โผล่แล้ว! สส.ฝั่งธนฯก้าวไกล โยน กกต. สอบปมคุกคามทางเพศ อ้างหานักข่าวไม่เจอเหตุปิดปากเงียบ

หาสื่อไม่เจอ! "ปูอัด ไชยามพวาน" สส.ก้าวไกล โค้งขอโทษหลังปิดปากเงียบ ปมคุกคามทางเพศ บอกพร้อมเข้าสู่กระบวนการ กกต. สอบสวนข้อเท็จจริง ไม่อยากให้พรรคก้าวไกลถูกครหา ไม่ว่าจะตัดสินแบบใด น้อมรับหากพรรคมีมติขับออก

1 พ.ย.2566 - เมื่อเวลา 16.40 น. ที่รัฐสภา นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าที่ประชุมของสส. และกรรมการบริหารของพรรคก้าวไกล ถึงกรณีที่ถูกกล่าวหาคุกคามทางเพศ ว่า ต้องขอโทษประชาชนที่ไม่ได้ออกมาชี้แจงด้วยเหตุผลว่า การที่ตนจะออกมาชี้แจงอะไรหลายๆ อย่าง อาจจะกระทบทีมงานที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา รวมถึงส่งผลต่อพรรค ตนจึงไม่สามารถออกมาพูดอะไรได้เลย และหลักฐานหลายอย่างมาจากข้อความส่วนตัว ตนทราบว่าเมื่อเราเงียบจะทำให้หลายๆ ฝ่ายลำบาก ซึ่งกระบวนการที่กำลังจะเข้าต่อไปคือกระบวนการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เนื่องจากมีผู้ยื่นไปร้องให้ตรวจสอบคุณสมบัติผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อให้มีความยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย หากพรรคตัดสินเบาหรือหนักก็จะเป็นข้อครหา หากให้กกต. เป็นคนกลางมาตัดสิน ตัวผู้ร้องจะได้มีความมั่นใจที่มากขึ้น

นายไชยามพวาน กล่าวว่า ตนบริสุทธิ์ใจที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของกกต. และยืนยันว่าจะสิ่งที่ผู้ร้องร้องทุกกรณี ตนไม่ได้มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ และยังทำงาน 7 วันอย่างหนักหน่วง ถึงแม้จะไม่ได้โพสต์ลงโซเชียลมีเดีย ตนยังพยายามแก้ปัญหาในพื้นที่ ต้องขอโทษจริง ที่เงียบหายไป และทำให้ทุกคนลำบากใจ เราทราบดีแล้วว่า การเงียบหายไม่ได้ส่งผลดีกับใคร และตนพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการของชั้นกกต. อย่างสุดความสามารถ

ถามว่า จะทำอย่างไรต่อหากทางพรรคตัดสินว่าเข้าข่ายผิดวินัยร้ายแรง นายไชยามพวาน กล่าวว่า ตนในฐานะผู้ถูกร้องยังไม่ได้เห็นหลักฐานว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งวันนี้ก็จะมาขอหลักฐานที่เป็นเอกสารและนำมาสื่อสารกับประชาชน และพร้อมจะออกทุกรายการและทุกช่องทาง

ซักว่า ได้ชี้แจงกับกรรมการบริหารพรรคอย่างไรบ้าง นายไชยามพวาน กล่าวว่า เป็นข้อกล่าวหาที่ยังไม่ได้มีหลักฐานที่เป็นเอกสาร ซึ่งเป็นข้อกล่าวหา เราตั้งใจที่จะคลี่คลายทีละข้อ สำคัญที่สุดคือตนได้เข้าไปสู่กระบวนการกกต. เพื่อพิสูจน์ความจริง

เมื่อถามว่า ยังยืนยันว่าจะเดินหน้าทำหน้าที่ สส. และต่อสู้กับข้อกล่าวหาดังกล่าว นายไชยามพวาน กล่าวว่า เราจะสู้กับข้อเท็จจริง แต่ขอยืนยันว่าจะไม่มีทางฟ้องผู้ร้องแน่นอน เพราะเรามีความสัมพันธ์กับทุกคนในการทำงานร่วมกัน อาจจะมีการเข้าใจผิด

“แต่ขอยืนยันว่า ในฐานะลูกผู้ชาย และเป็นสส. ขอยืนยันว่าจะไม่มีการฟ้องร้องแต่นอน แต่ในส่วนของกระบวนการยุติธรรม ต้องเข้าเพื่อพิสูจน์ต่อไป หากทางพรรคมีมติทางใดทางหนึ่งในการลงโทษ ก็เป็นกระบวนการลงโทษของพรรค แต่ผมไม่อยากให้เป็นข้อครหาว่าทางพรรคตัดสินเบาหรือตัดสินหนัก ผมเป็นห่วงพรรครวมถึงเป็นห่วงผู้ร้อง จึงอยากให้ทุกฝ่ายรู้สึกว่าได้รับความเป็นธรรมอย่างแท้จริง การเข้าสู่กระบวนการที่มีคนกลางดีที่สุด” นายไชยามพวาน กล่าว

ถามย้ำว่า หากทางพรรคไม่ทำอะไรเลยจะเป็นข้อครหาหรือไม่ เนื่องจากว่าทางพรรคแถลงยอมรับว่าเข้าข่ายความผิดร้ายแรง นายไชยามพวาน กล่าวว่า ขอยืนยันอีกครั้ง กระบวนการที่ตนไม่ได้อยากได้ให้มีข้อครหา คืออยากได้ความเป็นธรรมมากกว่า ความเป็นธรรมที่คนกลางมาตัดสิน ส่วนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไรบ้างนั้น ตนขอให้ได้เอกสารข้อกล่าวหาก่อน ทางที่ดีควรดูจากเอกสารจะได้ชี้แจงเป็นข้อต่อข้อ

ถามต่อว่า ได้ทำตามที่เป็นข่าวหรือไม่ นายไชยามพวาน กล่าวว่า ยืนยันว่าในทุกข้อกล่าวหาที่ร้องเรียนตนออกมา คนไม่ได้มีพฤติกรรมตามที่ผู้ร้องเรียนร้องเรียนมาในทุกข้อกล่าวหา

ถามอีกว่า ท้ายที่สุดหากพรรคมีมติขับออกจากพรรคก็น้อมรับหรือไม่ นายไชยามพวาน กล่าวว่า ตนยืนยันว่าวันนี้ตั้งใจมาชี้แจง และลงไปหาสื่อมวลชนก็หาไม่เจอ หากเข้าสู่กระบวนการกกต. แล้วบอกว่าผิดตนก็พร้อมที่จะลาออกจากพรรคก้าวไกล แต่หากตัดสินว่าถูกก็ต้องว่าไปตามถูก

ซักว่า การที่โยนให้กกต. ตัดสินแปลว่าพรรคไม่มีความเป็นกลางใช่หรือไม่ นายไชยามพวาน กล่าวว่า ตนไม่เคยพูดอะไรแบบนั้น แค่บอกว่าการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของกกต. ทุกฝ่ายจะได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด ส่วนเป็นการส่งสัญญาณให้พรรครอคำตัดสินของกกต. หรือไม่นั้น นายไชยามพวาน กล่าวว่า "ไม่ใช่ครับ" เราไม่ได้ส่งสัญญาณถึงใคร แต่กระบวนการดังกล่าว คือการทำให้ทุกฝ่ายได้รับความเป็นธรรม

ถามว่า มองว่าเป็นการดิสเครดิตบุคคล และพรรคหรือไม่ นายไชยามพวาน กล่าวว่า ก็อย่างที่เห็นว่ามีกระบวนการดิสเครดิตทั้งตนและพรรค ตนไม่อยากพูดอะไรมาก เพราะมีหลักฐานอยู่ และตนอยากพิสูจน์ข้อเท็จจริงกับกกต. ก่อนนำไปสู่การพิสูจน์ว่า การพยายามดิสเครดิตเป็นเรื่องจริง

นายไชยามพวาน กล่าวยืนยันว่า ในสิ่งที่ผู้ร้องร้องมานั้น ตนไม่มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศทั้ง 3 ข้อร้องเรียน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กระจ่าง! ดร.ณัฏฐ์ นักกฎหมายมหาชน ชี้กรณีคุณสมบัติ 'สว.หมอเกศ'

“ดร.ณัฏฐ์” นักกฎหมายมหาชน ชี้ กรณี สว.หมอเกศ ปริญญาเอกและตำแหน่งศาสตราจารย์ หากไม่จริง เป็นการโชว์เหนือ หลอกลวงเพื่อจูงใจให้ผู้สมัคร สว.ด้วยกัน เข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ ความสามารถของตนเอง

ร้อง กกต. สอบ 'นายก อบจ.' แห่ลาออกก่อนครบวาระ ทำสิ้นเปลืองงบจัดเลือกตั้งใหม่

นายสุนทร บุญยิ่ง หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมายกลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอรัปชั่น ยื่นหนังสือต่อประธานกกต.เพื่อขอให้ตรวจสอบการลาออกของนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด

กกต.ชงศาลรธน.ฟัน 'สมชาย เล่งหลัก' พ้น สว. 'หมอเกษ' ลุ้นสัปดาห์หน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ประชุมคณะกรรมการ​การ​เลือกตั้ง​ (กกต.)​ยังไม่ได้มีการพิจารณารายงานผลการตรวจสอบคุณสมบัติของพญ.เกศกมล

'หมอวรงค์' ให้ข้อมูล กกต. เพิ่ม 3 ประเด็นใหม่ หลักฐานมัดทักษิณครอบงำเพื่อไทย

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี เข้าให้ถ้อยคำต่อกกต.กรณียื่นคำร้องขอให้ยุบพรรคเพื่อไทย ยินยอมให้นายทักษิณ ชินวัตร

หอบหลักฐานยุบ 6 พรรค มัด 'ทักษิณ' ครอบงำ ท้า 'พท.-ชินวัตร' สาบานวัดพระแก้ว

'พิราบขาว' หอบหลักฐาน แจง กกต. คำร้องยุบ 6 พรรค ยันสัมพันธ์ชัด 'ทักษิณ' ครอบงำสั่งการ บี้นายกฯอิ๊งค์เปิดภาพแค่กินข้าวจริงหรือไม่ ท้า 'พท.-ชินวัตร' สาบานวัดพระแก้ว