'จตุพร' แนะ 'เศรษฐา' ทำตัวเป็นนายกฯ เต็มขั้น วอนอยู่นิ่งๆงดเที่ยวงานเทศกาล

31 ต.ค.2566- นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ต้องอยู่ประจำวอร์รูม บัญชาการ เดินงานจิตวิทยา หารือครอบครัวคนไทยในประเทศ พร้อมปรับภาพลักษณ์ใหม่ใช้สื่อสารเป็นทางการส่งถึงคนไทยในอิสราเอล นอกจากนี้ ควรส่ง รมว.ต่างประเทศไปเป็นแม่งานใหญ่สั่งการ ควบคุม กำกับ ประสานงานที่ประเทศอิสราเอล เพื่อนำคนไทยกลับมาให้หมด

นายจตุพร กล่าวถึงสถานการณ์ความรุนแรงระหว่างอิสราเอลกับฮามาส และชาวปาเลสไตน์ว่า ขณะนี้ภาคประชาชนช่วยกันประสานกับฮามาสและคนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ปล่อยตัวประกันคนไทยตามรายงานมีประมาณ 20 คนที่ถูกควบคุมตัว ซึ่งมีแนวโน้มจะประสบความสำเร็จเร็วกว่ารัฐบาลประกาศนำคนไทยกลับจากอิสราเอลเสียอีก

“วันนี้ถ้านายเศรษฐา เป็นนายกฯ คนเก่ง ต้องสั่งการ นายปานปรีย์ มหิทธานุกร รมว.ต่างประเทศควบรองนายก. ไปอำนวยการที่ประเทศอิสราเอล เพื่อสั่งการอย่างกระตือรือร้นเอาคนไทยกลับ เพราะการเจรจากับฮามาสมีตัวแทนไปทำแล้ว ไม่ใช่มาอยู่แบบนี้ และต้องรู้ตัวเลขคนไทยในอิสราเอลอย่างชัดเจนว่ามีจำนวนเท่าใดกันแน่”

นายจตุพร เสนอว่า นายเศรษฐา ในฐานะนายกฯ ต้องนั่งบัญชาในวอร์รูม (War Room) เป็นตัวหลักเกาะติดความรุนแรง เพื่อนำคนไทยกลับมาให้หมด ส่วนงานที่ไม่สำคัญให้ รมต.หรือส่งตัวแทนไปทำแทน แต่นายกฯ กลับเดินทางไปเรื่อย ไปงานบุญบั้งไฟพญานาคแม่น้ำโขง ทั้งที่สถานการณ์ความรุนแรงฉนวนกาซายิ่งเลวร้าย ขยายวงออกไปกว้างขวางขึ้น

“เรื่องเงินเดือนที่อิสราเอลจ่ายช้า โดยขยับเป็น 10 พ.ย.นั้น รัฐบาลต้องการันตี ถ้าอิสราเอลไม่จ่ายรัฐบาลต้องจ่ายให้ ถ้าทำเช่นนี้เชื่อว่าไม่มีคนไทยไปขัดขวางได้ แต่นายกฯ กลับไม่พูดเป็นทางการถึงคนไทยในอิสราเอลและญาติ ครอบครัวคนไทยในประเทศด้วย ได้แต่สัมภาษณ์นักข่าว และทวิตเตอร์เท่านั้น ถ้านับจากนี้ไปเกิดความเสียหายขึ้น สงครามรุนแรงขยายพื้นที่ คนไทยไม่ได้กลับและต้องเสี่ยงกับสงคราม ใครจะรับผิดชอบ”

นายจตุพร กล่าว สิ่งสำคัญรัฐบาลต้องทำการบ้าน ต้องปฎิบัติการจิตวิทยากับญาติคนงานไทยในประเทศ เพื่อให้เห็นว่า ความอันตรายอยู่ตรงไหน แล้วชวนให้กลับมาประเทศให้ได้ เพราะเป็นหน้าที่ของนายกฯ อีกอย่างพวกเขาคือคนไทยและอาจรู้ข้อมูลสถานการณ์จริงน้อยกว่ารัฐบาลเสียอีกก็ได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปี67‘อดีตสว.’ขยับสะเทือนถึงรัฐบาล ถอดถอน‘เศรษฐา’ที่มาของหลายเรื่อง

การเมืองรอบปี 2567 เหตุการณ์ที่ใหญ่ที่สุดต้องยกให้กับศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ “เศรษฐา ทวีสิน” พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทำให้ “แพทองธาร ชินวัตร” กลายเป็นนายกฯ หญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย และทำให้หลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นตามมา วันนี้จึงขอบันทึกเรื่องราวนี้ไว้ ยกให้เป็นเหตุการณ์แห่งปี

'นิพิฏฐ์' ถาม 'อิ๊งค์-อ้วน' เศร้าใจและเสียศักดิ์ศรีที่ชายไทยจนๆ คนหนึ่งเสียชีวิตจากเรือรบของเพื่อนบ้านหรือไม่

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง โพสต์ข้อความหัวข้อ หรือผมจะเป็นชายไทยที่รักชาติต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน

ผวาหายนะ! บี้ '2พ่อลูกชินวัตร' ทบทวนพฤติกรรม บ้านเมืองไม่ใช่ธุรกิจครอบครัว

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราข โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ทักษิณ คุณเป็นใคร? หลังจากนายทักษิณ ชินวัตร

'จตุพร' ซัด 'ทักษิณ' สติแตก โต้ 'ผมเป็นหนี้อะไรนักหนาสู้ให้จนติดคุก 5 ครั้ง' คงทดแทนพอแล้ว

'จตุพร' ซัด 'ทักษิณ' สติแตก อารมณ์อึดอัดพลุกพล่าน พูดกราดเกรี้ยวดุดัน โชว์ถ่อยเป็นพ่อไม่ไว้หน้านายกฯ ลูกสาว จวกปราศรัยเหวี่ยงแห ดุด่าสองแง่สามง่าม ยัดเยียดสารพัดเนรคุณ ย้อนแสบทดแทนบุญคุณนักสู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บหรือยัง ลั่น 'ผมเป็นหนี้อะไรนักหนา' สู้ให้จนติดคุก 5 ครั้ง ชีวิตผจญชะตากรรมไม่รู้จบ บ้านรอถูกยึด คงทดแทนกันพอแล้วมั้ง