จี้รัฐขีดเส้น ห้ามขายกัญชา กระท่อม 'เด็ก นักเรียน นักศึกษา'

อาจารย์อุ๋ย ปชป. ชี้กัญชา กระท่อม มีกฎหมายควบคุมชัดเจน ผู้จำหน่ายต้องมีใบอนุญาต ห้ามโฆษณา ห้ามขายเด็ก นักเรียน นักศึกษา หากฝ่าฝืนมีโทษถึงจำคุก

14 ม.ค.2567 – จากกรณีที่มีหลายฝ่ายแสดงความกังวลถึงสถานการณ์การบริโภคกัญชาและกระท่อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน หลังจากที่มีการปลดล็อกทางกฎหมายไม่ให้พืชทั้งสองชนิดเป็นยาเสพติดอีกต่อไปนั้น นายประพฤติ ฉัตรประภาชัย หรืออาจารย์อุ๋ย นักวิชาการด้านกฎหมายและอดีตผู้สมัคร สส. กทม. เขตบางกะปิ พรรคประชาธิปัตย์  ระบุว่า ในส่วนของกัญชานั้น ปัจจุบันร่างพระราชบัญญัติกัญชากัญชง (ใหม่) กำลังเข้าสู่กระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณชน ซึ่งจะกำหนดห้ามใช้บริโภคเพื่อสันทนาการ อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบันการจำหน่ายกัญชาโดยเฉพาะในส่วนของช่อดอกซึ่งมีสารที่ทำให้เสพติดในปริมาณสูง (THC) จะต้องยึดตาม ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2565 ฉบับวันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งข้อ 3 กำหนดให้ผู้จำหน่ายจะต้องได้รับใบอนุญาต และห้ามจำหน่ายช่อดอกกัญชาหรือแปรรูปช่อดอกกัญชาเพื่อการค้าแก่ ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร นักเรียน นิสิต นักศึกษา และห้ามโฆษณาทุกช่องทาง รวมทั้งข้อห้ามอื่น ๆ เช่น ห้ามจำหน่ายช่อดอกกัญชาเพื่อการสูบในสถานที่ประกอบการ ฯลฯ หากฝ่าฝืนต้องถูกเพิกถอนใบอนุญาต และหากจำหน่ายโดยไม่มีใบอนุญาตต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายประพฤติ  ระบุว่า นอกจากนี้ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 424) ลงวันที่ 25 พ.ย. 2565 ออกความในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 เรื่อง การกำหนดอาหารที่ห้ามผลิต หรือ นำเข้า หรือ จำหน่าย ยังห้ามใส่ช่อดอกกัญชาในอาหารด้วย และการสูบกัญชาในที่สาธารณะยังถือเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 27 มาตรา 28/1 ประกอบมาตรา 74 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสองหมื่นห้าพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายประพฤติ  กล่าวว่า ส่วนพืชกระท่อมนั้นปัจจุบันมี พระราชบัญญัติพืชกระท่อม พ.ศ. 2565 เป็นกฎหมายหลักที่ใช้บังคับ ซึ่งในมาตรา 24 กำหนดห้ามจำหน่ายใบกระท่อมให้แก่บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกินสามหมื่นบาท และห้ามโฆษณาสนับสนุนให้นำไปบริโภคโดยนำไปผสมกับยาเสพติดอื่น หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสองแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และห้ามขายในบางสถานที่ เช่น สถานศึกษา หอพัก สวนสาธารณะและสวนสนุก หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท

“ผมจึงขอฝากให้ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง กวดขันให้เป็นไปตามกฎหมายด้วย แม้พืชดังกล่าวจะไม่ใช่สารเสพติดต้องห้ามแล้ว แต่ก็ยังต้องตกอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลโดยกฎหมาย ไม่ใช่ปล่อยเสรีโดยไม่มีสิ่งใดมากำกับ ทั้งนี้เพื่อสวัสดิภาพและอนาคตของเด็กและเยาวชนทุกคน” นายประพฤติ ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สส.ภูมิใจไทย ซัดนโยบายกัญชากลับเป็นยาเสพติด ไม่เป็นผลดีต่อการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน

นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีนโยบายกัญชาของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสินว่า ตนไม่เห็นด้วยกับ

'ก้าวไกล' เหยื่อระบอบทักษิณ! ตราบใดกระแส 'อนุรักษ์นิยม' ยังไม่ฟื้น

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่าพรรคก้าวไกล เหยื่อของระบอบทักษิณ!

ชี้ กฎหมายกัญชา ฉบับใหม่ล็อกสเป็กเอื้อนายทุนโรงพยาบาล เปิดชื่อคนดังมีเอี่ยวเพียบ

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์เฟซบุ๊ก เปิดเผยว่า ร่างประกาศ

ปมขัดแย้งภายในเพื่อไทย บทพิสูจน์ภาวะผู้นำ 'อุ๊งอิ๊ง'

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ความขัดแย้งในพรรคเพื่อไทย : บทพิสูจน์ภาวะผู้นำของอุ๊งอิ๊ง