7 ต.ค.2566 - นายภัทร เหมสุข นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า เรื่องแจกเงินหมื่นบาทในการหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ผมเขียนแสดงความเห็นไปมากแล้วจนกระทั่งพรรคนี้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลผสม ผมก็ให้ความเห็นมาอย่างต่อเนื่อง วันนี้มีข่าวว่าอดีตผู้ว่าแบงก์ชาติ คณาจารย์ รวมตัวคัดค้านรัฐบาลแจกเงินนั้น ผมมองว่านี่คือบันไดลงที่สวยมากที่ควรฉกฉวยเอาไว้ อย่าพลาดโอกาสเลยทีเดียว
ผมคิดว่าทุกคนรู้ และทุกคนไม่โง่ รู้อยู่เต็มอกว่ารัฐบาลหาเงิน 560,000 ล้านบาทมาแจกไม่ได้หรอกครับ เงินมหาศาลขนาดนั้น จะกู้เงินมาแจกก็คือการเสี่ยงและเป็นการสร้างหนี้ที่ไม่จำเป็น รู้ก็รู้อยู่ว่าเป็นการหาเสียงแบบปากพล่อยพูดไปเรื่อย ผมยังคิดอยู่เลยหลังเลือกตั้งใหม่ๆ ว่าจะโดน กกต.สอยร่วงหรือเปล่าเพราะเข้าข่ายสัญญาว่าจะให้ แต่ กกต.ก็ไม่ได้ได้ทำอะไรกับเรื่องนี้ เอาเป็นว่าแม้แต่ สส.ตอนนี้ที่หลายคนหลายพรรคน่าจะโดยสอยร่วงไปแล้วในหลายความผิดเมื่อหลายเดือนก่อนก็ยังเดินเข้าสภากันอยู่ เหมือนโยนปัญหาทั้งหมดไปให้ระบบยุติธรรมเป็นคนจัดการ เอาเป็นว่าผมไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ในเวลานี้ เพราะเป็นสิทธิ์ของ กกต. ที่จะทำอย่างไรในรูปแบบไหนก็แล้วแต่พวกท่านจะคิดพิจารณากันไป วันนี้ผมอยากจะพูดแต่เรื่องแจกเงินเท่านั้น
อย่างที่ผมพูดไปแล้วว่า นี่คือบันไดลงที่สวยงามที่จะยกเลิกการแจกเงินที่ไม่มีปัญญาแม้แต่จะหาเงินมาแจก รัฐบาลอย่าพลาดโอกาสนี้เด็ดขาด เพราะเรื่องแบบนี้มันไม่ได้มาบ่อยๆ ผมคิดว่าทุกคนก็ไม่ได้โง่พอที่จะไม่รู้ว่าแจกเงินให้คนทุกคนที่อายุเกิน 16 มันเป็นการหาภาระใช้หนี้ให้ก็บเด็กรุ่นต่อไปที่จะมาใช้หนี้คนรุ่นก่อนหน้าแบบโง่ๆ เงินมันไม่ใช่ว่าจะได้มาฟรีๆ ทุกบาทคือหนี้ของประเทศที่เพิ่มขึ้น หนี้จำนำข้าวยังใช้หนี้ไม่หมดเลย จะมาเพิ่มหนี้ใหม่กันอีกแล้ว เพียงแค่ดอกเบี้ยเงินกู้ของ 560,000 ล้านบาทอย่างเดียวก็สามารถสร้างระบบพื้นฐานให้ประเทศเพื่อคนอีกรุ่นที่อายุไม่เกิน 16 ปีที่จะเติบโตขึ้นมาได้อีกมากมาย แทนที่จะโยนหนี้ที่พวกเขาไม่ได้สร้างแต่ต้องมาหาเงินใช้หนี้ในวัยที่พวกเขาทำงานในอนาคต
ผมคงไม่ต้องพูดเรื่องเศรษฐศาสตร์มหภาคให้ฟังอีก เพราะผมพูดมามากแล้ว ยิ่งมีผู้หลักผู้ใหญ่ระดับอดีตผู้ว่าการ รองผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย และนักวิชาการทั้งหลาย ออกมาลงนามร่วมกันให้ความเห็นยิ่งต้องฟัง เรื่องแบบนี้ไม่เคยมีมาก่อนที่ทุกคนจะรวมตัวกันออกมาค้านนโยบายของรัฐบาลแบบหนักแน่นขนาดนี้
ตอนนี้ตลาดหุ้นก็แดงไปครึ่งกระดาน อินเด็กซ์ก็ลดลงไปมหาศาลทะลุต่ำกว่าแนวต้านที่ 900 ทุนต่างชาติก็ถอนออกไปหลายหมื่นล้าน ค่าของเงินบาทก็อ่อนลงมารูดจนชนทะลุ 37 บาทต่อดอลลาร์ สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ปีหน้าสงครามใหญ่ในย่านนี้จะเกิดหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ อีกหลายสิบปัญหาที่จะตามมาในปีหน้าจากภาวะการเงินโลก ขนาดจีนยังต้องรัดเข็มขัด เศรษฐกิจยุโรปก็เน่าไปเรียบร้อยแล้ว คนที่อยู่ในแวดวงการเงินทั้งในประเทศและนอกประเทศก็พอจะมองเห็นปัญหาล่วงหน้ากันได้บ้างแล้ว ผมเองก็เชื่อว่ารัฐบาลไม่โง่พอที่จะมองไม่เห็นปัญหาเหล่านี้
เลิกเถอะครับ อย่าสร้างปัญหาให้บ้านเมืองเพิ่มขึ้นอีกเลย อายเด็กอีกรุ่นที่จะเติบโตขึ้นมาใช้หนี้ของคนไม่กี่คนที่ปากพล่อยหาเสียงหาคะแนนให้ตัวเองแบบไม่ลืมหูลืมตาแบบนี้
อยากอ่านแถลงการณ์คัดค้านเงินดิจิทัลวอลเล็ต จากนักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ ก็อ่านได้ที่นี่ครับ
https://www.facebook.com/photo/?fbid=361842319510141&set=a.263911985969842
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อุ๊งอิ๊ง' ปลื้มกระแสญาติพุ่ง!
'แพทองธาร' บอกดีใจค่ะดีใจ หลังกระแส 'ยศชนัน' พุ่ง
'ชัยวุฒิ' จี้ 'อภิสิทธิ์' ประกาศให้ชัดจะร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยไหม
'ชัยวุฒิ' จี้ 'อภิสิทธิ์' ชี้แจงให้ชัด จะร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ หลังประกาศไม่ร่วม 'กล้าธรรม' ชี้ FC ประชาธิปัตย์สับสน
เพื่อไทยแปดริ้ว ดัน ‘โจ๊ะ’ พันธุ์พงศ์ ชิง สส.เขต 2
สนามเลือกตั้ง เพื่อไทยแปดริ้ว “เฮียเน้า” สมชัย อัศวชัยโสภณ ดันลูกชาย “โจ๊ะ” พันธุ์พงศ์ ชิงพื้นที่ เขต 2 จ.ฉะเชิงเทรา อ้อนคนในพื้นที่ขอชนะใจด้วยการทำงาน เชื่อได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ไม่ประมาทคู่แข่ง
ข้ามขั้ว! เพื่อไทยเปิดตัว 'นิติศักดิ์ ธรรมเพชร' บ้านใหญ่พัทลุง อดีตรวมไทยสร้างชาติ
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ แคนดิเดตนายกฯ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งและแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย นายก่อแก้ว พิกุลทอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยดูแลพื้นที่ภาคใต้
รัฐบาลขออภัย 'คนละครึ่งพลัส' ไม่ได้ไปต่อ ซัดเพื่อไทยล้มเหลว 'แจกเงินหมื่น' แต่ไม่ยอมรับผิด
รัฐบาลกราบขออภัย "คนละครึ่งพลัส" ไม่ได้ไปต่อ โต้ พท.กล่าวหารัฐบาลเสียงข้างน้อยตีตกเงินหมื่น จวก เป็นความล้มเหลวปฏิบัติหน้าที่รัฐบาลในอดีต
บ้านใหญ่โคราชเพื่อไทย จัดไพรมารีโหวต เคาะผู้สมัคร สส. 16 เขต ชาติพัฒนาได้ 3 พื้นที่
พรรคเพื่อไทย บ้านใหญ่โคราช ได้มีว่าที่ผู้สมัคร สส.นครราชสีมา ทั้ง 16 เขตเลือกตั้ง และผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อและสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา รวมกว่า 200 คน นำโดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้สมัครบัญชีรายชื่อพรรคเพือไทย

