'สวนดุสิตโพล' เปิดผลสำรวจกลางสัปดาห์ เจาะปม 5 นโยบายเร่งด่วยรัฐบาลเศรษฐา ชาวบ้านหวังเรื่องปากท้องเป็นหลัก ส่วนแก้รัฐธรรมนูญไม่รีบ ซ้ำร้ายส่วนใหญ่ไม่แน่ใจสำเร็จ
27 ก.ย.2566 - สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิตได้เผยโพลสำรวจเรื่อง “5 นโยบายเร่งด่วน รัฐบาลเศรษฐา” ระบุว่า หลังจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 โดยระบุว่ามี 5 นโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลจะดำเนินการทันที คือ 1. การเติมเงิน 10,000 บาทผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล 2.การแก้ปัญหาหนี้สินภาคการเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน 3.การลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้ประชาชน 4.การผลักดันรายได้จากการท่องเที่ยว และ 5.การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ สวนดุสิตโพลจึงสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “5 นโยบายเร่งด่วน รัฐบาลเศรษฐา” จำนวน 1,358 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 18-25 กันยายน 2566 สรุปผลได้ ดังนี้
ความคิดเห็นของประชาชนต่อ 5 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลเศรษฐา ในนโยบายการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน (ค่าน้ำมัน ค่าก๊าซหุงต้ม ค่าไฟฟ้า) 86%บอกเร่งด่วนที่สุด 10.87%ค่อนข้างด่วน และ 3.13%ชะลอไว้ก่อน, นโยบายการแก้ปัญหาหนี้สินภาคการเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน 72.69%เร่งด่วนที่สุด 26.04%ค่อนข้างด่วน และ 1.27%ชะลอไว้ก่อน, นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท 63.95%เร่งด่วนที่สุด 16.38%ค่อนข้างด่วน และ 19.67%ชะลอไว้ก่อน, นโยบายการผลักดันรายได้จากการท่องเที่ยว 58.07%เร่งด่วนที่สุด 33.78%ค่อนข้างด่วน และ 8.15%ชะลอไว้ก่อน และนโยบายการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 30.85%เร่งด่วนที่สุด 36.14%ค่อนข้างด่วน และ 33.01%ชะลอไว้ก่อน
เมื่อถามประชาชนคิดว่า 5 นโยบายเร่งด่วนจะทำได้สำเร็จหรือไม่ พบว่า นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท 63.68%สำเร็จ 11.80%ไม่สำเร็จ 24.52%ไม่แน่ใจ, นโยบายการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน 62.46%สำเร็จ 11.64%ไม่สำเร็จ 25.90%ไม่แน่ใจ, นโยบายการผลักดันรายได้จากการท่องเที่ยว 60.78%สำเร็จ 6.61%ไม่สำเร็จ 32.61%ไม่แน่ใจ, นโยบายการแก้ปัญหาหนี้สินภาคการเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน 51.28%สำเร็จ 15.36%ไม่สำเร็จ33.36%ไม่แน่ใจ และนโยบายการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 22.66%สำเร็จ 23.93%ไม่สำเร็จ 53.41%ไม่แน่ใจ
สุดท้ายเมื่อถามว่าประชาชนอยากให้รัฐบาลเศรษฐาเร่งดำเนินการนโยบายใดเพิ่มเติม อันดับ 1 ขึ้นเงินเดือน ขึ้นค่าแรง 52.03% อันดับ 2 ปราบปรามการทุจริต รับสินบน 47.38% อันดับ 3 พัฒนาระบบสาธารณสุข ดูแลสุขภาพประชาชน 43.02% อันดับ 4 ปฏิรูปการศึกษาไทย 38.95% และอันดับ 5 กระตุ้นเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน 36.05%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'นายก' ชวนประชาชนบริจาคโลหิต 10 ล้านซีซี เฉลิมพระเกียรติในหลวง
นายกฯ เชิญชวนประชาชนแบ่งปันธารน้ำใจ บริจาคโลหิต 10 ล้านซีซี ถึงสิ้นเดือนธ.ค.67 เฉลิมพระเกียรติในหลวง
ผลสำรวจชี้ คนไทยกระเป๋าฉีกพบมีหนี้สิน 20-50%ของรายได้ แถมเสี่ยงถูกเลิกจ้างสูง
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “คนไทยกับความยากจน หนี้สิน และการเลิกจ้างงาน” ระหว่างวันที่ 15-19 กรกฎาคม 2567 กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,146 คน สำรวจผ่านทางออนไลน์และภาคสนาม
24ก.ค.เปิดจองเหรียญ6รอบ
“เศรษฐา” ตรวจเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินขบวนพยุหยาตราทางชลมารค
นายกฯ สั่ง ปปง.เร่งยึดทรัพย์แก๊งค้ายา
นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ สั่ง ปปง.มีอำนาจพิเศษสูงต้องทำงานแบบล้วงลูก เร่งยึดทรัพย์ตัดตอนขบวนการค้ายาฯ อย่ามัวแต่ช้า หวั่นโอนเงินหนี กำชับอย่าทำงานแบบไซโลให้เป็นข้อครหา
'เศรษฐา' ฟุ้งเตรียมถกมะกันตัดตอนยาเสพติด
นายกฯ มอบอุปกรณ์ป้องกันและตอบโต้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ย้ำให้ความสำคัญถือเป็นความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ กำชับดูแลการจ่ายรางวัลนำจับเหมาะสม ไม่ใช่รอนานจนเกษียณถึงได้ เตรียมคุย 'ทูตมะกัน' ตัดตอนยาบ้า
'เศรษฐา' อ่านโพยยกเหตุุผลขอกู้มาแจก 1.22 แสนล้านบาท
'เศรษฐา' แจงสภาของบเพิ่ม 1.22 แสนล้านบาท โอ่ฐานะการเงินประเทศยังแข็งแกร่ง รับปากใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพ