ชำแหละวงการตำรวจ 'จตุพร' จี้ 'บิ๊กต่อ' ต้องแก้ปัญหา 'บิ๊กโจ๊ก' เปิดข้อมูลสีเทา

“จตุพร” แนะ “บิ๊กต่อ” ผบ.ตร.คนใหม่ รุกแก้ระบบเพี้ยนของตำรวจให้สิ้นซาก จี้ปฎิรูปองค์กร ขจัดเส้นสายวิ่งเต้นซื้อตำแหน่ง เชื่อระบบตำรวจเปลี่ยน ประเทศจะเปลี่ยนตามด้วย ส่วน “บิ๊กโจ๊ก” เปิดข้อมูลตำรวจเทาๆ ออกมาให้หมด ล้างบางพวกหากินกับสิ่งผิด กม.

28 ก.ย.2566 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์วานนี้ ระบุว่า แม้ สนง.ตำรวจแห่งชาติ ตั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็น ผบ.ตร. คนใหม่แล้ว แต่ความวุ่นวายหลากหลายจะประเดประดังเข้ามาไม่รู้จบ เพราะระบบเส้นสายและการวิ่งเต้นใช้เงินซื้อตำแหน่งยังฝังแน่นอยู่ ดังนั้น งานใหญ่ก่อนทิ้งทวนเกษียณปี 2567 ผบ.ตร.ต้องสะสางระบบตำรวจผิดเพี้ยนเพื่อผดุงคุณธรรม เรียกศรัทธาประชาชนกลับคืนมา

นายจตุพร กล่าวว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือบิ๊กโจ๊ก รอง ผบ.ตร. บอกมีข้อมูลมากหากเปิดเผยตายกันหมดทั้ง สนง.ตำรวจแห่งชาติ แต่จะไม่เอาคืน ไม่แก้แค้น และไม่อยากทุบหม้อข้าวตัวเอง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่บิ๊กโจ๊กพูดออกมานั้น เป็นการมัดหัวท้ายจนยากจะดิ้นหนีได้แล้ว

นอกจากนี้ยังกล่าวว่า มีการกล่าวหาตำรวจลูกน้องบิ๊กโจ๊กให้เงินสื่อมวลชนครั้งละหนึ่งหมื่น ซึ่งนักการเมืองกับข้าราชการ ถ้าให้และรับเงินเกิน 3,000 บาทย่อมเป็นปัญหาเข้าข่ายวินัยร้ายแรงแล้ว อีกทั้งยังบอกถึงการใช้เงินส่วนตัวกว่า 20 ล้านบาทต่อปีมาทำงานราชการ ซึ่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ควรตรวจสอบว่า เงินส่วนตัวมาจากไหน อย่างไร และใช้มากี่ปีแล้ว

นายจตุพร กล่าวว่า หลังบื๊กโจ๊กพูดถึงข้อมูลที่ยังไม่เปิดเผยออกมานั้น ทำให้สถานการณ์ใน สนง.ตำรวจแห่งชาติ ไปไกลมากกว่าที่คิด ความจริงถ้านิ่งมาแต่ต้น แค่รักษาลมหายใจเอาไว้ ย่อมมีโอกาสได้เป็น ผบ.ตร.อยู่แล้ว เพราะเกษียณปี 2574 และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.อีกคนเกษียณปี 2569 ส่วน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ขึ้นเป็น ผบ.ตร. คนใหม่ จะเกษียณปี 2567

ดังนั้น เวลาขึ้นเป็น ผบ.ตร.ช้าที่สุดของบิ๊กโจ๊ก ถ้าเป็นต่อคิวจาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ที่เกษียณปี 2569 แล้ว ยังเหลืออายุราชการอีกตั้ง 5 ปี จึงมีเวลาเหลือเฟือ แต่การพูดในลักษณะกำข้อมูลไว้เยอะ ย่อมมีผลกระทบกับเวลาที่เหลือ และกว่าจะเกษียณราชการปี 2574 จะได้ใช้หรือไม่ เพราะจะเต็มไปด้วยขวากหนามต่างๆ ตามมาเป็นอุปสรรคอีก

"บิ๊กโจ๊กพูดถ้าเปิดข้อมูลออกมา คงเข้าใจได้ว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย เมื่อมาถึงขนาดนี้แล้วควรเปิดเผยออกมา ถ้าไม่เปิดคนจะรู้สึกว่า เจตนาพูดเพื่ออะไร จะด้วยมิติอารมณ์หรืออะไรก็ตาม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือบอกว่าตัวเองมีข้อมูล ซึ่งถ้านำมาเปิดเผยจะตายกันทั้ง สนง.ตำรวจแห่งชาติ สิ่งที่บิ๊กโจ๊กพูดออกมาล้วนนำไปมัดด้วยข้อกฎหมายทั้งสิ้น อีกทั้งสื่อมวลชนย่อมเดือดร้อนด้วย”

นายจตุพร กล่าวว่า มีความจริงว่า การเติบโตในชีวิตตำรวจอยู่ที่การวิ่งเต้น นายตำรวจรุ่นใหม่เมื่อวิ่งเต้นเลื่อนตำแหน่งเร็วย่อมเติบโตมาเป็นผู้บังคับบัญชาคนที่ไม่มีเส้นสายวิ่งเต้น เปรียบเหมือนเอาเด็กอนุบาลขึ้นมาเป็นประธานนักเรียนปกครองเด็ก ม.6 ด้วยเหตุนี้ ระบบตำรวจจึงเป็นปัญหากับการวิ่งเต้นได้เร็วหรือช้า และส่วนใหญ่ตั้งแต่ รอง ผกก.ขึ้นมาล้วนเกี่ยวข้องกับการวิ่งเต้นทั้งนั้น จึงเติบโตเร็ว คนไม่วิ่งเต้นจึงทำหน้าที่ด้วยความห่อเหี่ยวใจอยู่ในตำแหน่งเดิม

"เมื่อระบบก้าวหน้าอยู่ที่การวิ่งเต้นแล้ว เงินจึงมีความจำเป็นต่อการทุ่มซื้อตำแหน่ง ดังนั้น ตำรวจจึงต้องหาเงินไปซื้อตำแหน่ง แล้วตำแหน่งใหม่ก็หาเงินไปซื้อตำแหน่งถัดขึ้นไปอีก แต่การหาเงินคงไม่ได้หาจากสิ่งถูกกฎหมาย จึงต้องหาเงินจากช่องว่างของกฎหมาย ไปเอากับคนผิดกฎหมายทั้งสิ้น"

อีกทั้งย้ำว่า ด้วยระบบวิ่งเต้นใช้เงินมาแข่งขันกันทำให้ตำรวจทั้งหมดต้องเสียประโยชน์ในความก้าวหน้ากับชีวิตราชการ ดังนั้น ผบ.ตร.คนใหม่ จึงควรล้มระบบการแข่งขันออกไป โดยอาจใช้ตัวแบบเหมือนกับระบบของศาลที่ไม่มีการแข่งขันวิ่งเต้นในตำแหน่ง จะรู้กันในกระบวนการทำงานที่สนับสนุนให้เกิดความก้าวหน้า แล้วไม่เกิดปัญหาขึ้น ดังนั้น ในวงการตำรวจหลักแห่งความดีความชอบจึงเป็นรื่องที่ยากมาก

นายจตุพร หวังว่า ผบ.ตร.คนใหม่ แม้มีเวลาในตำแหน่งน้อย (เกษียณปี 2567) แต่ถ้าทำเรื่องใหญ่แล้วจะเป็นสิ่งที่น่าจดจำ อะไรที่เป็นปัญหาก็ว่าตามเนื้อผ้า ด้วยการปฎิรูปตัวเองเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกันจริงๆ นอกจากนี้ กรณีบิ๊กโจ๊กมีข้อมูลนำมาเปิดเผยแล้วจะตายทั้ง สนง.ตำรวจแห่งชาติ ต้องเปิดออกมา การจะเดินหน้าจัดการพนันออนไลน์ต้องเดินให้เต็มที่

“สถานการณ์ขณะนี้ แต่ละฝ่ายหยุดกันไม่ได้ เพราะแต่ละฝ่ายไม่สบายใจกันแล้ว แต่สิ่งที่สำคัญประชาชนจะได้ประโยชน์ เชื่อว่า ผบ.ตร.คนใหม่ทำได้ ถ้ากล้้าจัดการ แก้ไขปัญหากันเองในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ถ้าลงมือทำจริงตำรวจทั้งประเทศจะมายืนปรบมือให้ ส่วนรัฐบาลเห็นได้ชัดไม่กล้าทำแล้วในการคิดไปแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างของตำรวจ”

พร้อมระบุว่า ไทยอยู่กันด้วยสิ่งผิดกฎหมายมากมาย ทั้งหวยใต้ดิน เปิดผับ วินมอเตอร์ไซด์ นวดแผนโบราณ ซึ่งต้องจ่ายใต้ดินทั้งนั้น แต่สิ่งเหล่านี้ยังอยู่ร่วมกันได้กับสังคมมาตลอด และแก้ไขไม่ได้ เพราะมีคนดีเป็นแนวร่วมมุมกลับ คอยปกป้องไว้ จึงเป็นช่องว่างให้ธุรกิจสีเทาครองเมือง จนระบบประเทศแก้ไขได้ยากมาก

"กรณีที่เกิดขึ้นกับ สนง.ตำรวจแห่งชาติ ถ้าตำรวจตั้งต้นให้ถูก โดยในหลากหลายเรื่องราวนั้น ควรต้องพูดความจริงกัน ใครมีข้อมูลก็ต้องเปิดออกมาให้หมด สะสางกันให้สะอาด ส่วน ผบ.ตร.คนใหม่เดินหน้าปฎิรูปองค์กร ขึ้นเงินเดือนตำรวจ ถ้าทำกันจริงจะเกิดการเปลี่ยน และประเทศก็จะเลี่ยนตามไปด้วยเหมือนกัน"

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กต่อ' สั่งนครบาลสอบด่วน! ป้ายซื้อขายพาสปอร์ต ผิดจริงฟันแน่

'ผบ.ตร.' สั่งตรวจสอบที่มาของป้ายโฆษณาภาษาจีน รับทำหนังสือเดินทาง-ขอสัญชาติต่างๆ กำชับ สตม. ตรวจสอบ คัดกรองคนต่างด้าว เจอกระทำผิดฟันตามกฎหมายทุกมิติ

อดีตจเรตำรวจฯ ขอทำเรื่องเฉพาะหน้า ‘เพิ่มเงิน-สวัสดิการตำรวจ’ ก่อนจะไปเปลี่ยนประธาน ก.ตร.

ณะนี้มีการเคลื่อนไหวจะปฏิรูปตำรวจโดยตำรวจเอง หลักๆคือให้นายกรัฐมนตรีไม่เป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.  แต่ประธานจะมาจากการเลือกกันเองเหมือนคณะกรรมการข้าราชการอัยการ หรือ ก.อ. กระผม ไม่แน่ใจว่าจะเกิดผลดีกว่าเดิมหรือแย่กว่าเก่า

‘นักกฎหมายตำรวจ’ ถอดบทเรียน การเข้าระงับเหตุ ลดความสูญเสีย

ด้วยความเคารพความกล้าหาญ และเสียสละของผู้เสียชีวิต ควรแก่การยกย่องเป็นเกียรติประวัติสืบไป แต่การเข้าระงับเหตุ ของตำรวจไทยมีข้อผิดพลาด ต้องนำไปถอดบทเรียนแก้ไข

สลด! หนุ่มมุกดาหารโดนไฟดูด ดับคาเสาไฟฟ้าแรงสูง

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มุกดาหาร ได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนตายบนเสาไฟฟ้าแรงสูง บริเวณทางเข้าหมู่บ้านคำตุนาง ไปยังหมู่บ้านกุดโง้ง ตำบลมุก อำเภอเมือง

‘บิ๊กเอก’ ยกเสียงสะท้อนจากตำรวจ เจ็บปวดผู้มีอำนาจข่มขืนองค์กร ถึงเวลาต้องปฏิรูปตร.

อีกเสียงสะท้อนจากนายตำรวจ ที่สื่อสารออกมา อย่างเจ็บปวด เปรียบเทียบให้เห็นภาพองค์กรตำรวจ ผู้มีอำนาจทางการเมือง อดีตผู้บังคับบัญชาสูงสุด ทำอะไรไว้ ควรที่จะปฏิรูปตำรวจอีกหรือไม่

ชี้ 'ทักษิณ' พ้นโทษ 'เศรษฐา' จะมีความทุกข์อย่างมากที่สุด

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ช่วงหนึ่งถึงกรณีนายวิษณุ เครืองาม บอกทักษิณ ชินวัตร พ้นโทษแล้วสามารถช่วยงานรัฐบาล และเป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้นั้น