'บิ๊กตู่' มอบนโยบายงบปี 66​ ชี้คนไทยรับข้อมูลจากโซเชียล รัฐต้องทำให้ปชช.เข้าใจถูกต้อง

22 ธ.ค.2564 - ที่ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ชั้น 1 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี​ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมสัมมนา และมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 โดยมี ครม.อาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมจ้าราชการร่วมงาน

พล.อ.ประยุทธ์​ กล่าวตอนหนึ่ง ว่า ทุกคนทราบดีว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด -19 มีแนวโน้มที่ดีขึ้นมาตามลำดับ ทำให้สามารถผ่อนคลายมาตรการต่างๆไปได้บ้าง ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวธุรกิจค้าส่ง ค้าปลีก ธุรกิจบันเทิงและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง แต่อย่างไรก็ตามคงต้องระมัดระวังกันต่อไป ในทุกวิธีในเรื่องของมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด และได้ทำเรื่องนี้มาอย่างยาวนานแล้ว ตามมาตรการร่วมกับรัฐบาล ศบค. และสาธารณสุข เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาด จะต้องเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆด้วยความมีสติ มีการเตรียมความพร้อมต่างๆตามสมมติฐาน ในช่วงระยะเวลาต่อไป

ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐ มีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ จัดทำรายจ่ายงบประมาณ 3.1 ล้านล้านบาท และวงเงิน 3.7 หมื่นล้านบาท มีเงินกู้ 5 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตามพ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท จะสิ้นสุดลงในปีงบประมาณ 2565 เพราะฉะนั้นการใช้จ่ายประจำของภาครัฐปีงบประมาณ 2566 ถือปัจจัยสำคัญปัจจัยเดียวในเรื่องการฟื้นฟูของเศรษฐกิจให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บท และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งแนวทางการจัดทำปีงบประมาณ 2566 วัตถุประสงค์เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณ สามารถจะขับเคลื่อนพัฒนาตามยุทธศาสตร์ชาติได้อย่างต่อเนื่อง และแก้ไขปัญหาที่สำคัญของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพประสิทธิผล และเกิดผลอย่างเป็นรูปประธรรม โดยการจัดทำงบประมาณมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างพุ่งเป้า การเรียนรู้เทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่ และเศรษฐกิจฐานรากถือเป็นเศรษฐกิจสำคัญ พร้อมเน้นย้ำให้บริหารรายจ่ายงบประมาณประจำอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัด นำเทคโนโลยีสารสนเทศมาปรับใช้ให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงประเมินผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินการ ว่าเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้มากน้อยเพียงใด หากโครงการใดไม่สามารถบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้จะต้องยกเลิก เรื่องนี้เป็นสำคัญที่สุด

นอกจากนี้ยังต้องมีแผนการใช้จ่ายงบประมาณการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด -19 ซึ่งต้องยอมรับว่า เรายังคงต้องอยู่กับ โควิด -19 ไปอีกนาน จึงต้องปรับตัวใช้ชีวิตอยู่อย่างปลอดภัย และจะต้องมีการส่งเสริมการกระจายอำนาจไปยังการปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายโอนภารกิจที่สามารถปฏิบัติได้จริง จัดบริการสาธารณะลดความเหลื่อมล้ำ รวมไปถึงการจัดเก็บรายได้ ขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และจะต้องจัดทำงบประมาณให้ครอบคลุมทุกแหล่งเงิน โดยหากมีงบประมาณนอกจะต้องนำมาพิจารณาก่อน เพื่อลดภาระงบประมาณและทำให้ทรัพยากรประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า อย่าให้เกิดการทุจริตโดยเด็ดขาด เนื่องจากจะมีความผิดทั้งผู้ให้และผู้รับ โดยประชาชนสามารถส่งข้อมูลร้องเรียนเข้ามายังรัฐบาลได้

“วันนี้ไหนๆได้มาพบปะกับหลายคน ขอยืนยันว่าผมในฐานะผู้นำรัฐบาลเวลานี้ยินดีที่ได้ร่วมงานกับรัฐบาล ครม.และพรรคร่วมรัฐบาลทุกท่านที่สนับสนุนการใช้จ่ายงบประมาณปีที่ผ่านมา ซึ่งทุกอย่างทำต่อเนื่องตามยุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูปถ้าเราไม่มีเป้าหมายไม่มีทิศทางก็เหมือนเดินทางไปไหนไม่มีวันสิ้นสุด ไม่มีอะไรยั่งยืนทางต้องยั่งยืนเดินไปตามนี้”นายกฯกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะที่ปัญหาอื่นๆ มีอีกมากมาย ตนเข้าใจว่าคนไทยวันนี้ได้รับข้อมูลจากโซเชียลมีเดียจำนวนมาก ทุกคนรู้หมดรู้ว่าต้องการอะไรและอยากได้อะไร สิ่งสำคัญที่สุดต้องเข้าใจซึ่งกันและกัน โดยรัฐต้องทำความเข้าใจกับประชาชนว่าอะไรคือวิธีทำงานและระเบียบปฏิบัติ ซึ่งบางทีอาจมีคำพูดคำจาว่าต้องทำอย่างนั้นต้องทำอย่างนี้ แต่หลักการบริหารอยู่ที่ไหน ใครจะทำหรือพูดอะไรก็ได้ แต่มันต้องเข้าใจการบริหารราชการแผ่นดินที่มีกฎระเบียบมากมาย

วันนี้เรามีโอกาสและได้เปรียบอีกหลายประเทศ หลายกิจกรรมสร้างรายได้ช่วงที่ผ่านมา มีหลายอย่างเป็นประโยชน์หลายอย่างเป็นนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่ในการดูแล การคุมเข้มมาตรการต่างๆให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยขอให้ทุกคนช่วยกันคิดหลายคนรับราชการอยู่กับบริหารราชการแผ่นดินมาหลายปี ทุกคนต้องคิดว่าอะไรคือเป้าหมายของประชาชนและด้านเป้าหมายของตัวเรา หลายคนเคยนั่งอยู่แถวหลังวันหน้าก็ขึ้นมานั่งแถวหน้า ยืนยันตนไม่เคยหยุดคิดว่าความลำบาก ทำอย่างไรให้คนไทยยิ้มได้ทั้งประเทศ ทำอย่างไรไทยจะปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ และการเรียนรู้ความเข้าใจซึ่งกันและกัน มีสติและเหตุผล หากอยู่กันด้วยความสับสนอลหม่านทั้งหมด โดยเฉพาะสถานการณ์ขณะนี้ที่ยังค่อนข้างรุนแรง ทำอย่างไรให้ร่วมกันคิด ตนบังคับให้ใครคิดเหมือนกันไม่ได้อยู่แล้ว แต่ขอให้ร่วมมือและเข้าใจรัฐบาล

จากสถานการณ์โควิดเราล้มแล้วต้องรีบลุกรีบก้าวให้ไว ด้วยความร่วมมือร่วมใจภักดิ์รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และกระบวนการบริหารราชการแผ่นดินที่มีประสิทธิภาพ และทุกอย่างขึ้นกับความไว้เนื้อเชื่อใจของประชาชนทั้งประเทศ สร้างการเรียนรู้แก้ไขเข้าใจเราทะเลาะกันไม่ได้ สิ่งสำคัญความมีเสถียรภาพทางการเมืองของรัฐบาล ของประเทศชาติ เสาหลักของประเทศชาติ ซึ่งประเทศไทยโชคดีอยู่ในดินแดนมีความสุข เป็นดินแดนสุวรรณภูมิ มาอย่างยาวนานหลายร้อยปี เพราะฉะนั้นจะต้องนำประวัติศาสตร์ที่ดีมาเป็นตัวก่อกำเนิดให้เราได้ทำประวัติศาสตร์ใหม่ร่วมกันกับคนรุ่นปัจจุบัน

วันนี้คือประวัติศาสตร์ในอนาคตเรา จึงต้องเริ่มจากคนในยุคนี้โดยหน้าที่ของรัฐบาลคณะรัฐมนตรี ราชการมีอย่างเดียวคือทำให้ทุกคนมีความสุขมีความสุขอย่างพอเพียง คำว่าพอเพียงคือมีมากใช้มาก มีน้อยใช้น้อย และต้องทำเพื่อประชาชน การทำงานเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชนและเป็นที่รักยิ่งโดยประชาชนต้องได้รับประโยชน์สูงสุด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เพจพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ปลื้ม ‘คนคุณภาพประชาธิปัตย์’ ได้เป็นขรก.การเมือง

เฟซบุ๊กเพจ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความว่า ครม. เห็นชอบ แต่งตั้ง “คนคุณภาพประชาธิปัตย์” เป็นข้าราชการการเมือง สังกัด ทส. และ สธ.

เอ็มโอยู44-เอื้อนายทุน จุดจบรัฐบาลไม่ครบเทอม

หากอ้างอิงข้อมูลจากนิด้าโพลเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา หัวข้อ รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์ อยู่ครบเทอมหรือไม่ โดยประชาชนมากกว่า 57.71% มองว่าอยู่ไม่ครบเทอม ประกอบด้วยสัดส่วนร้อยละ