“จตุพร” หนุนนิรโทษกรรมคดีการเมืองทุกฝ่าย พร้อมคดี 112 ชี้สถานการณ์เปลี่ยน ต้นเหตุปัญหาขัดแย้งตระบัดสัตย์หวนคืนดีกันหมดแล้ว ลั่นอภัยทุกฝ่ายได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ติงเพื่อไทยอย่าขวางคดี 112 เหตุคนชั้น 14 จะโดนเล่นงานด้วย
26 พ.ย. 2566 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ ว่า ตนสนับสนุนให้นิรโทษกรรมคดี ม. 112 ให้คนรุ่นใหม่ได้รับการอภัยเพื่อจะได้เริ่มต้นใหม่ หากนิรโทษกรรมเฉพาะคดีการเมืองเฉพาะผู้ชุมนุมทางการเมืองรุ่นเก่าได้ประโยชน์แล้ว ในอนาคตย่อมมีความขัดแย้งกันไม่ยุติระหว่างคนรุ่นใหม่กับรุ่นเก่า
นายจตุพร กล่าวว่า ร่าง พรบ.นิรโทษกรรมคดีทางการเมืองทุกฝ่ายตั้งแต่ปี 2549 รวมทั้งคดี ม.112 นักการเมืองและสังคมควรร่วมมือให้อภัย เพราะขณะนี้จุดเริ่มต้นความขัดแย้งได้กลับหวนมาคืนดีกันหมดสิ้นแล้ว จึงสมควรนิรโทษกรรมให้ผู้ชุมนุมทางการเมืองกับทุกฝ่ายจึงเป็นสิ่งที่ต้องกระทำเป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม ถ้าพรรคเพื่อไทยจะขวางการนิรโทษกรรมคดี ม.112 ต้องคิดให้ดี เพราะคนรุ่นใหม่จะไม่ได้รับผลการนิรโทษกรรมด้วย แต่จะเกิดประโยชน์สำหรับนักการเมือง นักเคลื่อนไหว ผู้ชุมนุมทางการเมืองรุ่นเก่าเท่านั้น ดังนั้น สิ่งสำคัญของการนิรโทษกรรมจะต้องคิดและถูกจัดวางไว้โดยไม่มีผลประโยชน์ทางการเมืองอื่นใดจึงจะเป็นหัวใจของการยุติความขัดแย้ง
“ถ้าเพื่อไทยขวางนิรโทษกรรมคดี 112 แล้ว อย่าลืมว่าผู้ต้องหาคนสำคัญที่ต้องคดี 112 คือชั้น 14 ถ้าเด็กโดนคดี ชั้น 14 ก็ต้องโดนด้วย และวันปล่อยตัวคนชั้น 14 ในต้นเดือนธันวานี้ สน.ปทุมวันต้องอายัดตัว (ในคดี 112) ดังนั้น เรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องของฝ่ายค้านหรือรัฐบาล”
นายจตุพร ย้ำว่า จุดเริ่มต้นของคดี 112 นั้น อยู่ที่ความผิดพลาดทางการเมืองที่นักการเมืองต้องการเอาตัวเองรอด แต่ไม่ได้ทำให้สถาบันรอดเลย ถ้าต้องการให้สังคมจบลงแบบนโยบาย 66/23 ที่ให้อภัยต่อความขัดแย้งและการสู้รบกันระหว่างรัฐบาลกับคอมมิวนิสต์ แล้วมาเริ่มต้นกันใหม่หมด ซึ่งวันนี้ทำไมจะให้อภัยด้วยการนิรโทษกรรมคดี 112 ไม่ได้
อีกทั้งกล่าวว่า ถ้าจะนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองแล้ว ก็ไม่ควรทิ้งใครไว้ให้กลายเป็นปัญหาบานปลายในอนาคตอีก และยังจะเป็นการสร้างพระราชภาระ ยิ่งจะเป็นปัญหากับสถาบัน ดังนั้น จึงต้องนิรโทษกรรมคดี 112 ด้วย
“เพราะอย่างน้อยที่สุดในสังคมที่ไร้ความหวัง เมื่อนักการเมืองตระบัดสัตย์กันหมด ที่เป็นปฐมบทให้เกิดความขัดแย้งก็ดีกันหมดแล้ว ได้รับอานิสงส์ลดโทษจาก 8 ปีเหลือปีเดียว และยังไม่ติดคุกสักวันด้วย แล้วที่เหลือจะเอาอะไรกันอีก เมื่อเดินมาถึงจุดนี้ควรจะมีความเข้าใจกันแล้ว”
นายจตุพร กล่าวถึงโครงการซอฟพาวเวอร์ว่า เพื่อป้องกันความสับสนและถกเถียงกันไม่มีสิ้นสุด ควรเปลี่ยนชื่อใหม่แต่ให้เข้าใจตรงกันว่า การปฏิบัติการนั้น เป็นซอฟพาวเวอร์ที่มีความซึมซับ เกิดอารมณ์ร่วมจนเป็นที่ยอมรับของคนไทยและต่างประเทศจึงจะเกิดผลดีต่อผลผลิตวัฒนธรรมที่จะนำมาเป็นสินค้าในอนาคตด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฮึ่ม! โชว์ภาพแกนนำทุกวงการ เขย่าขวัญรัฐบาลเพื่อไทย นัดเยี่ยม ป.ป.ช.ถามปมป่วยทิพย์ชั้น 14
'จตุพร' เผย ฝ่ายปชช.แทบทุกวงการนัดหารือปัญหาชั้น 14 จ่อขยับไปเยี่ยม ปปช.ทวงถามทำหน้าที่ตรวจสอบป่วยทิพย์ จี้รัฐบาลเลิก MOU 44 หวั่นก่อปัญหาระหว่างประเทศ ย้ำต้องเจรจาเขตแดนก่อนหารือผลประโยชน์ เตือนสิ่งทีรัฐบาลทำไม่ต่างจากเรียกทหารออกมายึดอำนาจ
ตั้งป้อมชน 'ระบอบทักษิณใหม่' ประเดิม 18 ธ.ค. บุก ป.ป.ช. หึ่งล็อบบี้หนักล้มคดีชั้น 14
วงหารือฝ่ายต้านรัฐบาล ตั้งป้อมชน 'ระบอบทักษิณใหม่' นำร่อง 18 ธ.ค. บุกตึก ป.ป.ช. หลังได้กลิ่นล็อบบี้หนัก 3 กรรมการฯ ล้มคดีชั้น 14
นับถอยหลังเพื่อไทย ส่งรหัสปีนเกลียวทหาร ข่มขู่ประชาธิปไตย
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า สถานการณ์อำนาจของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเข้าสู่ย่างก้าวนับถอยหลั
'จตุพร' ควงทนายนกเขาขึ้นโรงพัก รับทราบข้อหา 'วีระ' แจ้งความหมิ่นประมาท
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน พร้อมด้วยนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา เดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบ
'จตุพร' ลั่นถ้ามั่นใจก็แบ่งประโยชน์ 50:50 เลย เชื่อ 'กิตติรัตน์' วืดเข้าครม. รัฐบาลลังเล
'จตุพร' ท้าอำนาจเอาแต่ได้ ลั่นถ้ามั่นใจก็แบ่งประโยชน์ 50:50 เลย เอาตามลูกพี่สบายใจ แล้วจะได้วัดกัน ส่วน 'กิตติรัตน์' วืดเข้าครม. เชื่อรัฐบาลลังเล หวั่นเป็นปัญหาหัวเชื้อคนค้านขย่ม แม้กฤษฎีการะบุคุณสมบัติไม่เข้าข่ายข้าราชการการเมือง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะใช้อ้างในศาล รธน.จะชนะทุกกรณีไป