17 ต.ค.2566- ที่รัฐสภา นายตวง อันทะไชย สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การศึกษา วุฒิสภาให้สัมภาษณ์ต่อท่าทีรัฐบาลไทยในสถานการณ์ความขัดแย้งสู้รบพื้นที่อิสราเอล ว่า รัฐบาลไม่ควรเลือกข้างในสถานการณ์ดังกล่าว อาจจะส่งผลความปลอดภัยต่อตัวประกัน และความมั่นคงระหว่างประเทศด้วย ส่วนความปลอดภัยของแรงงานไทยในอิสราเอล ซึ่งเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงนั้น ก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลควรทบทวน ทั้งในประเด็นของค่าแรง และความปลอดภัย ทางรัฐบาลได้ส่งนักศึกษาไทยไปยังวิทยาลัยเพื่อการประกอบอาชีพด้านการเกษตร สามารถกล่าวได้ว่า ผลผลิตทางการเกษตรของอิสราเอล 80-90 เปอร์เซ็นต์ ล้วนเป็นผลงานของนักศึกษาชาวไทย ทั้งที่อิสราเอลมีเงื่อนไขปัจจัยที่ทำให้การเพาะปลูกยากกว่าที่ไทย ตรงกันข้าม วิทยาลัยเกษตรกลับไม่สามารถสร้างอาชีพให้นักศึกษาในไทยได้ รัฐบาลควรคำนึงถึงเรื่องนี้
เมื่อถามถึงกลุ่มนักศึกษาไทยทั้ง 79 คน ที่ยังอยู่ในอิสราเอล นายตวงกล่าวว่า นักเรียนในวิทยาลัยเกษตรของอิสราเอล ที่ยังเหลืออยู่ 79 คน ซึ่งเป็นคนที่อยู่หน้างาน จะทำอย่างไรให้ช่วยพวกเขากลับมาให้ได้ และไม่รู้ว่าในจำนวนนี้มีคนที่ถูกกลุ่มฮามาสจับตัวไปหรือไม่ ดังนั้นรัฐบาลควรต้องประสานต่อ
ถามอีกว่า กรณีแรงงานไทยบางคนเลือกจะไม่กลับประเทศไทย เนื่องจากยังมีปัญหาเรื่องหนี้สินและค่าแรง นายตวงกล่าวว่า รัฐบาลต้องทบทวนเหมือนกัน เพราะตอนนี้เห็นได้ว่าความปลอดภัยในชีวิตอาจเป็นเรื่องรองไปแล้ว ความยากจนเป็นเรื่องที่ใครไม่เผชิญกับตัวเองจะไม่รู้ ประชาชนบางคนบอกว่าหากสถานการณ์ปกติก็จะกลับไปที่อิสราเอลอีก รัฐบาลต้องตระหนักว่าความยากจนทำให้คนยอมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายได้ ในฐานะที่เป็นพลเมืองไทยก็ต้องออกแบบให้เขา เพราะบางคนไปทำงานต่างประเทศโดยไม่มีหนังสือเดินทาง และไม่ได้รับการคุ้มครองจากผู้ประกอบการ
“ขณะที่ประเทศอื่นๆ สามารถนำพลเมืองของเขากลับมาได้แทบทั้งหมด แต่ประเทศไทยต้องอาศัยเงื่อนเวลาที่ทอดยาวไปพอสมควร และพลเมืองของเราอีก 30,000 กว่าคน จะทำอย่างไรกับเขา คนเหล่านี้เป็นคนที่หาเงินเข้าประเทศ ช่วยสร้างครอบครัวให้มีอาชีพ มีรายได้ มีงานทำ รัฐบาลไทยก็ได้ภาษีจากเขา ถ้าเราทำเป็นระบบดีๆ อาจจะยกระดับเพื่อความปลอดภัยให้พลเมืองของเราได้ สถานการณ์นี้จะทำให้เราได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง” นายตวงกล่าว
เมื่อถามถึงเรื่องของตัวประกัน นายตวงกล่าวว่า เบื้องต้นรัฐบาลไม่ควรเลือกข้าง เพราะจะมีกลุ่มประเทศที่เห็นต่าง ต้องกลับลำให้ทันเพื่อเจรจาช่วยเหลือตัวประกันไทยเป็นผู้บริสุทธิ์ ต้องได้รับความคุ้มครองจากประชาคมโลก ต้องถือหลักการใหญ่คือปกป้องคุ้มครองผู้บริสุทธิ์ของทั้งสองฝ่าย เพื่อจะได้บินข้ามน่านฟ้าของประเทศต่างๆ ได้ ในเรื่องนี้ พักหลังกระทรวงการต่างประเทศปรับตัวอยู่ แต่รัฐบาลต้องดำรงวิธีนี้ และดำรงระยะห่างต่อเรื่องนี้ไว้ให้ได้
“ผมไม่ได้ว่าอะไรใครนะแต่รัฐบาลที่แล้วทำมาดีแล้ว เช่นระยะห่างกับซาอุดิอาระเบีย แต่ครั้งนี้เราต้องกลับไปคุยกับเขาใหม่ ที่ผ่านมามันดีมากแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่าเราต้องไปเริ่มคุยกับซาอุฯใหม่ แต่ในเมื่อมันเกิดปัญหาเราก็ต้องกลับมาเรียนรู้และทบทวน” นายตวงกล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สว.ปฏิมา กังวลกระบวนการยุติธรรมไทยกำลังถูกสั่นคลอนหนัก!
นายปฏิมา จีระแพทย์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ปัจจุบันนี้ เราต่างทราบดีว่า การรักษาความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของประเทศคื
เศร้า! รับร่างไร้วิญญาณแรงงานไทย เหยื่อสู้รบในอิสราเอลกลับถึงบ้านแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถยนต์ตู้ยี่ห้อ โตโยต้า สีขาว ทะเบียน นจ 3915 นนทบุรี ของร้านสุริยาหีบศพ แคราย ได้เคลื่อนย้ายร่างของนายประหยัด
กกต. ยื้อ 'หมอเกศ' เลื่อนถกคุณสมบัติจบดอกเตอร์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่ได้มีการพิจารณารายงานผลการตรวจสอบกรณีพ.ญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ถูกร้องว่ากระทำการหลอกลวงให้ผู้อื่นเข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถหรือชื่อเสียงเกียรติคุณ
'มาริษ' ร่อนหนังสือประท้วงทางการอิสราเอล หลังแรงงานไทยเสียชีวิต 4 ราย
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงเหตุยิงจรวดเข้าไปในเขตประเทศอิสราเอล และทำให้คนไทยเสียชีวิต 4 ราย แล
นายกฯ เสียใจสุดซึ้ง เหตุแรงงานไทยเสียชีวิต ใกล้ชายแดนเลบานอน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทวีตข้อความ ว่า เมื่อคืนนี้(31 ต.ค.) ได้รับรายงานจากนายมาริษ เสงียมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ @AmbPoohMaris
กระจ่าง! ดร.ณัฏฐ์ นักกฎหมายมหาชน ชี้กรณีคุณสมบัติ 'สว.หมอเกศ'
“ดร.ณัฏฐ์” นักกฎหมายมหาชน ชี้ กรณี สว.หมอเกศ ปริญญาเอกและตำแหน่งศาสตราจารย์ หากไม่จริง เป็นการโชว์เหนือ หลอกลวงเพื่อจูงใจให้ผู้สมัคร สว.ด้วยกัน เข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ ความสามารถของตนเอง