‘สนธิญา’ ทวงถาม กกต. ปมอนุมัติผ่านนโยบายเงินดิจิทัล – แจก 3 พันผู้สูงอายุ ส่อขัด รธน. ขู่ยื่น ป.ป.ช และผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
27 ต.ค. 2566 – ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ยื่นหนังสือต่อ กกต. เพื่อทวงถามกรณีการพิจารณาอนุมัติให้พรรคการเมืองสามารถนำนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเลต 1 หมื่น รวมถึงเงินสวัสดิการผู้สูงอายุเดือนละ 3,000 บาท เพื่อไปหาเสียงได้ เป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่
นายสนธิญา กล่าวว่า เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 258 (3) ซึ่งว่าด้วยการปฏิรูปประเทศนั้น นโยบายของพรรคการเมืองจะต้องศึกษา และทบทวน รวมถึงต้องมีการพิจารณาอย่างถ่องแท้ แต่ในปัจจุบันขอถามพรรคการเมืองที่ประกาศว่าจะจ่ายเงินสวัสดิการให้แก่ผู้สูงอายุ 3,000 บาท ต่อคน โดยขณะที่อยู่ในช่วงจัดตั้งรัฐบาล ก็ประกาศออกมาว่าทำไม่ได้ จนกระทั่งขณะนี้นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเลต 1 หมื่นบาท ก็ยังลูกผีลูกคน ดังนั้นตนจึงมาถาม กกต. ว่า การที่อนุมัตินโยบายดังกล่าวนั้น ได้มีการศึกษาและทบทวน รวมถึงได้ถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือไม่ว่าสามารถทำได้หรือไม่ เพราะในช่วงของการเลือกตั้งจะเห็นว่า กกต. ใหญ่ที่สุด ดังจะเห็นว่ารัฐบาลที่รักษาการ เวลาจะทำอะไรก็ต้องถาม กกต. ตลอดจนนโยบายของพรรคการเมืองแต่ละพรรค ทาง กกต. ก็จะต้องมีการศึกษาและทบทวน ดูแลว่าสามารถทำได้จริงหรือไม่
ทั้งนี้ ตนมาร้องต่อ กกต. ใน 2 ประเด็น คือ 1.ให้ กกต. พิจารณาวินิจฉัยตัวท่านเอง เพราะหลายเรื่องที่ตนยื่นมาก่อนหน้านี้ถูกตีตกหมด และที่ผ่านมา กกต. ปล่อยปละละเลยเกี่ยวกับนโยบายเหล่านี้หรือไม่ 2.การที่พรรคการเมืองประกาศนโยบายแล้วทำไมได้นั้น แต่ กกต. อนุมัติให้สามารถนำไปใช้หาเสียงได้ เป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 258 หรือไม่ รวมถึงขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 57 หรือไม่ เรื่องดังกล่าวจะนำไปร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้พิจารณาวินิจฉัยว่าการที่พรรคการเมืองมายื่นนโยบายหาเสียง และ กกต.พิจารณาอนุญาตนั้น จะต้องผ่านกระบวนการของ กกต. ในการพิจารณาวินิจฉัย ซึ่งเมื่อ กกต. วินิจฉัยแล้ว กกต. จะต้องรับผิดชอบในการวินิจฉัย ส่วนพรรคการเมืองจะต้องรับผิดชอบในการดูแลประชาชน และการเลือกตั้งครั้งต่อไป
“เมื่อเป็นเรื่องที่ กกต. รับรองแล้วว่าได้มีการศึกษาทบทวนว่าสามารถทำได้ แต่มาวันนี้ทำไมทำไม่ได้ เป็นการละเว้นปล่อยปละละเลยหรือไม่ กระบวนการนโยบายของพรรคการเมืองที่ กกต. อนุมัตินั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ และยืนยันว่าเรื่องนี้จะไม่จบแค่ตรงนี้ แต่จะไปยื่นต่อ ป.ป.ช. หรือยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อพิจารณาส่งเรื่องศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการกระทำที่ กกต.นั้น ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ต่อไป”นายสนธิญา ระบุ
นายสนธิญา กล่าวว่า ตนไม่เชื่อมั่นสิ่งที่ประการเป็นนโยบายหาเสียงนั้นสามารถทำได้ และได้ยื่นเรื่องต่อ กกต. มา 5 เดือนแล้ว ทำไมถึงปล่อยให้นโยบายหาสิ่งเหล่านี้ออกมาเรื่อยๆ ทำให้ประชาชนผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า นี่คือการทำลายระบอบประชาธิปไตยทางอ้อม เพราะเมื่อพรรคการเมืองทำไม่ได้ และ กกต.ได้อนุมัติ ประชาชนก็จะไม่นับถือประชาธิปไตยอีกต่อไป เพราะคือการโกหก ซึ่งผู้ที่ดูแลกวดขันได้คือ กกต. ดังนั้นไม่อยากเห็นเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นในการเลือกตั้งครั้งหน้าอีกต่อไป ซึ่ง กกต.จะต้องวางแผน รับผิดชอบ เพื่อไม่ให้พรรคการเมืองหลอกประชาชนอีกต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศาลรธน.ยกคำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง เอกฉันท์ 5 ประเด็นเว้นประเด็น 2
จากกรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย
'จตุพร' ตอกย้ำศาลรธน.รับคำร้องคดีล้มล้าง เพื่อหยุดอหังการอำนาจ เริ่มจุดเปลี่ยนบ้านเมือง
ลุ้นศาล รธน.พิจารณาคำร้อง 'จตุพร' เชื่อรับไว้วินิจฉัยเพื่อหยุดอหังการอำนาจ ลั่นจะเริ่มจุดเปลี่ยนบ้านเมือง เปิดความหวังประเทศก้าวเดินสู่ผลประโยชน์ชาติ
รองเลขาฯเพื่อไทย ฟาดกลับ 'ไอซ์ รักชนก' แซะแจกเงินหมื่นช่วงเลือกตั้งนายก อบจ.
น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่าน X ว่า ใจเย็นๆ นิดนะคะ รัฐบาลตั้งใจส่งเงินหมื่นกระตุ้นเศรษฐกิจ ถึงมือกลุ่มเป้าหมายให้เร็วที่สุด
ระทึกสุดขีด! 22 พ.ย. ศาลรธน.ลงมติ 'รับ-ไม่รับ' คำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง
คอนเฟิร์ม ศุกร์นี้ 22 พ.ย. 9 ตุลาการศาลรธน.นัดประชุมวาระพิเศษ หลังงดมาสองรอบ เตรียมนำหนังสือ-ความเห็นอัยการสูงสุด กางบนโต๊ะประชุม ก่อนลุ้นโหวตลงมติ”รับ-ไม่รับคำร้อง”คดีทักษิณ-เพื่อไทย โดนร้องล้มล้างการปกครองฯ
'อนุทิน' เช็กสัญญาณ ครม.อิ๊งค์ ปมศาลรธน.นัดถกรับ-ไม่รับคำร้อง คดีทักษิณ-เพื่อไทย ล้มล้างการปกครอง
ที่ด่านพรมแดนบ้านผักกาด ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี นายอนุชิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณี ที่ในวันพรุ่งนี้(22 พ.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณารับคำร้อง
'นิพนธ์' ซัดรัฐบาลแจกเงินหมื่น เฟส 2 หวังผลการเมือง ไม่ใช่กระตุ้นเศรษฐกิจ
นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย-อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และอดีตนายก อบจ. พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ เฟส 2 ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีการแจกเงินสด 10,000 บาท ให้แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ที่ลงทะเบียนในระบบและยืนยันตัวตนแล้ว รวมกว่า 4 ล้านคน