'ก้าวไกล' จี้ 'เศรษฐา' แก้ฮั้วประมูล ให้ตอบกลับเป็นหนังสือลงราชกิจจาฯ

‘วิโรจน์’ เผย ตั้งกระทู้ถึง ‘นายกฯ’ แก้ปัญหาฮั้วประมูล จี้ ตอบกลับเป็นลายลักษณ์อักษร ลงราชกิจจาฯ ลั่น อยากหาเงินทำ ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ก็ช่วยแล้ว ด้าน ‘รักชนก’ สรุปผลประชุม ‘กมธ.ติดตามงบฯ’ แนะสามแนวทาง-ขอเอกสารประกอบเพิ่ม

23 พ.ย.2566 - เมื่อเวลา 13.00 น. ที่รัฐสภา น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม.พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำ และติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุมเพื่อศึกษาการบริหารงบประมาณ ในการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการขึ้นทะเบียนผู้ก่อสร้างที่มีสิทธิยื่นข้อเสนอต่อกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ร่วมกับผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล พร้อมด้วยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ร้องเรียน

โดยน.ส.รักชนก กล่าวถึงผลการประชุมว่า กมธ. มีข้อเสนอแนะ ให้มีการแก้ไขประกาศคณะกรรมการราคากลาง และขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการฉบับข้างต้น เพื่อแก้ปัญหาการฮั้วประมูลที่อาจเกิด 3 แนวทางคือ 1.ยกเลิกผู้รับเหมาชั้น 1ก แล้วแก้ไขหลักเกณฑ์ผลงาน 1 โครงการภายใน 10 ปี ในการเลื่อนชั้นจากผู้รับเหมาชั้น 1 เป็นผู้รับเหมาชั้นพิเศษ จาก 450 ล้านบาท เป็น 250 ล้านบาท เพื่อให้ได้สัดส่วน ‘ครึ่งหนึ่งของวงเงินที่ผู้รับเหมาชั้น 1 ประมูลได้’ สอดคล้องกับการเลื่อนชั้นของผู้รับเหมาชั้นอื่นๆ ทั้งนี้ เห็นว่าทางเลือกนี้เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

2.แก้ไขหลักเกณฑ์ ผลงาน 1 โครงการภายใน 10 ปี ในการเลื่อนชั้นจากผู้รับเหมาชั้น 1ก เป็นผู้รับเหมาชั้นพิเศษ จาก 450 ล้านบาท เป็น 300 ล้านบาท เพื่อให้ได้สัดส่วน ‘ครึ่งนึ่งของวงเงินที่ผู้รับเหมาชั้น 1ก ประมูลได้’ สอดคล้องกับการเลื่อนชั้นของผู้รับหมาชั้นอื่นๆ

3.แก้ไขหลักเกณฑ์ให้วงเงินที่ผู้รับเหมาชั้น 1ก สามารถประมูลได้ ขยับจาก 600 ล้านบาท ให้อยู่ในระดับที่ไม่ต่ำกว่า 900 ล้านบาท ซึ่งจะมีมูลค่าเป็น 2 เท่าของผลงาน 1 โครงการภายใน 10 ปี ที่เป็นเกณฑ์ในการเลื่อนชั้นเป็นผู้รับเหมาชั้นพิเศษ ที่กำหนดไว้ที่ 450 ล้านบาท

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการ ยังได้มีมติส่งหนังสือแจ้งข้อสังเกต ข้อเสนอแนะ และขอข้อมูลเอกสารประกอบการพิจารณาไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 1.ประธานคณะกรรมการราคากลาง และขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ และอธิบดีกรมบัญชีกลาง เพื่อแจ้งให้ทราบว่า การออกประกาศคณะกรรมการราคากลาง และขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการงานก่อสร้าง ที่มีสิทธิเป็นผู้ยื่นข้อเสนอ ต่อหน่วยงานรัฐ ลงวันที่ 9 ต.ค. 2566 ซึ่งแก้ไขจากประกาศฉบับเดิม ที่ลงวันที่ 17 พ.ย. 2560 นั้น ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด และเสนอแนวทางในการแก้ไขประกาศดังกล่าว ซึ่งจะสามารถประหยัดงบประมาณแผ่นดินได้ประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท

2.ขอบันทึกการประชุมและชวเลข ของคณะกรรมการราคากลางและขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ ทั้งหมดซึ่งเกี่ยวข้องกับการประชุมเพื่อออกประกาศ

3.จัดทำหนังสือถึงสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อแจ้งให้ตรวจสอบโครงการของกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบล โดยมุ่งเน้นไปที่โครงการซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 500 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งราคาที่มีการประมูลได้ใกล้เคียงกับราคากลาง

4.จัดทำหนังสือถึงสำนักงบประมาณของรัฐสภา เพื่อให้ศึกษาราคาประมูลเทียบราคากลางย้อนหลัง ในโครงการที่มีมูลค่าน้อยกว่า 450 ล้านบาท กับโครงการที่มีมูลค่ามากกว่า 500 ล้านบาทขึ้นไป ของกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ว่าส่วนต่างราคากลาง กับราคาประมูลนั้น แตกต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญหรือไม่ เพื่อจัดทำเป็นเอกสารประกอบการพิจารณาของคณะกรรมาธิการต่อไป

ด้านนายวิโรจน์ เปิดเผยด้วยว่า ตนได้ตั้งกระทู้ถามไปยังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะกำกับดูแลกรมบัญชีกลาง ให้ตอบกลับมาเป็นลายลักษณ์อักษรลงราชกิจจานุเบกษาว่า จะมีการแก้ไขในกรณีนี้อย่างไร ตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ในขณะนี้ยังไม่มีการตอบกลับ

“หวังเป็นอย่างยิ่งว่านายกฯ จะเร่งตอบกลับมา เพราะการประมูลเกิดขึ้นทุกวี่ทุกวัน นายกฯ ต้องการหาเงินมาทำโครงการดิจิทัลวอตเล็ต ผมก็ช่วยหาให้แล้ว” นายวิโรจน์ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประกาศสำนักนายกฯ ไฟเขียวขายเหล้าเบียร์ '5 วันพระใหญ่' ในสนามบินนานาชาติ

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2567

ราชกิจจาฯ แพร่คำสั่งยกเลิกห้ามขายเครื่องกรองน้ำยี่ห้อดัง 1 รุ่น

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการ เรื่อง ยกเลิกการห้ามขายสินค้าหรืออุปกรณ์ที่มีรังสี UVC ของบริษัท โคเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด