มีโอกาสผิดฐานถือหุ้นสื่อ ‘พิธา’ เหมือนเด็กอนุบาลที่ไม่ทำการบ้านส่งครู

23 ม.ค. 2567 - ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า ทำไมนายพิธาจึงมีโอกาสผิดฐานถือหุ้นสื่อ?

หัวใจสำคัญของการวินิจฉัยอยู่ที่ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 ใน มาตรา 42 (3) บุคคลผู้มีลักษณะเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

จากกรณีหุ้นไอทีวีพบว่ามีการจดทะเบียนในฐานะสื่ออย่างชัดเจน แม้ว่าจะประสบปัญหาทางธุรกิจมาเป็นระยะเวลาหลายปี รวมถึงไม่ได้ดำเนินธุรกิจตามปกติเฉกเช่นในอดีต แต่ก็ยังไม่ได้จดทะเบียนเลิกกิจการกับกรมพัฒนาธุรกิจทางการค้าแต่อย่างใด ดังนั้น ในทางกฎหมายจึงถือว่าปัจจุบันไอทีวีมีสถานะ “ยังดำเนินกิจการอยู่”

ส่วนการที่ศาลแพ่งแต่งตั้งนายพิธาเป็นผู้จัดการมรดกของหุ้นไอทีวีนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 ในกรณีของผู้จัดการมรดกทั่วไปก็อาจไม่ได้มีสิทธิ์ในทรัพย์มรดก แต่ในกรณีของนายพิธาที่เป็นทายาทโดยธรรมคนสำคัญ จัดเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทรัพย์มรดกนั้นด้วย ถ้านายพิธามั่นใจว่าไม่ผิด นายพิธาจะรีบโอนหุ้นปัดสวะให้พ้นตัวทำไม?

ต่อมาไอโอด้อมส้มมักยกกรณีต่างๆ มาเปรียบเทียบในลักษณะบิดเบือนโดยละเลยใจความสำคัญ เช่น กรณีชาญชัย ไม่ผิดฐานถือหุ้นสื่อเพราะหุ้นเอไอเอสไม่ใช่หุ้นสื่อโดยตรง กรณีภาดา ไม่ผิดฐานถือหุ้นสื่อเพราะบริษัทที่เกี่ยวข้องจดวัตถุประสงค์ไว้หลายประการ แต่ยังไม่เคยประกอบกิจการสื่อใดๆ และจดทะเบียนเลิกบริษัทไปแล้ว เป็นต้น

แต่ทว่าไอโอด้อมส้ม สื่อบริวารของนายทุนด้อมส้ม นักวิชาการด้อมส้ม เครือข่ายปั่นกระแสบิดเบือนทางโซเชียลมีเดียของด้อมส้ม ฯลฯ กลับไม่ค่อยนำเสนอกรณีสุรโชค ที่ผิดฐานถือหุ้นสื่อเพราะถือหุ้น อสมท. เพียงแค่ 1 หุ้นเท่านั้น โดยศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาให้ต้องความผิดทางอาญาพร้อมกับตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 20 ปี

อย่างไรก็ดี ควรปรับปรุงกฎหมายให้เท่าทันต่อการโกงที่ทันสมัย ยกตัวอย่าง เช่น พรรคการเมืองหนึ่งมีนายทุนครอบงำพรรค แม่กับญาติของนายทุนถือหุ้นสื่อจำนวนมาก ตลอดจนมีขบวนการไอโอที่ครองพื้นที่ในโซเชียลมีเดียเกือบทั้งหมด แถมยังมีการใช้ดาราแห่กันออกมาชี้นำให้เลือกพรรคดังกล่าวบริเวณคูหาโดยไม่ยำเกรงต่อกฎหมาย

แม้ว่ากฎหมายจะล้าหลังไม่เท่าทันต่อกลโกงในยุคปัจจุบัน แต่กฎหมายย่อมต้องเป็นกฎหมาย และที่สำคัญที่สุด นายพิธาทำตัวด้อยกว่ากฎหมายที่ล้าหลัง วุฒิภาวะต่ำกว่าวิญญูชนปกติ ขาดกระทั่งความรับผิดชอบต่อตนเองในระดับพื้นฐาน นายพิธาที่ไม่ยอมโอนหุ้นให้เรียบร้อยตั้งแต่แรก จึงเหมือนกับเด็กอนุบาลที่ไม่ทำการบ้านส่งครู.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บทพิสูจน์ตัวตนที่แท้จริงของ ‘ทักษิณ ชินวัตร‘

30 ธ.ค.2567 - ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ "ดร.นิว" นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก  Suphanat Aphinyan เรื่อง

ดร.นิว จวกวิญญูชนจอมปลอม ปมชูบุคคลแห่งปี!

ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่าอานนท์ นำภา ฮีโร่ของด้อมส้มวิญญูชนจอมปลอม

ดร.นิว ชำแหละพฤติกรรมครอบงำ จุดเริ่มต้นแทรกแซงทหาร ไปสู่ ‘ฮุนเซนโมเดล’

ที่น่ากลัวที่สุด การแทรกแซงทหารจากฝ่ายการเมืองอาจเป็นบันไดสำคัญไปสู่การครอบงำสถาบันสูงสุดตามแผนการฮุนเซนโมเดล

เขย่าศึก อบจ.อุบลฯ ชี้ทาง 'เลือกขั้วใหม่ ไม่เอาขั้วใหญ่'

“พิธา” เดินหน้าช่วยพรรคประชาชนหาเสียง 'เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ' ขอ ปชช. เลือกขั้วใหม่ ไม่เอาขั้วใหญ่ พร้อมเปลี่ยนด้วยนโยบาย “5 ดี"