'จตุพร' บี้ รมต.เพื่อไทยแจงค่าจ้างทำบล็อกเชนเท่าไร แนะ 'จุลพันธุ์' เข้าคุกถาม 'บุญทรง-ภูมิ' ปมจำนำข้าว ยุ'เศรษฐา' กล้าจริงให้ลงมือทำเลย แล้วความฉิบหายจะมาเยือน เสี้ยมพรรคร่วมจะเสี่ยงยอมตายกับโครงการเงินดิจิทัลหรือไม่ เตือนครม.ที่โหวตให้มีความผิดด้วย
13 ต.ค.2566 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ถึงโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 5.6 แสนล้านบาท ว่า คนยังไม่เคยติดคุก อาจมีความคึกคักได้ผลักดันโครงการนี้ แต่ก่อนจะตัดสินใจอะไรไป ควรไปเยี่ยมนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ กับนายภูมิ สาระผล ในคุกก่อน แล้วสอบถามโครงการรับจำนำข้าวว่า วันนั้นเขาคิดอย่างไรและทำอะไร อย่างไรก็ตาม ตนได้เจอกันครั้งแรกในเรือนจำ เขาบอกว่า เป็นการตัดสินใจที่ผิดที่สุดในชีวิต
มั่นใจว่า ขณะนี้ลำพังนายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เอาไม่อยู่แน่ เพราะการแจกเงินดิจิทัลเป็นเรื่องชาติบ้านเมืองและใหญ่กว่าตัวรัฐมนตรีที่ผลักดันโครงการเสียอีก ส่วนคนคัดค้านไม่อยู่ในวงการเมือง โดยเฉพาะอดีตผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เลขาธิการสภาพัฒน์ฯ อดีตรองผู้ว่า รวมทั้งนักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัยอีกมากมายล้วนไม่สนับสนุนโครงการนี้
สิ่งสำคัญ คนเหล่านี้มีฐานะทางสังคมและไม่ได้เกี่ยวข้องกับการแข่งขันทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทย แม้ความรักชาติบ้านเมืองได้แสดงออกแตกต่างกัน ซึ่งจริงอยู่เงินหมื่นบาทตามธรรมชาติใครก็อยากได้ แต่อีกครึ่งของความจริงนั้น มุ่งสู่การคัดค้านความหายนะที่จะเกิดขึ้น ต้องการเปิดโปงให้เห็นใครมีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างไรเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้
นายจตุพร เชื่อว่า ถ้าประชาชนได้รับรู้แล้ว คนไทยจำนวนมากอาจรับไม่ได้ และจะออกมาแสดงจุดยืนคัดค้านล้นหลามตามมาด้วย ดังนั้นอย่าคุยแต่กับความอยากได้ในช่วงคนลำบากกัน เพราะโครงการบางเรื่องดูเสมือนหนึ่งว่า ทำให้ แต่ถ้าติดคุกศาลชี้ว่า เป็นการทำเอา ไม่ใช่ทำให้
อย่างไรก็ตาม ก่อนนายจุลพันธุ์ จะไปชี้แจงกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ลองตอบเบื้องต้นก่อนว่า จ่ายค่าทำบล็อกเชนกี่บาท และทำเพื่ออะไร นอกจากนี้การไปชี้แจงนั้น เท่ากับเป็นการสารภาพก่อนก่อคดี เพราะการพูดทั้งหมดจะถูกบันทึกเป็นหลักฐาน แสดงถึงการเตือน ได้ทักทวง และมีการยืนยันแล้ว ดังนั้น เมื่อยังไม่เป็นคดีก็เริงร่ากับการคิดเพียงด้านเดียวได้เสมอ
"ไม่มีใครคิดว่าพรรคเพื่อไทยจะได้คะแนนเสียงในเรื่องนี้ แต่หลังจากแจกเงินจะเกิดความฉิบหายมาแทนที่ จะถูกจับติดคุกอีก อีกอย่างถ้าต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจแค่ 6 เดือนตามที่ประกาศไว้ จะไปจ้างทำบล็อกเชนใหม่ทำไม และทำไมไม่แจกเป็นเงินบาท แล้วจบกันไป ถ้าต้องการจะแจกกันจริง"
นายจตุพร กล่าวอีกว่า การแจกเงินตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไป ซึ่งจะมีสิทธิเลือกตั้งเมื่ออายุ 18 ปี จึงเป็นความสงสัยอาจมีประโยชน์การเมืองแฝงซ้อนไว้ นอกจากนี้ยังไม่แยกแจกคนยากดีมีจน แล้วตัวคนแจกก็ได้รับในสิ่งนั้นด้วย ทั้งหมดนี้ มีความคลางแคลงใจว่า ลงทุนไปเพื่ออะไร และคิดอ่านอะไรไว้ อีกอย่างคนที่รู้เรื่องเงินดิจิทัล การเงิน การคลัง ไม่รู้กี่สายตาต่างสงสัยในการแจกเงินครั้งนี้
พร้อมมั่นใจว่า ถ้าเป็นโครงการสุจริต ไม่มีใครขัดขวางประชาชนได้รับแจกเงินหมื่นบาทแน่นอน ขณะที่พรรคเพื่อไทยมีโครงการหลายเรื่องประกาศไว้สามารถขยับได้ทันทีที่ไม่ได้รับผลกระทบ แต่โครงการดิจิทัลเกิดสงสัยในเรื่องประโยชน์ทับซ้อน โดยมีคนได้ผลประโยชน์และไม่สมเหตุสมผลที่จะทำบล็อกเชนขึ้นมาใหม่ ถ้าต้องการใช้จ่ายแค่ 6 เดือน
"ลองแถลงออกมาว่า ต้องการใช้เงินทำบล็อกเชนเท่าไร รวมทั้งการเข้า-ออกของเหรียญดิจิทัลไป-กลับอย่างละ 3% ตามข้อสงสัยนั้นมีมูลค่าเท่าไร ขณะเดียวกันที่บอกจะหมุนเป็นวงรอบ ซึ่งถามกันหลายครั้งว่า มันจะหมุนอย่างไร เพราะการซื้อสินค้าเงินจะไหลเข้าไปยังเจ้าสัวผู้ผลิตสินค้าในขั้นตอนสุดท้ายเท่านั้นเอง"
นายจตุพร กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดในขณะนี้ คือ ถ้าพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลคิดว่าตัวเองถูกต้องก็ไม่ควรคิดอะไรมาก ลงมือแจกเงินเลย ส่วนทำไม ปปช.จึงให้มือทำงานคนสำคัญมาตรวจสอบ อีกทั้ง ธปท.อยู่ดีๆ จะขวางการแจกเงินทำไมถ้าเป็นโครงการรที่ดี ไม่กระทบกับการเงิน การคลังของชาติ แต่ทุกคนเห็นตรงกันว่า โครงการนี้สร้างผลกระทบกับประเทศ ดังนั้น หน่วยงานต่างๆ จะไม่ปล่อยให้บ้านเมืองเกิดความเสียหายก่อน เพราะมีบทเรียนมากมายมาแล้ว ถ้ารัฐบาลเริ่มประกาศรายละเอียดขั้นตอนการแจกเงินอย่างชัดเจนก็เข้าเงื่อนไข จะถูกตรวจสอบ ขัดขวางทันที
"ถ้ารัฐบาลประกาศจะทำจริงตามความกล้าที่พูดนั้น ก็ลงมือเลย ประกาศเลย ไปศึกษาทำไม เพราะนโยบายที่ใช้ในการหาเสียงต้องศึกษามาก่อนหน้าแล้ว และยังบอกที่มาของเงินกับ กกต. (คณะกรรมการการเลือกตั้ง) ตอนประกาศนโยบายหาเสียง ดังนั้น จึงเกิดสงสัยว่า เพื่อไทยคิดอะไรอยู่ เมื่อต้องการใช้แค่ 6 เดือนไปสร้างบล็อกเชนทำไม สิ่งนี้ทำให้มองเห็นเส้นทางพร้อมร่องรอยแฝงเร้นได้อย่างดีว่า อะไรจะเกิดขึ้น”
นายจตุพร สงสัยว่า พรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ พร้อมจะมาเสี่ยงชีวิตในโครงการดิจิทัลหรือไม่ และจะยอมตายทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ เนื่องจากโครงการนี้ต้องเป็นมติ ครม.และถ้าผิด คนโหวตมติให้ต้องโดนความผิดด้วย และอาจทั้ง ครม. ถ้ากล้าเสี่ยงไปกับพรรคเพื่อไทย
รวมทั้งกล่าวว่า ในแวดวงการเมืองเริ่มประเมินกันว่า การแจกเงินดิจิทัลจะเป็นจุดแตกหักของพรรคร่วมรัฐบาลอย่างสำคัญ เพราะพรรคอื่นจะไม่กล้าเสี่ยง เนื่องจาก ปปช.ตั้งกรรมการศึกษาเพราะได้กลิ่นไม่ดี พร้อมยังจะเตือนรัฐบาลเหมือนเตือนโครงการรับจำนำข้าว เรื่องเหล่านี้จะมีผลทางการเมืองและความผิดอาญาด้วย ถ้าโหวตสนับสนุนการแจกเงินดิจิทัล ดังนั้น จึงไม่มีใครต้องการเข้าคุกเหมือนนายบุญทรงและนายภูมิ สองอดีต รมต.พาณิชย์ ในสมัยยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ
"โครงการนี้ หากเพื่อไทยมั่นใจ ศึกษามาดีและประกาศช่วงหาเสียงเลือกตั้งแล้ว วันนี้คุณต้องบอกมาตรการมา มีขั้นตอนรายละเอียดต่างๆ ในการทำแล้ว แต่วันนี้ได้รู้ว่าถ้าประกาศให้สังคมรับรู้ จะถูกจับได้ แล้วยังจะโดนลากไปเอาผิดอีกไม่รู้กี่เรื่อง”
พร้อมทั้ง กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยที่มอบให้นักการเมืองมาทำการโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ก็เป็นคนไม่มีประวัติและประสบการณ์บอกถึงความสำเร็จในเรื่องการเงิน การคลัง ดังนั้น ถ้าไม่ฟัง ธปท. ไม่ไตร่ตรวจคำถาม 7 ข้อของอดีต ธปท. และยังไม่กล้าตอบคำถามอีกด้วย เอาแต่ออกท่วงทำนองว่า จะมีคนต้องการล้มรัฐบาล ซึ่งแถกไปเรื่อยเปื่อย
นายจตุพร ย้ำว่า ถ้าการแจกเงินดิจิทัลเกิดความเสียหายขึ้น นักการเมืองต่างมาแล้วก็ไป ไม่รับผิดชอบ ดังนั้น จึงเสนอให้วางทรัพย์สินไว้เป็นเดิมพันค้ำประกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประเทศชาติ หากพรรคเพื่อไทยมั่นใจว่า เป็นโครงการที่ดี ก็ควรรวบรวมทรัพย์มาวางการันตีกับ ปปช. จะทำให้สิ้นสงสัยได้ดีที่สุด
อีกทั้ง กล่าวว่า ถ้าต้องการให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลอย่างโปร่งใสกระจ่างแจ้งแล้ว รัฐบาลควรเชิญ ผู้ว่า ธปท.และอดีตผู้ว่า ธปท. พร้อมผู้รู้ด้านการเงิน การคลังมาถกเถียงแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน แล้วถ่ายทอดสาธารณะให้ประชาชนรับรู้ ซึ่งเป็นสิ่งดีและควรกระทำ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นควรตอบคำถาม 7 ข้อในแถลงการณ์ของอดีต ผู้ว่า ธปท.และนักวิชาการยิ่งจะทำให้เข้าใจกันมากขึ้น
"ไม่มีใครอิจฉาการแจกเงินหมื่นบาทกับประชาชนเลย ความจริงแล้วหากต้องการให้พรรคเพื่อไทยพังพินาศทางการเมืองก็ควรสนับสนุนให้ทำเลย เพราะอย่างไงก็พังอยู่แล้ว แต่เราไม่ต้องการให้วิกฤตเกิดซ้ำขึ้นมาทำให้บ้านเมืองเสียหายอีก"นายจตุพร กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'จตุพร' ซัด 'ทักษิณ' สติแตก โต้ 'ผมเป็นหนี้อะไรนักหนาสู้ให้จนติดคุก 5 ครั้ง' คงทดแทนพอแล้ว
'จตุพร' ซัด 'ทักษิณ' สติแตก อารมณ์อึดอัดพลุกพล่าน พูดกราดเกรี้ยวดุดัน โชว์ถ่อยเป็นพ่อไม่ไว้หน้านายกฯ ลูกสาว จวกปราศรัยเหวี่ยงแห ดุด่าสองแง่สามง่าม ยัดเยียดสารพัดเนรคุณ ย้อนแสบทดแทนบุญคุณนักสู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บหรือยัง ลั่น 'ผมเป็นหนี้อะไรนักหนา' สู้ให้จนติดคุก 5 ครั้ง ชีวิตผจญชะตากรรมไม่รู้จบ บ้านรอถูกยึด คงทดแทนกันพอแล้วมั้ง
จตุพรชี้ รัฐบาลพ่อเลี้ยง ขาดพ่อก็จบ ไม่มีคนเกรงใจ
“จตุพร” ชำแหละรัฐบาลพ่อเลี้ยง สะท้อนนายกฯ ยังละอ่อนการเมือง ฉะพ่อก้าวร้าว อาละวาดตบจูบทำเสมือนเป็นนายกฯ ตัวจริง ส่วนลูกแค่ร่างทรง เชื่อขาดพ่อรัฐบาลก็จบ จับตาเชือด “พีระพัง” หลังปีใหม่ ระบุขวางผลประโยชน์กลุ่มทุนผูกขาด ซัดสหายใหญ่ ทำตัวเป็นแมวเสียศักดิ์ศรีคุมกลาโหม ชมฉายา “อนุทิน- รมต.น้ำ” รู้เท่าทันสถานการณ์บังคับให้เล่นเป็น อยู่ได้ ชี้นายกฯ แพทองโพย เอาแต่อ่านทำภาพลักษณ์ผู้นำหายหมด
การเมืองมกรา’68 พรรคร่วมร้อนรุ่มแตกหัก ‘ทักษิณ’ หนาวสะท้านชั้น 14
ทักษิณขยี้หนัก โชว์ภาพตีกอล์ฟขนาบข้างทุนผูกขาด ส่อสื่อสัญญาณรุก “พีระพันธุ์-รวมไทยสร้างชาติ” คาดชะตากรรมไม่แตกต่าง “ประวิตร-พปชร.” ประเมินปี 68 ปมชั้น 14 ทำการเมืองร้อนแรง
'จตุพร' ฉะ 'ทักษิณ' เดินเกมการเมืองอบจ. แบบตีท้ายครัว ใช้นโยบายปราบผู้มีอิทธิพลเพื่อต้อนเข้าคอก
นายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวถึงบทบาทของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการเป็นผู้ช่วยหาเสียงผู้สมัครนายก อบจ.ของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ต่างๆ ว่า จากคำพูดของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ที่ออกมาระบุว่าได้พานายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์
แย้มข่าวดี! รัฐจ่ออัดของขวัญปีใหม่
“จุลพันธ์” แย้มข่าวดีรัฐบาลเตรียมอัดมาตรการของขวัญปีใหม่ ชูปลุกจับจ่ายใช้สอย พร้อมยันคนแก่ได้แน่เงิน 10,000 บาท การันตีไม่เกิน ม.ค. 2568 ฟุ้งไทยติดท็อป 1 ใน 20 ประเทศลุยรีดภาษีนิติบุคคลบริษัทข้ามชาติไม่เกิน 15% ฝันดูดเม็ดเงินลงทุนกระหึ่ม ดันรายได้รัฐพุ่งปีละ 1 หมื่นล้านบาท
'จตุพร' อัดคนทุจริต จิตตกมาตรฐานต่ำ อวดยิ่งใหญ่ตวาดไล่ รมต.
จตุพรฟาดทักษิณ คุณใหญ่มาจากไหน เย้ยมาตรฐานการเมืองต่ำ ชกใต้เข็มขัด ลามปามลากครอบครัวไม่เกี่ยวข้องการเมืองมาโพนทะนาเสียหาย ซัดกลับมีอาชีพอะไรทำไมรวยแล้วยังโกงบ้านเมือง ปัดหากินกับม็อบเพราะไม่ได้คุมเงิน ปูดบางพรรคหลังเลือกตั้งจ่ายเงินให้ สส.คนละ 5 ล้านแล้ว ย้อนคุณรู้หรือไม่? จะให้ ปปง.ตรวจสอบหรือไม่