กองเชียร์เพื่อไทย ไล่บี้สอบจริยธรรม 'ซุ้มการเมือง' ดีแต่ปากกล่าวหาพรรคอื่น

19 ต.ค.2566 - เมื่อเวลา 13.35 น. ที่รัฐสภา นายนิยม นพรัตน์ หรือ "เค สามถุยส์" เข้ายื่นหนังสือถึงนายพิเชษฐื เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฏรคนที่ 2 เพื่อขอความเป็นธรรม ในการตรวจสอบจริยธรรมของนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1

โดยนายนิยม กล่าวว่า เนื่องจากนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุลที่ปรึกษาของรองประธานสภาฯ คนที่ 1 มีพฤติกรรมคุกคาม ข่มขู่ประชาชน เนื่องจากเราได้เรียกร้องในเรื่องนี้ไปกว่าหนึ่งเดือนแล้ว แต่ยังไม่มีความชัดเจนจากพรรคก้าวไกลว่า จะลงโทษ หรือจะแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งตนได้นำหลักฐาน และรายชื่อของบุคคลที่กระทำการดังกล่าวมาส่งให้กับทางรัฐสภาและกรรมาธิการ เนื่องจากมีพฤติกรรมของข้าราชการ หรือพนักงานราชการ ในการนำชื่อ ที่อยู่ ข้อมูลส่วนตัว ออกมาเผยแพร่ต่อสาธารณะ ซึ่งเป็นข้อมูลจากทะเบียนราษฎร แสดงว่ามีพฤติกรรมของข้าราชการ หรือพนักงานราชการ และไม่ทราบว่า สส. ใช้ตำแหน่งอะไร ประพฤติมิชอบหรือไม่ หรือใช้อำนาจบังคับขู่เข็ญในการบังคับเอาข้อมูลหรือไม่

ทั้งนี้ การที่ตนต้องการให้ตรวจสอบเรื่องจริยธรรมของพรรคก้าวไกล เนื่องจากเหตุการณ์นี้เกิดตั้งแต่ตอนที่นายปดิพัทธ์ยังอยู่พรรคก้าวไกล รวมถึงกรณีที่ที่ปรึกษาของรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ได้เดินทางประเทศเยอรมันนี พร้อมกับสส. ของพรรคก้าวไกล จึงมีคำถามว่าไปในตำแหน่งหรือฐานะอะไร เพราะบุคคลนั้นได้ออกมาระบุเองว่า ลาออกจากการเป็นที่ปรึกษาแล้ว

“เนื่องจากเขาเป็นข้าราชการทางการเมือง คุกคามประชาชน เราปล่อยคนเหล่านี้ไว้ไม่ได้ ต้องมีการลงโทษอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่งั้นจะเป็นเยี่ยงต่อไปในอนาคต ถ้าสส. หรือนักการเมือง มีพฤติกรรมไปเอาทะเบียนราษฎรของประชาชนมาโพสต์ให้เกิดการล่าแม่มด แบบนี้ประชาชนจะกล้าวิพากษ์วิจารณ์นักการเมืองหรือไม่ อย่างไร” นายนิยม กล่าว

ด้านนายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ประเด็นดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง ถ้าเป็นการร้องเรียนบุคคลให้เจาะจงไปที่ตัวบุคคล ซึ่งนายปดิพัทธ์ก็ได้ย้ายพรรคไปแล้ว แต่ตนจะนำหนังสือร้องเรียนนี้ ไปให้กรรมธิการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก็เป็นเรื่องของกรรมาธิการแต่ละคณะ ที่จะพิจารณาข้อเรียกร้องดังกล่าว โดยอาจจะมีการเรียกผู้เสียหายมาให้ปากคำเพิ่มเติม

นายนิยม กล่าวอีกว่า เหตุการณ์นี้ผ่านมา 1 เดือน แต่พฤติกรรมของคนในพรรคและกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล เลือกที่จะนิ่งเฉย ตนยังไม่เห็นความคืบหน้าจากพรรคก้าวไกล ทั้งที่อ้างตัวเองว่าเป็นคนรุ่นใหม่ พรรคการเมืองใหม่ สามารถตรวจสอบได้ คนมีอุดมการณ์อยู่ร่วมกัน ไม่ปกป้องพวกพ้องเหมือนนักการเมืองเก่า แต่สิ่งที่พูดมาทั้งหมดทุกวันนี้อยู่ในพรรคก้าวไกล อะไรที่พูดออกมาตนไม่เห็นภาพ พฤติกรรมของคุณมันหนักกว่าสิ่งที่คุณกล่าวหาพรรคการเมืองอื่น

เมื่อถามว่า การเรียกร้องครั้งนี้ ต้องการให้พรรคก้าวไกลตอบข้อสงสัยของประชาชนให้เกิดความชัดเจนใช่หรือไม่ นายนิยม กล่าวว่า แน่นอน คุณต้องชัดเจน เพราะที่ผ่านมาคุณกล่าวหาพรรคการเมืองอื่นมาตลอด “ขอเรียกว่าซุ้มการเมือง”

นายนิยม กล่าวต่อว่า ต้องการให้สภาผู้แทนราษฎรจัดการกับปัญหาดังกล่าว เพราะเรื่องนี้มีระเบียบข้าราชการหรือระเบียบการปกครอง หากคุณทำตามเรารับได้ ไม่ใช่นิ่งเฉย ไม่ทำอะไร และปล่อยเวลาให้หมดไป จะมาบอกว่าลาออกไปแล้วไม่เกี่ยวกับพรรคก้าวไกลไม่ได้ ทำแบบนี้เป็นการปัดสวะให้พ้นตัว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พิธา' ทวงบุญคุณเอ็มโอยูยกเก้าอี้ประธานสภาให้จี้เร่งทำ 3 เรื่อง

'พิธา' ทวงสัญญาพรรคการเมือง-ครม. กลางสภายกเอ็มโอยูตั้ง รบ.ไม่สำเร็จ แต่ขอให้ผลักดัน 3 ข้อ รัฐสภาก้าวหน้า-นิรโทษฯ-ปฏิรูปกองทัพ

'ไอติม' ยันก้าวไกลไม่ได้หนุน 'บิ๊กแจ๊ส' ชิงนายก อบจ.ปทุมธานี

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี สส.ของพรรคก้าวไกล โพสต์แสดงความยินดีกับ นายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี (อบจ.ปทุมธานี) ที่ชนะการเลือกตั้ง

เหนื่อยแน่! เพื่อไทย รับต้องปรับยุทธศาสตร์ หลังผลโพลตามหลังก้าวไกล

นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงผลนิด้าโพลเปิดผลโพลในไตรมาส 2 ที่ ปรากฏว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) และ พรรค

'พิธา' อัด กกต. อย่าสองมาตรฐานคดียุบพรรค เชื่อ ก้าวไกล มีสิทธิรอด

'พิธา' บอก ยังไกลไปเยอะ หาก 'ก้าวไกล' รอดถูกยุบ แล้วฟ้องกลับ 'กกต.' มอง ตีความแยกมาตรา 92-93 ทำให้เกิดสองมาตรฐาน มั่นใจ คดี 44 สส. ยื่นแก้ ม.112 อธิบายได้ ย้ำ ต้องให้โอกาสในการพิสูจน์ เหตุคดีก็ยังไม่ถึงที่สิ้นสุด

หัวหน้าก้าวไกล พูดเต็มปาก สว.ส่วนใหญ่เอี่ยวนักการเมือง แต่ยังไม่แน่ชัดใครฝ่ายประชาธิปไตย

นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงรายชื่อ 200 สว. หลังจากการเลือกระดับประเทศวานนี้ (26 มิ.ย.) ว่า จากที่ติดตามมีข้อสังเกตว่าสว.ส่วนใหญ่อาจจะเข้าไปเชื่อมโยงกับนักการเมือง