4 ม.ค.2567 - กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีหมายเรียก นาย ส. อดีตสส.และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กับพวก รวม 11 คน มารับทราบข้อกล่าวหาฐานร่วมกันบุกรุกเข้ายึดถือ ครอบครอง ก่อสร้าง แผ้วถาง ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หมู่ที่ 13 ตำบลโพธิ์งาม อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี ตามคำสั่งของอัยการสูงสุด โดยผู้ต้องหาทั้งหมดได้รับทราบข้อกล่าวหาแล้ว หลังจากนี้จะได้มีหนังสือส่งบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าว รวมทั้งผลการประเมินมูลค่าความเสียหายเป็นรายบุคคล ไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อมีคำสั่งทางคดีต่อไป
คดีนี้สืบเนื่องมาจากคณะกรรมการคดีพิเศษ ได้มีมติในการประชุม ครั้งที่ 4/2555 เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.2555 ให้รับกรณีบุคคลและกลุ่มบุคคลกระทำการบุกรุกและออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หมู่ที่ 13 ตำบลโพธิ์งาม อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี จำนวน 22 แปลง เนื้อที่ประมาณ 251–3–52 ไร่ มูลค่าความเสียหาย 21,134,075.50 บาทไว้สอบสวนเป็นคดีพิเศษ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และ ที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยรับเป็นคดีพิเศษที่ 149/2555
ทางการสอบสวนปรากฏข้อเท็จจริงว่า มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องในการออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมายอันความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ จึงส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 149/2555 ไปดำเนินการตามกฎหมาย ในส่วนของการกระทำความผิดฐานบุกรุกของราษฎร ดีเอสไอได้สืบสวนขยายผลและแยกสำนวนการสอบสวนเป็นคดีพิเศษที่ 136/2558 มีการดำเนินคดีกับนาย ส. กับพวก รวม 13 คน ในความผิดฐานยึดถือครอบครองพื้นที่อุทยานแห่งชาติ อันเป็นการสมคบกับเจ้าหน้าที่ของรัฐในการออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมายและนำเอาโฉนดที่ดินไปใช้เพื่อยึดถือครอบครองที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติ
ซึ่งภายหลังมีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 บังคับใช้ กำหนดให้คดีที่มีการกระทำความผิดเกี่ยวข้องกันกับคดีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ดำเนินการอยู่ ให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช.กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 136/2558 ไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อรวมดำเนินการกับคดีพิเศษที่ 149/2555 ที่ส่งไปก่อนหน้านี้
ต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ส่งสำนวนคืนมาให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษทำการสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาต่อไป พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จึงรับเป็นคดีพิเศษที่ 2/2562 และทำการสอบสวนจนเสร็จสิ้น เสนอสำนวนการสอบสวนพร้อมความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา 12 คน และเห็นควรสั่งไม่ฟ้อง 1 คน เนื่องจากถึงแก่ความตาย ไปยังพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด
ล่าสุดอัยการสูงสุดได้พิจารณาแล้ว มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการประเมินมูลค่าความเสียหายเป็นรายบุคคล ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้มีหนังสือแจ้งให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ดำเนินการประเมินมูลค่าความเสียหายและได้รับผลการประเมินเรียบร้อยแล้ว และให้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ นาย ส. กับพวก ตามบทกฎหมายที่แก้ไขใหม่ ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 คน ถึงแก่ความตาย สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับไปตามกฎหมาย จึงมีหมายเรียกผู้ต้องหาทั้ง 11 คน มารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
DSI ส่งสำนวนคดี 'เว็บพนันเครือข่ายแม่มนต์' ให้อัยการแล้ว
ร.ต.อ.เอกเขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ นายราชพฤกษ์ ชูดำ รองผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยี
'เด็จพี่' ร้องDSI สอบทุจริต บ.NT-เอกชน ฮั้วประมูลจัดซื้อจัดจ้าง งบเกือบพันล้าน
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อและอดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย เดินทางยื่นเอกสารต่อ ร.ต.อ.วิษณุ
ชาวบ้านน้ำพุร้อน ร้องดีเอสไอ สอบผู้ใหญ่บ้านร่ำรวยผิดปกติ บกพร่องหน้าที่ หน่วยงานเงียบฉี่
ชาวบ้านพุน้ำร้อน ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี กว่า 100 คนได้มารวมตัวกันที่บริเวณหน้าด่านพุน้ำร้อนเพื่อมายื่นหนังสือต่อเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร้องเรียนให้ตรวจสอบพฤติกรรมผู้ใหญ่บ้าน
'ดีเอสไอ' ชง ป.ป.ช. ฟันทุจริต 4 เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร-ปศุสัตว์ เอี่ยวนำเข้าหมูเถื่อน
จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ภายใต้การกำกับของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม
'อัจฉริยะ' หอบหลักฐานมอบอัยการ 'จนท.ดีเอสไอ' เอี่ยวคดีรีดเป้ 140 ล้าน
'อัจฉริยะ' หอบหลักฐานให้ 'อัยการวัชรินทร์' แฉเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเอี่ยวคดี ร่วมวางแผนรีดเงินเป้ 140 ล้าน
ไฟเขียวลากไส้ ‘บิ๊กต่อ’ใจใหญ่ ถอนฟ้อง‘ตั้ม’!
ไฟเขียวลากไส้ ‘บิ๊กต่อ’ใจใหญ่ ถอนฟ้อง‘ตั้ม’!