'อ.หริรักษ์' กังขาแก้หนี้นอกระบบเบี่ยงเบนเงินดิจิทัล แนะตั้งกองทุนปล่อยเงินกู้รายย่อย

'อ.หริรักษ์' กังขานายกฯแก้หนี้นอกระบบเบี่ยงเบนความสนใจ digital wallet ที่ทำท่าจะไปไม่รอด ชี้ไม่มีอะไรใหม่แก้ไม่ตรงจุด แนะจัดตั้งกองทุนเพื่อปล่อยเงินกู้รายย่อยโดยไม่ต้องมีหลักประกันคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำ

1 ธ.ค.2566 - รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร ดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า

แม้ว่าการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคการเกษตร ภาคธุรกิจและภาคประชาชนจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาว่าจะดำเนินการแก้ไข แต่ที่เน้นในการแถลงก็คือ การพักหนี้เกษตรกรเท่านั้น หนี้นอกระบบต้องถือว่าเป็นปัญหาใหญ่มากปัญหาหนึ่งของประเทศ แต่นายกรัฐมนตรีไม่ได้เน้นเรื่องนี้ในการแถลงต่อรัฐสภาแต่อย่างใด แต่จู่ๆนายกรัฐมนตรีก็ลุกขึ้นมาให้ข่าวและแถลงข่าวว่าจะดำเนินการแก้หนี้นอกระบบอย่างจริงจัง จึงทำให้น่าสงสัยว่าที่ลุกขึ้นมาทำเรื่องหนี้นอกระบบในช่วงนี้เพื่อต้องการเบี่ยงเบนความสนใจของสังคมจากเรื่อง digital wallet ที่ทำท่าจะไปไม่รอดหรือไม่

ฟังจากการแถลงของนายกรัฐมนตรีแล้ว เสียงวิพากษ์วิจารณ์ก็คือ ไม่มีอะไรใหม่ที่แตกต่างจากรัฐบาลชุดก่อนๆที่ผ่านมา ซึ่งยังไม่มีรัฐบาลใดสามารถแก้ปัญหาหนี้นอกระบบได้สำเร็จ นอกจากจะไม่มีอะไรใหม่แล้ว ยังดูเหมือนว่า รัฐบาลยังไม่ได้วิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหา และเลือกวิธีแก้ปัญาที่ตรงจุด และวางแผนการดำเนินงานอย่างเป็นระบบมาก่อน ไม่ต่างอะไรกับ digital wallet ที่เพิ่งมาคลำหาวิธีการดำเนินการเมื่อได้เป็นรัฐบาลแล้ว จนบัดนี้ก็ยังคงคลำอยู่

อย่าลืมที่ Albert Eistein เคยกล่าวไว้ว่า เราไม่อาจทำอะไรเหมือนเดิมทั้งหมด แต่ยังหวังผลลัพท์ที่แตกต่าง ดังนั้นน่าจะอนุมานได้ว่า หากรัฐบาลยังไม่มีมาตรการใหม่ๆเพื่อแก้หนี้นอกระบบ ผลลัพท์ก็ยังจะเป็นเช่นเดิมกับรัฐบาลชุดก่อนๆ

การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ เท่าที่ผ่านมาเป็นเหมือนกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เจรจาเป็นรายๆไป จบแล้วจบกัน ตราบใดที่ยังไม่มีแหล่งเงินกู้ถาวรที่เป็นทางเลือกให้กับผู้กู้รายย่อย เพื่อทำให้ผู้ปล่อยกู้นอกระบบหมดความหมาย ผู้ที่เดือดร้อนเรื่องเงินก็ไม่มีทางเลือกอื่น เนื่องจากโอกาสที่จะกู้เงินจากสถาบันการเงินหลัก เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยาก จึงต้องกลับไปหาผู้ปล่อยกู้นอกระบบที่คิดอัตราดอกเบี้ยมหาโหดเช่นเดิม

หากรัฐบาลมีความจริงใจที่จะแก้ปัญหาหนี้นอกระบบให้ได้แบบยั่งยืน ไม่ใช่เพียงต้องการคะแนนเสียง รัฐบาลต้องไม่เพียงให้ลูกหนี้มาลงทะเบียน แต่ต้องหาข้อมูล จัดทำบัญชีรายชื่อผู้ปล่อยเงินกู้ เช่นเดียวกับที่ทำกับผู้มีอิทธิพล และหลังจากการเจรจาประนอมหนี้แล้ว หากยังมีผู้ปล่อยเงินกู้ที่คิดอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด และมีวิธีการทวงหนี้ที่ขัดต่อกฎหมาย ต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

รัฐบาลควรจัดตั้งกองทุนขึ้นโดยเฉพาะ เช่นเดียวกับกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา เพื่อปล่อยเงินกู้ให้ผู้กู้รายย่อยที่มีรายได้น้อยโดยไม่ต้องมีหลักประกันเงินกู้และคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำมากๆ โดยกำหนดวงเงินสูงสุดไว้ไม่ให้สูงจนเกินไป ที่เรียกว่า micro หรือ nano lending กองทุนดังกล่าวนี้อาจให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้ดูแล หรือจัดตั้งองค์กรขึ้นใหม่เป็นการเฉพาะก็ได้ และอาจเปิดให้บุคคลทั่วไปที่ต้องการช่วยผู้มีรายได้น้อยที่มีความเดือดร้อน สามารถใช้เงินตัวเอง ซึ่งเป็นเพียงหลักหมื่น ส่งเงินให้กู้ผ่านกองทุนนี้ได้ โดยดอกเบี้ยที่ได้รับไม่ต้องเสียภาษี

ไม่ว่ารัฐบาลจะใช้วิธีใดก็ตามในการแก้หนี้นอกระบบ มีวิธีใหม่หรือใช้วธีเดิมๆก็ตาม หากทำได้สำเร็จจริง ก็ขออนุโมทนาด้วย เพราะดังที่กล่าวแล้วว่า หนี้นอกระบบเป็นปัญหาใหญ่มากของประเทศปัญหาหนึ่ง ใครสามารถแก้ปัญหาได้สำเร็จ ก็สมควรปรบมือให้ด้วยใจจริง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'จตุพร' จี้คณะดีลจัดการ 'เศรษฐา' ก่อนหายนะ ชี้ทุนรุกยึดที่ดินทับลานเชื่อมขายคอนโดพ่วงที่ดิน

'จตุพร' ลั่นนายกฯ อยู่ต่อ หายนะบ้านเมืองลามก่อวิกฤตทับถมหนักหน่วงทั้งขายคอนโดพ่วงสิทธิ์ที่ดิน ตั้งคาสิโน ดันแลนด์บริดจ์ แลกเฉือนที่ดิน 3 แสนไร่ ปชช.แบกหนี้ดิจิทัล 1.8 ล้านล้าน จวกคณะดีลต้องออกมาจัดการก่อนเสียหายใหญ่โต แนะยกเลิกมติ ครม.ต้นต่อปัญหาทับลาน สะสางแยกสิทธิ์ที่ดินกลุ่มชาวบ้าน ขยายเขตอุทยาน และจัดการทุนบุกรุกเด็ดขาด

'จุรินทร์' อัดรัฐบาล ซื้อเวลาไปวันๆ ทำไมไม่ถามกฤษฎีกาเรื่อง ดิจิตอล Wallet เสียที

'จุรินทร์' อัดรัฐบาล เรื่องดิจิตอล Wallet ทำไมไม่ถามกฤษฎีกาเสียที จะได้ชัดเจนว่าถูกหรือผิดกฎหมาย เพราะข้ออ้างยื้อเวลาฟังไม่ขึ้น เหมือนซื้อเวลาสร้างความหวังประชาชนไปวันๆ

'เศรษฐา' ต่อสายหารือนายกฯลาว ยืนยันร่วมมือแก้ปัญหายาเสพติดแนวชายแดน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้หารือทางโทรศัพท์กับ นายสอนไซ สีพันดอน (H.E. Sonexay Siphandone) นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกัน

'นักวิชาการ' วิเคราะห์ผลการเลือกสว.จะเป็นผลดีต่อประเทศชาติ มากกว่าเป็นผลเสีย

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า

นายกฯเศรษฐา ปลื้มชาวศรีสะเกษ ต้อนรับสุดอบอุ่น ยันปลายปีนี้ได้เงินหมื่นแน่นอน

นายกฯ กราบ ‘รักษาการแทนเจ้าคณะอำเภอขุขันธ์’ สวดชยันโต ให้พร ‘ทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติอยู่ดีมีสุข’ ย้ำคำมั่นชาวศรีสะเกษ ได้ดิจิทัลวอลเล็ตได้แน่ปลายปี ยันสส.ดูแลพื้นที่ดี นำปัญหาสะท้อนรัฐบาล