โหรวารินทร์ชี้หมดเวลาคนโกงให้ร้ายชาติจะรับผลกรรม คนดีมีหน้าที่จะรวมพลังช่วยดูแลชาติให้ศิวิไลซ์ พร้อมระบุการเปลี่ยนแปลงจะชัดต้นปี ’67 ยันไม่ใช่ปฏิวัติ แต่คนเริ่มรู้อะไรจริงอะไรปลอม แนะคนไทยต้องใช้สติเผชิญภัยต่างๆ
5 พ.ย.2566 – อาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ ประธานมูลนิธิอาจารย์วารินทร์ฯ และมูลนิธิข่วงพระเจ้าล้านนา หรือโหร คมช. ได้กล่าวหลังจากทำพิธีบุญใหญ่ถวายกฐินประจำปี ภายใต้โครงการสนับสนุนการนำเสนอชื่อครูบาศรีวิชัยเป็นบุคคลสำคัญของโลกต่อยูเนสโก โดยระบุว่า ประเทศไทยจะเกิดการเปลี่ยนในทางที่ดีขึ้น แต่ยังต้องเผชิญกับภัยต่างๆในระยะนี้ ประการแรกคือภัยธรรมชาติ ประการที่สองคือภัยจากสงครามความไม่สงบที่เกิดขึ้น แล้วจะมีผู้ที่มีหน้าที่จะมาดูแลบ้านเมืองให้ดีขึ้นเพราะว่า บ้านเมืองที่ผ่านมาจากอดีตถึงปัจจุบันที่ดีแล้วก็คือช่วงที่ผ่านมา ที่เรามีทุกอย่างเพรียบพร้อม ทั้งทุนสำรอง ความเข้มแข็ง มิตรภาพทุกอย่าง ซึ่งผู้บริหารชุดที่แล้วทำมาดีแล้ว ต่อจากนี้ไปเหตุการณ์ต่างๆมันจะเกิด ทั้งภัยธรรมชาติ ภัยจากสงคราม จะเริ่มลุกลามไปตามประเทศต่างๆ แต่ไม่ใช่เป็นลักษณะของสงครามโลกอะไรแบบนี้ แต่เป็นสงครามที่นานาประเทศที่ก่อแล้วก็ร่วมกันทำแล้วเกิดความเสียหายให้กับมนุษยชาติจำนวนมาก
“ ซึ่งประเทศไทยของเราถือว่า เป็นบุญที่สุดในการที่เรามีพุทธศาสนา ทำให้ชาติบ้านเมืองของเราได้รับผลกระทบน้อยที่สุด และภัยธรรมชาติก็จะเริ่มแรงขึ้นตามลำดับ แต่ด้วยอำนาจบารมีความดีที่พวกเราสะสมกันมา ตั้งแต่บรรพกาลจนถึงปัจจุบัน เรามีชาติ ศาสน์ กษัตริย์และมีศาสนาพุทธอันที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยว ก็จะได้ช่วยกันเป็นบารมีในการที่จะทำให้ชาติบ้านเมืองของเราผ่อนคลายในเรื่องของวิบากกรรม ส่วนผู้ที่จะตามมาก็คือผู้ที่มีหน้าที่หลังจากนี้ ก็จะเริ่มปรากฏออกมา ตามที่หน้าที่ยังมีอยู่และตามที่ผู้คนได้เรียกร้องความถูกต้อง ซึ่งทุกคนล้วนแต่เห็นแล้วว่า สัจธรรมออกมาแล้วของจริงคืออะไรของปลอมคืออะไร เราก็จะได้รับทราบ” โหรวารินทร์ ระบุ
เมื่อถามว่าการเปลี่ยนแปลงที่ว่าจะมีการปฏิวัติอีกหรือไม่ อ.วารินทร์กล่าวว่า ไม่ใช่การปฏิวัติ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลง ปรับเปลี่ยน ในการดำเนินในงานของชาติบ้านเมือง ผู้ที่ยังมีหน้าที่จะเป็นผู้ที่เข้ามาทำหน้าที่โดยชอบธรรม โดยที่ทุกคนยอมรับได้ในตรงนี้ ไม่ขอบอกว่าเป็นใครผู้ใด แต่ผมขอสำทับว่า เป็นผู้ที่ยังมีหน้าที่ ซึ่งเดี๋ยวก็คงเห็นกันแล้วไม่นานนี้ จะเป็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น คนที่สร้างกรรมสร้างเวรให้กับชาติบ้านเมือง คนที่มีจิตไม่บริสุทธิ์ คนที่ทำร้ายบ้านเมือง คนที่กอบโกยผลประโยชน์ของส่วนรวมในบ้านเมือง พวกเหล่านั้นล้วนแล้วแต่ล้มหายตายจากหรือสิ้นไป หมดซึ่งเวลาของเขาเหล่านั้น จากนั้นจะเป็นยุคของชาวศิวิไลซ์ที่แท้จริง ผ่านพ้นจากปีนี้ทุกอย่างจะเริ่มมีเค้าโครงเกี่ยวกับเรื่องของสิ่งที่พูดมาทั้งหมด
“การเเปลี่ยนแปลงจะเกิดการปะทะ นองเลือด หรือวุ่นวานก่อนหรือไม่นั้น บอกว่า ความวุ่นวายในชาติบ้านในเมืองเรามันไม่มี แต่เป็นการที่ทุกคนเห็นดีเห็นชอบในการที่มีการปรับปรุงนะครับแล้วก็สิ่งต่างๆที่ผมเคยเห็นมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันก็จะเริ่มกลับคืนมาในเรื่องของศาสนาวัฒนธรรม จริยธรรมและประเพณีต่างๆที่บรรพบุรุษเราได้เป็นผู้ที่สะสมและสั่งสอนให้รู้จักซึ่งเมตตากรุณามุทิตา อุเบกขา รู้จักการปล่อยวาง รู้จักการใช้ชีวิตอย่างธรรมะ อย่างที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ของเราที่กล่าวว่าอยู่อย่างพอเพียง นั่นแหละคือสิ่งที่ความเป็นไทยที่ทำให้เกิดความสมบูรณ์ เกิดความร่มเย็นเป็นสุขแก่ชาติบ้านเมือง แล้วจากนี้ไปต่างประเทศไทยจะเป็นประเทศที่เข้มแข็งในด้านบุคลากร ในด้านของกองทัพซึ่งเป็นเหมือนรั้วของชาติ ความเข้มแข็งคือสันติภาพ การบังคับใช้กฎหมาย การใช้อำนาจที่ถูกต้องก็คือความสงบสุขของชาติบ้านเมืองต่อไป” โหรวารินทร์ ระบุ
อ.วารินทร์ ย้ำว่า ผู้ที่ทำร้ายประเทศชาตินับรวมตั้งแต่อดีตมา ก็จะถึงกาลเวลาของเขา ผู้ที่เคยทำร้ายชาติบ้านเมืองอย่างไรก็จะต้องรับกรรมของเขาเหล่านั้นไปไม่ว่าใครก็ตาม อันนี้จะไม่ระบุ แต่ทุกอย่างจะประจักษ์หลังจากนี้เป็นต้นไป ส่วนที่บอกว่า ผู้ที่ทำหน้าที่ในอดีตจะกลับมา หมายถึงทุกคนที่มีหน้าที่จะต้องกลับมา ขอใช้คำนี้ จะไม่ระบุถึงใคร ไม่เชิงจะเป็นรัฐบาลแห่งชาติ แต่เป็นการที่ทุกคนเห็นพ้องกับผู้ที่มีหน้าที่ในการเดินไปในทางที่ถูกต้อง
“อย่างที่ผมบอกว่าเราถูกทำลายถูกทำร้ายมาประมาณ 20 กว่าปี จากการที่ถอดหลักสูตรของความเป็นไทยออกจากการระบบการศึกษาของชาติบ้านเมืองเรา ให้ไปดูก็แล้วกันพวกเหล่านั้นแหละจะต้องถึงเวลาของเขา อริราชศัตรู เราไปดูได้เลยในเรื่องของประวัติพวกเขา เชื้อชาติเดิมของเขาเป็นใคร เขาไม่ใช่คนไทยแล้วก็มาสร้างความปั่นป่วนให้ไทยให้ไปค้นดูประวัติเอา พวกที่ออกมาป่าวประกาศโวยวายทำให้บ้านเมืองเราไม่สงบสุข ไปค้นประวัติเขาดู แล้วคนที่ไปเชื่อฟัง ก็ให้ไปตรวจสอบดูว่าเป็นจริงหรือไม่นะครับ เราต้องดูตรงนี้นะครับ อย่าลืมความเข้มแข็งคือสันติภาพ ตอนนี้ในประเทศ ต่างประเทศทั่วโลกเกิดวิกฤตการณ์สงคราม ฉะนั้นผู้ที่เข้มแข็ง ย่อมได้เปรียบ ผู้ที่เข้มแข็งย่อมรักษาเอกราชไว้ได้ แต่ถ้ากองทัพอ่อนแอหรือไม่มีอะไรที่จะไปปกป้องรักษาก็จะต้องย่อมตกเป็นทาสของเขานะครับ แล้วที่ผ่านมาเราถูกปลุกระดม เราถูกปลูกกระแส ให้เกลียดชังซึ่งกันและกัน นั่นเป็นการบ่อนทำลายนะครับ ทุกสิ่งทุกอย่างตอนนี้ก็ประจักษ์เป็นที่เรียบร้อยแล้วเราก็รู้แล้วว่าอะไรคืออะไรแล้วสิ่งที่จะเป็นสัจธรรมจะปรากฏขึ้นดังที่ผมได้กล่าวไว้แต่ต้นครับผม” อ.วารินทร์ ระบุ
อาจารย์วารินทร์ ยังกล่าวเตือนสติพี่น้องคนไทย ว่า ต่อจากนี้ทุกคนต้องใช้สติในการพิจารณา ในการเสพข่าว ดูกลุ่มต่างๆที่ขับเคลื่อนออกมาที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในชาติบ้านเมือง ผลสุดท้ายคนที่ถูกปลุกระดมต้องโทษแต่คนที่เป็นหัวโจกไม่รู้หายไปไหนเราสังเกตดูนะครับ เราก็จะรู้แล้วก็พวกเรานั้นที่สุดก็ต้องรับกรรมไม่มีแม้กระทั่งที่จะอยู่ ส่วนที่บอกว่า เป็นยุคที่ผู้หญิงจะมีบทบาทมากขึ้น คือการเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนของพุทธองค์ตลอดถึงประเพณีจริยธรรมศีลธรรมของชาติบ้านเมืองของเราก็จะเริ่มกลับมาทุกอย่างก็จะเริ่มฟื้นขึ้นมา สังเกตจากนี้ต่อไปขอให้คอยดูตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าถามว่า ทางพลเอกประยุทธ์ บอกว่าจะไม่กลับมา อาจารย์วารินทร์ย้ำว่า ผมไม่ได้กล่าวถึงท่านประยุทธ์เลยนะครับ ผมพูดถึงผู้มีหน้าที่จะต้องกลับมา.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ชวน' เผยหมดยุคเป็นผู้แทนบาทเดียวไม่ต้องจ่ายแล้ว
นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตประธานรัฐสภา กล่าวว่ากับผู้สื่อข่าวหลังเยี่ยมเยียนชาวบ้านที่ประภัยคลื่นซัดบ้าน
'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' ยำใหญ่! แก้รธน.เปิดช่องหมาลอด ให้คนโกงมาเป็นรัฐมนตรี
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "ต้องแก้ให้ได้" มีรายละเอียดดังนี้
‘นิพิฏฐ์’ ซัดนักการเมือง ทำอะไรอย่าอ้างชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ เพราะสิ่งที่ทำมันตรงกันข้าม
นิพิฏฐ์ซัดนักการเมืองทำอะไรแล้ว ไม่อ้างชาติ,ศาสนา,พระมหากษัตริย์
'นันทิวัฒน์' ถามความยุติธรรมอยู่ที่ไหน คนปราบคอร์รัปชั่น ติดคุก ถูกยึดทรัพย์ ส่วนคนโกงนอนสบายในรพ.
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nantiwat Samart ตั้งคำถามว่
'พุทธะอิสระ' เดือด! นักการเมืองเฮงซวย จะทำชาติฉิบหาย
พุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ประเทศนี้มันจะฉิบหายก็เพราะมีพวกนักการเมืองเฮงซวยที่มันด่าประเทศนี้ว่าเฮงซวยนี่แหละ
องค์กรต้านคอร์รัปชั่นเผย ความตื่นตัวภาคประชาชน ระบบราชการเกิดขึ้นจริง แต่ยังไม่พอต่อกรกับเหล่าคนโกง
มีแนวโน้มว่า คอร์รัปชันของนักการเมือง คอร์รัปชันเชิงนโยบาย และคอร์รัปชันในเมกะโปรเจค ยังสูงมากเช่นเดียวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ขณะที่คอร์รัปชันในระบบราชการยังวิกฤต อาจลดลงบ้างอันเป็นผลมาจากข้าราชการรุ่น