'ทนายนกเขา-จตุพร' ฟาด 'นช.ทักษิณ' โกงยุติธรรม ทำบ้านเมืองป่นปี้ รอวันระเบิด

'จตุพร-ทนายนกเขา' ฟาด นช.ทักษิณ โกงยุติธรรม ทำบ้านเมืองป่นปี้ สะท้อนอารมณ์เจ็บลึกของ ปชช.สะสมความอัดอั้นกับนักโทษดื้อด้านนอนชั้น 14 กว่า 90 วันไม่ยอมกลับติดคุก เชื่อสักวันระเบิดรุนแรงลามลากเป็นเรื่องใหญ่ คาดต้นธันวานี้ คงกลับบ้านไร้ร่องรอย

24 พ.ย. 2566 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ฟาด นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร โกงความยุติธรรมของสังคมไม่ยอมติดคุก เอาแต่ดื้อด้านนอนชั้น 14 รพ.ตำรวจกว่า 90 วัน อำนาจรัฐแตะต้องไม่ได้ รมต.ยุติธรรมทำตัวเป็นใบ้ ไม่ชี้แจง ซึ่งนานวันเข้าพฤติกรรมเช่นนี้ยิ่งทำให้อารมณ์ความรู้สึกของประชาชนสะสมความเจ็บลึกเพื่อรอวันระเบิด ซึ่งน่าประหวั่นพรั่นพรึงอย่างยิ่ง

นายจตุพร กล่าวถึงนักโทษชั้น 14 นอน รพ.ตำรวจกว่า 90 วันว่า การบริหารอำนาจของรัฐบาลชุดปัจจุบันเป็นสิ่งแปลกมาก เพราะไม่มีนักการเมืองคนใดไปยุ่งกับนักโทษนอนชั้น 14 รพ.ตำรวจนานเกินกว่า 90 วันเลย จึงสะท้อนถึงมีอำนาจบางอย่างอยู่เหนือรัฐบาล และกระทรวงยุติธรรมยังไม่อธิบายอะไรให้สังคมรับรู้ในความเสมอภาคของผู้ต้องขังคนอื่น

"ขนาดอยู่ รพ.คนยังประหวั่นพรั่นพรึงขนาดนี้ และเข้าใจกันว่านักโทษถูกจำกัดเสรีภาพ แต่ที่จริงไม่ได้จำกัดอะไรเลย สิ่งสำคัญเราต้องการบอกว่าตรรกะเพื่อผลประโยชน์แห่งตนนั้นทำให้บ้านเมืองเสียหายมากมาย ถ้ากลับบ้านในต้นเดือนธันวาแล้วจะอยู่อย่างไงต่อ”

นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้อารมณ์ประชาชนถูกท้าทายอย่างมาก ผู้มีอำนาจต้องการเพียงให้เชื่อโดยไม่มีหลักฐานและเหตุผลทางการแพทย์มายืนยัน ดังนั้น คนไทยจึงอยู่แบบนิ่งแต่ความความรู้สึกเดือดระอุ เพียงไม่สำแดงออกมา ได้แต่สะสมอุณหภูมิเพิ่มขึ้นตามลำดับ

"ทันทีที่มีเรื่องอื่นสอดแทรกเข้ามา เรื่องนักโทษนอนชั้น 14 จะกลับมาเป็นเรื่องหลักไม่แตกต่างจากเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอยที่เรียกคนมาชุมนุมแล้วลามไปเรื่องจำนำข้าว จนเป็นชนวนนำไปสู่การรัฐประหาร”

นายจตุพร กล่าวว่า คนคิดออกแบบทางการเมืองทั้งหลายนั้น หากเกิดความผิดพลาดขึ้นมาแล้วอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนระเบิดขึ้นจะทำอย่างไร สิ่งสำคัญคือ ทุกขบวนการถูกทำลายอย่างสิ้นเชิงและเบ็ดเสร็จ ดังนั้นความรู้สึกของประชาชนจึงน่าห่วงใยที่สุด

อีกทั้ง กล่าวว่า ความรู้สึกที่นิ่งเฉยที่หยุดชะงักงัน ไม่ใช่เขาไม่มีความรู้สึก แต่มันเจ็บลึก ซึ่งเป็นอารมณ์ประชาชนโดยทั่วไปที่เก็บสะสมไว้มาก มันรอวันระเบิดขึ้นมาเท่านั้น เพราะขบวนการยุติธรรมถ้าตรงไปตรงมา คนไทยจะไม่มีปัญหาอะไรเลย

“แต่แบบชั้น 14 มีความรู้สึกว่ามันหลอกกัน โกงแม้กระทั่งความยุติธรรมกัน แล้วจะหวังให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้ากันได้อย่างไรกัน อย่าหวังไปหาความผาสุกให้ประเทศ ถ้าตราบใดความยุติธรรมไม่บังเกิดขึ้น”

นายจตุพร ย้ำว่า นักโทษชั้น 14 อีกไม่กี่วัน อาจเป็นต้นเดือนธันวาคงได้กลับบ้านแล้ว แต่ความรู้สึกของประชาชนจะไม่ได้จบลง แต่ยิ่งทำให้สถานการณ์น่าห่วงใย ยิ่งเป็นนักโทษที่สำนึกในความผิดในการกระทำของตัวเอง แต่ไม่พร้อมที่จะติดคุกแม้แต่วันเดียว เมื่อได้รับลดโทษจาก 8 ปีเหลือหนึ่งปีย่อมเป็นพระมหากรุณาธิคุณมากแล้ว กลับไม่ย่อมติดคุกแสดงถึงไม่มีความสำนึกในความผิดอย่างจริงจัง

"ถ้าเรายอมรับในขบวนการยุติธรรมแล้ว ต้องกล้าเดินเข้าคุก จะติดกี่วันก็ตาม เพียงแต่ว่าวิธีการแบบนี้เป็นการเอาเปรียบประเทศ เอาเปรียบกฎหมาย เอาเปรียบคนไทย เอาเปรียบขบวนการยุติธรรมหรือเปล่า ที่เอาทั้งตำรวจ กรมราชทัณฑ์เอาอำนาจรัฐทั้งระบบไปปกป้องกัน แล้วสังคมจะคิดกันแบบไหน และใครจะทำอะไรได้

รวมทั้งกล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ วันนี้กลรัฐไม่มีใครเข้าไปดูแลเลย ผู้ตรวจการแผ่นดินได้แต่ทำท่าเท่านั้น แล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น อีกไม่กี่วันนักโทษอาจต้องออกจาก รพ.แบบไร้ร่องรอย เพียงแต่หวังว่า อย่าได้วิ่งออกมา ขอให้ออกมาแบบสภาพห่วยๆหน่อย คนจะได้สบายใจขึ้นมานิด

นายจตุพร กล่าวว่า ขอให้คนชั้น 14 คิดดู หากเหตุการณ์แบบชั้น 14 เกิดขึ้นกับอภิสิทธิ์ชนคนที่เราไม่ชอบมากระทำบ้าง เรายอมรับได้หรือไม่ ดังนั้น ต้องยึดในตรรกะเดียวกันในสังคม คือ ความยุติธรรมต้องเป็นความยุติธรรม ต้องเห็นอย่างเดียวกัน เมื่อกฎหมายกำหนดไว้อย่างไร ก็ต้องปฏิบัติตามนั้น บ้านเมืองจึงจะเดินต่อไปได้

พร้อมย้ำว่า หวังว่านักโทษชายชัน 14 จะได้คิด เมื่อเหลือเวลาอีกไม่ถึง 10 วันก็เดินเข้าคุกยอมรับขบวนการยุติธรรมบ้าง เพื่อลดทอนความรู้สึกประชาชนลงและทำตามคำประกาศที่ต้องการกลับไทยมาติดคุก แม้ตนไม่ต้องการให้ใครติดคุกเลยก็ตาม แต่เมื่อคำพิพากษาเสร็จสิ้นและนักโทษชั้น 14 ยอมรับการกระทำผิดนั้นเอง จึงได้ลดโทษเหลือหนึ่งปี จึงควรมาติดคุกหรือรักษาใน รพ.ราชทัณฑ์ให้เสมอภาคนักโทษคนอื่น

"รพ.ราชทัณฑ์เหมือนกับ รพ.ทั่วไป ยาถ้าไม่มีสั่งได้ เห็นนักโทษหลายรายไปรักษาที่ รพ.ตำรวจแล้วกลับมาที่เรือนจำไปอยู่เรือนพยาบาลหรือ รพ.ราชทัณฑ์ตามอาการ ถ้าหายป่วยก็ส่งเข้าแดนคุก ก็ปฏิบัติกันแบบนี้มาตลอด ขณะนี้รัฐมนตรีหลายคนก็อยู่ในเรือนจำ แต่บัดนี้นักโทษชั้น 14 ไม่ได้ติดคุกสักวันเดียว ดูเหมือนประสบความสำเร็จ แต่ผมบอกว่านี้จะเป็นบาดแผลที่ใหญ่และเป็นร่องรอยให้กลายเป็นเรื่องที่ใหญ่มากที่สุด

ส่วนนายนิติธร หรือทนายนกเขา กล่าวว่า ในเรื่องสิทธิผู้ป่วยนั้น สามารถฟ้องร้องได้ เพราะแพทย์ต้องตอบได้ว่า อาการยังจำเป็นอยู่ใน รพ.ตำรวจหรือไม่ อีกทั้งกรมราชทัณฑ์ต้องนำศักยภาพของ รพ.ตำรวจมาเปรียบเทียบกันว่า รพ.ราชทัณฑ์รักษาได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากฟ้องไปแล้วสิ่งที่ปิดไว้จะถูกหมายเรียกให้เปิดหมด

"ที่เราไม่อยากทำเพราะต้องการดูว่า ประเทศนี้จะทำระยำกันแบบนี้หรือเปล่า จะทำกับประชาชนแบบนี้หรือไม่ และสังคมจะได้ออกแบบกันใหม่ว่าจะอยู่กันแบบไหน จะจัดการอำนาจการเมืองแบบไหน อำนาจทุนแบบไหน เพราะการเกิดรัฐบาลทุกวันนี้ ทุกคนรับทราบหมดว่า เกิดจากการดีล มีอำนาจไหนเข้ามาดีลบ้าง ซึ่งโกหกสังคมไม่ได้"

ทนายนกเขา กล่าวว่า เมื่อถามว่า รพ.ตำรวจ มียาพิเศษอะไรที่นักโทษคนนี้ต้องใช้เป็นการเฉพาะโดยที่อื่นไม่มี แพทย์บอกไม่มี เป็นยาทั่วไป ดังนั้น อาการแค่นี้ถือว่าตอบแล้ว และถ้า รพ.ตำรวจเอาแพทย์จากนอกมาตรวจได้ รพ.ราชทัณฑ์ ก็เอาแพทย์จากนอกเข้ามาตรวจได้ อีกอย่างอุปกรณ์เครื่องมือไม่ได้ด้อยกว่ากันมากมาย

"ถ้าจะงัดกันจริงๆแล้ว งัดได้ เตือนไว้ก่อนอย่าใหญ่ให้มากนัก ที่ไม่ทำคือรอดูสถานการณ์ของสังคม ดังนั้น นักโทษทักษิณ ที่คิดว่าใหญ่ที่ผ่านมาก็งัดจนพังไปไม่รู้กี่รอบแล้ว แต่วันนี้อยากให้ดูว่า เขากำลังทำอะไรกับประเทศ และกลุ่มที่ออกแบบอำนาจแบบนี้อยากให้สังคมเห็นว่า หน้าที่คิดปกป้องประเทศได้เชื่อมต่ออำนาจกันอย่างไรบ้าง จะได้เห็นกันให้หมด”นายนิติธร กล่าว