา”อันดับ 1ครองใจประชาชน มองเป็น นักการเมืองที่มีบทบาท ผลงานโดดเด่น ถูกใจที่สุด ส่วน “พิธา” ได้ที่ 2
พิธา มั่นใจ ก้าวไกล ไม่ถูกยุบ แต่เตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์
'พิธา' มองบวก 'ก้าวไกล' ยังมีโอกาสรอดสูง พร้อมเตรียมแผนรับรองทุกกรณี ลั่น ถึงไม่สมบูรณ์แบบ แต่การมีอยู่ของพวกผม จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศมากกว่า
'พิธา' เดินสายมู จ.เชียงใหม่
'พิธา' เดินสายมู ร่วมพิธีสงสนาน อาบน้ำนมพระพิฆเณศ-เวียนเทียนวัดศรีสุพรรณ เจ้าอาวาสมอบองค์พระให้ แต่ก็ต้องคืน เหตุมูลค่าเกิน 3,000 บาท พร้อมพบปะประชาชนถนนวัวลาย ป้าวัย 71 วิ่งโผกอด ร้องโอ้ยชื่นใจ ถ้าไม่มีเกมสกปรก ได้เป็นนายกฯไปแล้ว
'ก้าวไกล' เปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ. 'พิธา' อ้อนพี่น้องชาวลำพูนเชื่อในประชาธิปไตย
ก้าวไกลจัดสภากาแฟที่ลำพูน แลกเปลี่ยนปัญหาภาคเอกชน 'พิธา' ชี้เศรษฐกิจภาคเหนือมีแรงเฉื่อยลักษณะพิเศษโตช้า