'จตุพร' กังขา ปท.อื่นนำคนของเขากลับได้หมด เหน็บ 'เศรษฐา' ยังลัลล๊า จับต้นชนปลายไม่ถูก นำกลับได้แค่หนึ่งในสามจาก 3 หมื่นคน ชี้สงครามยิ่งทวีรุนแรง โอกาสคนไทยกลับบ้านยิ่งสั้นลง วอนขอให้เอาชีวิตไว้ก่อน อย่าเห็นแก่เงินเดือน 5 หมื่น
3 พ.ย.2566- นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ ว่า ในสถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน กลับลังเล ชักช้า ทำเป็นลันล๊านำคนไทยกว่า 3 หมื่นชีวิตกลับประเทศอย่างปลอดภัย ดังนั้น ความหวังประชาชนจะได้กลับบ้านมาหาครอบครัวจึงเริ่มสั้นลง
นายจตุพร กล่าวว่า การเรียกร้องให้คนไทยในอิสราเอลกลับบ้าน เพราะเมื่อสงครามเริ่มทวีรุนแรงขึ้น โอกาสคนไทยจะกลับบ้านยิ่งยากขึ้นด้วย และยิ่งไปกว่านั้น หากสงครามทำให้คนไทยเสียชีวิต ย่อมส่งผลกระทบถึงความขัดแย้งภายในไทยตามมาด้วยเช่นกัน
"เรารู้ว่าท่าน (คนงานไทย) ต้องการเงินจึงไปทำงาน แต่ครอบครัวก็ต้องการชีวิตของท่านเช่นเดียวกัน เงินเดือน 5 หมื่นถึงแสนต่อเดือนไม่ตายย่อมหาใหม่ได้ หากเกิดสงครามใหญ่ขึ้นมาแล้ว ท่านไม่กลับบ้าน ครอบครัวจะรับได้หรือไม่ คนไทยรับไหวหรือไม่ และรัฐบาลไม่มีน้ำยาในการอธิบายเรื่องเงินเดือนให้คนงานไทยเข้าใจว่า ในสถานการณ์สงครามท่านต้องเอาชีวิตไว้ก่อน”
นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อสงครามทวีความรุนแรงแล้ว คนไทยต้องรู้ว่า เราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสงครามนี้ แต่เราไปรับจ้างทำงาน อย่างไรก็ตาม ในยามสงครามการทำงานด้านการเกษตรย่อมถูกมองว่า เป็นหน่วยเสบียง หรือพลาธิการสนับสนุนทหารสู้รบ จึงเป็นส่วนหนึ่งของสงคราม ดังนั้น ปัญหาไปทำงานหน้าที่นี้เพื่อต้องการเงินเดือน 5 หมื่นถึงแสนบาทใช่หรือไม่
"ประเทศอื่นไปทำงานที่อิสราเอล ทำไมจึงเอาคนของเขากลับมาได้ และเขาได้เงินเดือน ได้ค่าจ้างเหมือนกัน เมื่อเกิดสงครามรัฐบาลที่มีน้ำยาของประเทศเขา สามารถเอาคนของเขากลับมาได้ แล้วทำไมไทยจึงต้องเป็นคนเดนตายให้เขา โดยไม่ยอมกลับประเทศตัวเอง”
อีกทั้งถามว่า หากคนงานไทยเสียชีวิตจากสงครามแล้ว จะลุกลามให้เกิดปัญหาของคนในประเทศกับประเทศมุสลิมตามมา เพราะทำให้คนไทยเสียชีวิต ดังนั้น การตัดปัญหาเช่นนี้ รัฐบาลไทยต้องลงมือรวดเร็วเพื่อนำคนไทยกลับมาประเทศ โดยรัฐบาลประเทศอื่นที่มีน้ำยา ได้ทำสำเร็จมาแล้ว จึงเหลือแต่ไทยเท่านั้นที่นำกลับประเทศได้ไม่ถึงหนึ่งในสามจากประมาณคนไทยอยู่ในอิสราเอล 3 หมื่นคน
นายจตุพร กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดการสู้รบกันขึ้น รัฐบาลไทยนำคนไทยกลับมาประเทศได้น้อยมาก แต่สิ่งที่อยากให้รัฐบาลและคนงานไทยเข้าใจสถานการณ์ข้างหน้า ซึ่งส่อแนวโน้มจะเกิดปัญหาขึ้นกับไทยในอนาคต เพราะสงครามทำให้คนอิสราเอลและคนมุสลิมทยอยเข้ามาไทยมากขึ้น อาจกระทบความมั่นคงของไทยได้ในสักวันหนึ่ง ถ้าสงครามทำให้คนไทยเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก
ส่วนการเจรจาให้ฮามาสปล่อยตัวประกันคนไทยนั้น นายจตุพร กล่าวว่า ชุดเจรจาภาคประชาชนได้ทำหน้าที่จนใกล้บรรลุความสำเร็จแล้ว ดังนั้น รัฐบาลไม่ควรทำหน้าที่ซ้ำซ้อนกันอีก ต้องแยกวงและแบ่งงานกันทำ โดยรัฐบาลควรมีหน้่าที่หลักส่งรัฐมนตรีไปประจำการที่อิสราเอลเพื่อประสานงานจัดการในแหล่งคนไทยหลบซ่อนตัวอยู่เพื่อนำคนไทยกว่า 2 หมื่นคนที่ตกค้างอยู่ในอิสราเอลกลับโดยด่วนก่อนสงครามใหญ่จะทวีรุนแรงขึ้น
"รัฐบาลต้องไม่ปล่อยให้คนไทยเกิดความรู้สึกเรื่องเงินเดือนเป็นเรื่องก่อปัญหาตามมา เพราะเมื่อเกิดปัญหาตามมามันไม่ใช่เรื่องเงินอย่างเดียว มันจะกลายเป็นเรื่องความขัดแย้งกระทบความมั่นคงภายในประเทศทันที”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชำแหละ 'ทักษิณ' คุยโม้ ลดค่าไฟฟ้า 3.70 บ. ทำหุ้นตก มือดีฉวยโอกาสช้อนซื้อทำกำไร
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า ทักษิณ ชินวัตร ยิ่งปราศรัยและพูดมากเท่าใด ยิ่งไม่อยู่กับร่องกับรอยสะท้อนอาการน่าเป็นห่วงมากขึ้นเท่านั้น และสิ่งสำคัญแสดงพฤติกรรมและทัศนะเหยียดมนุษย์ให้เห็นอย่างเด่นชัด
'ทักษิณ' สติแตก หาเสียงเหยียดเชื้อชาติ ขู่ส่งเชือกผูกคอคนด่า
ทักษิณ ยิ่งปราศรัยยิ่งมีอาการหนักขึ้น อัดใหญ่มาจากไหน กล้าข่มขู่ส่งเชือกไปผูกคอคนวิจารณ์ ฟาดกลับถ้ากลัวมากต้องเลิกเป็นรัฐบาลไปนอน
ปูด! ส่อเขี่ย 'พีระพันธุ์' ดึงปชน.มาเสริม ปลด 'ภูมิธรรม' นายทหารยศไม่สูงเสียบแทน
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน โพสต์เฟซบุ๊คว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรมว.พลังงาน จากพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีแววจะถูกปรับออกจาก ครม.
'จตุพร' มองการเมือง 2568 สัมพันธ์อำนาจระแวงบีบกด ฉุดบ้านเมืองเข้ามุมอับ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ส่งท้ายปี 2567 ว่า ในปี 2568 บ้านเมือง
เปิดภารกิจ 'กิตติรัตน์' ในตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกฯ ทำหลุดเก้าอี้ 'ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ'
กรณีที่ประชุมคณะกรรมการกฤษฎีการ่วม 3 คณะ มีมติด้วยเสียงข้างมากเห็นว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ผู้ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหาให้เป็นผู้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือ ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ
'จตุพร' ซัด 'ทักษิณ' สติแตก โต้ 'ผมเป็นหนี้อะไรนักหนาสู้ให้จนติดคุก 5 ครั้ง' คงทดแทนพอแล้ว
'จตุพร' ซัด 'ทักษิณ' สติแตก อารมณ์อึดอัดพลุกพล่าน พูดกราดเกรี้ยวดุดัน โชว์ถ่อยเป็นพ่อไม่ไว้หน้านายกฯ ลูกสาว จวกปราศรัยเหวี่ยงแห ดุด่าสองแง่สามง่าม ยัดเยียดสารพัดเนรคุณ ย้อนแสบทดแทนบุญคุณนักสู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บหรือยัง ลั่น 'ผมเป็นหนี้อะไรนักหนา' สู้ให้จนติดคุก 5 ครั้ง ชีวิตผจญชะตากรรมไม่รู้จบ บ้านรอถูกยึด คงทดแทนกันพอแล้วมั้ง