'เทพไท' เสนอแนะ 3 ข้อให้ 'เศรษฐา' ก่อนซ้ำรอยปมตั๋วเพื่อไทย

'เทพไท' บอกยังให้โอกาส 'เศรษฐา' ชี้เป็นนายกฯ ไม่นาน และชอบสไตล์ทำงานที่รวดเร็ว แต่แนะ 3 ข้อก่อนซ้ำรอบยตั๋ว สร.1-ตั๋วเพื่อไทย

23 พ.ย.2566 - นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์โพสต์เฟซบุ๊กในหัวขเอ “คำแนะนำ และความหวังดี ต่อคุณเศรษฐา” ระบุว่า ผมได้ฟังการพูดของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เรื่องการแต่งตั้งตำรวจ ในที่ประชุม สส.ของพรรคเพื่อไทยแล้ว รู้สึกตกใจ ไม่คาดคิดว่า คุณเศรษฐาจะหลุดปากพูดออกมาอย่างนั้น โดยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม แต่เมื่อพูดไปแล้ว มีพยานหลักฐาน บันทึกเป็นภาพข่าว มีทั้งภาพและเสียงชัดเจน แม้ว่าคุณเศรษฐาจะออกมาปฏิเสธ อธิบายเป็นอย่างอื่นในวันต่อมา ก็ไม่มีใครเชื่อ ยิ่งทำลายความน่าเชื่อถือของคุณเศรษฐาลงไปอีกว่า เป็นคนพูดไม่อยู่กับร่องกับรอย

ผมเองไม่ได้รู้จักกับคุณเศรษฐาเป็นการส่วนตัว แต่ผมรู้จักกับเพื่อนสนิทของคุณเศรษฐา รู้สึกเป็นห่วงการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีของคุณเศรษฐากลัวตกม้าตาย หรือตายน้ำตื้นด้วยคำพูดของคุณเศรษฐาเอง

ผมเข้าใจดีว่าคุณเศรษฐา เป็นนักธุรกิจมาก่อน ไม่ใช่นักการเมืองอาชีพ จึงไม่ได้ลึกซึ้งและรอบคอบ ในการใช้คำพูดเมื่อถูกสัมภาษณ์ ซึ่งเป็นบุคลิกของคุณเศรษฐาที่ยากต่อเปลี่ยนแปลง

ผมได้เห็นบุคลิกและท่าทีของคุณเศรษฐาแล้ว เห็นว่าเป็นคนอารมณ์เสียง่าย ชักสีหน้า น้ำเสียงดุดัน ท่าทีแข็งกร้าว เห็นได้จากพฤฒิกรรมการโยนปากกา ตำหนิอธิบดีดีเอสไอ เป็นคนปากไว พูดทุกคำที่คิด หลายครั้ง เช่น ทวีตประณามความรุนแรงกลุ่มฮามาส พูดกับสื่อต่างประเทศจะแต่งตั้งคุณทักษิณเป็นที่ปรึกษา พูดอวยคุณอุ๊งอิ๊ง ในโรงหนัง เมื่อสื่อขอถ่ายภาพว่า มีนายกฯ 2 คน การจุมพิตมือคุณอุ๊งอิ๊งหลังจากได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย การใช้คำพูดว่าขี้ข้า ถูกวิจารณ์เรื่องบุคคลิกเมื่อนั่งคุยกับผู้นำต่างชาติ จนล่าสุดการพูดถึงตั๋วการแต่งตั้ง ผกก.ของ สส.พรรคเพื่อไทย ฯลฯ

อย่าลืมว่าคุณเศรษฐา เป็นผู้นำสูงสุดของประเทศ เป็นบุคคลสาธารณะ เป็นที่ถูกจับตามองทุกฝีก้าวเพราะฉะนั้นการจะให้สัมภาษณ์ หรือทำอะไรลงไปจะต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ

ผมอยากจะเสนอความคิดเห็นในเรื่องนี้ว่า

1.ควรลดการสัมภาษณ์ให้น้อยลง พูดแต่เรื่องจำเป็นและ เรื่องสำคัญเท่านั้น ไม่ใช่พูดทุกเรื่อง และพูดทุกครั้ง เมื่อสื่อใช้ไมค์จ่อปาก

2.พูดในเรื่องที่รู้จริงและมีความถนัด เช่นเกี่ยวกับเรื่องด้านเศรษฐกิจ หลีกเลี่ยงการพูดประเด็นการเมือง หรือพูดให้น้อยลง เพราะไม่มีความถนัด และไม่ทันเกมการเมือง

3.ควรมีโฆษกส่วนตัวไว้เป็นกระบอกเสียง พูดในสิ่งที่ตัวเองไม่อยากพูด เช่นในสมัยของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ท่านไม่ชอบให้สัมภาษณ์กับสื่อ แต่ให้ ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ให้พูดแทน หรือในสมัยของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ได้ใช้โฆษกส่วนตัวตอบโต้ทางการเมือง และให้โฆษกรัฐบาลแถลงข่าวเกี่ยวกับรัฐบาลเท่านั้น ทั้งๆที่คุณอภิสิทธิ์เอง มีความสามารถสื่อสารกับสื่อมวลชนได้ดี และพูดจาทางการเมืองได้ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง

ผมคิดว่าถ้าหากคุณเศรษฐาได้ปรับปรุงวิธีการสื่อสารของตัวเอง ต่อสาธารณชนแล้ว จะทำให้ปัญหา ที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในขณะนี้ ลดลงได้ ซึ่งยังไม่สายสำหรับการปรับปรุงวิธีการสื่อสารเสียใหม่

ส่วนตัวเห็นว่า คุณเศรษฐาเพิ่งรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ไม่นาน และยังชอบสไตล์การทำงานที่รวดเร็ว ถึงลูกถึงคน ยังให้โอกาสทำงานต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ สั่ง ปปง.เร่งยึดทรัพย์แก๊งค้ายา

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ สั่ง ปปง.มีอำนาจพิเศษสูงต้องทำงานแบบล้วงลูก เร่งยึดทรัพย์ตัดตอนขบวนการค้ายาฯ อย่ามัวแต่ช้า หวั่นโอนเงินหนี กำชับอย่าทำงานแบบไซโลให้เป็นข้อครหา

'เศรษฐา' ฟุ้งเตรียมถกมะกันตัดตอนยาเสพติด

นายกฯ มอบอุปกรณ์ป้องกันและตอบโต้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ย้ำให้ความสำคัญถือเป็นความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ กำชับดูแลการจ่ายรางวัลนำจับเหมาะสม ไม่ใช่รอนานจนเกษียณถึงได้ เตรียมคุย 'ทูตมะกัน' ตัดตอนยาบ้า