'อดีตทูตนริศโรจน์' เสนอแนวทางแก้ปัญหาดูงานพร่ำเพรื่อ!

'อดีตทูตนริศโรจน์' เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาการไปดูงานต่างประเทศพร่ำเพรื่อ ชงให้มีการทำตัวชี้วัดให้เห็นกันไปเลยมีประโยชน์แค่ไหน พร้อมมีหน่วยงานพิเศษคอยทวงถามผลทุก 3 – 6 เดือน

27 ก.ย.2566 - นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ผมมีข้อเสนอสำหรับคณะจากองค์กรภาครัฐทุกองค์กรรวมทั้งสภาด้วยนะครับ

เอาแบบนี้มั้ย ต่อแต่นี้ไปคณะไหนที่ไปดูงานประเภทใดกลับมาจะต้องทำตัวชี้วัดหรือ KPI สรุปว่าสิ่งที่ได้ไปดูมานั้นได้นำมาปรับใช้และสามารถเกิดประสิทธิผลเพิ่มมากขึ้นเท่าใด มีผลต่อหน่วยงานเป้าหมายอย่างไร

ที่สำคัญคนที่ไปดูงานต้องแจงละเอียดว่ามีหน้าที่เกี่ยวข้องกับงานที่ไปดูอย่างไร มีส่วนที่เกี่ยวกับปัญหาที่ต้องไปดูงานแค่ไหน? สรุปให้เห็นเป็นเปอร์เซ็นต์ หรือ กราฟก็ได้ให้เห็นถึง outcome ที่ได้จากการดูงาน

ต้องมีหน่วยงานพิเศษต่างหาก คอยตาม follow up สิ่งที่ไปดูงานมาทุก 3 เดือน 6 เดือน ว่าที่ไปดูมาทำอะไรไปแล้วบ้าง ? ต้องทำให้การไป “ดูงาน” มีขั้นตอนยากมากขึ้น เพื่อ screen พวกที่อ้างไปดูงาน เจ้าภาพอธิบายอะไรก็เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง ถามก็ไม่ถาม หรือถามไม่ตรงคำถาม จากนั้นก็ถ่ายรูปพอเป็นพิธีให้เห็นว่า “ข้ามาดูงานแล้วนะ” แต่ไม่มีผลงานว่าไปดูงานแล้วได้อะไร จากนั้นก็เน้นกินกับช้อปปิ้ง กินเหล้ากินเบียร์ ร้องเพลงสนุกสนานเฮฮา

ในหลายๆ ประเทศเขาไม่มีการดูงานพร่ำเพรื่อแบบบ้านเราเลยครับ !

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อดีตทูตนริศโรจน์' แฉการจัดฉากทารุณช้าง 'ผ่าจ้าน' ทำต่างชาติเข้าใจผิด ได้เงินบริจาคมหาศาล

นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า

'พิมพ์ภัทรา' นำทีมบุกญี่ปุ่น ศึกษาโมเดล 'นิคมอุตสาหกรรม Circular' มาปรับใช้กับไทย

“พิมพ์ภัทรา”นำทีมเยือนญี่ปุ่น 21 - 27 กรกฎาคม 2567 ปักหมุดดูงานพัฒนาการจัดตั้ง “นิคมอุตสาหกรรม Circular” พร้อมหารือกับองค์การพัฒนาพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอุตสาหกรรมประเทศญี่ปุ่น และองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan External Trade Organization : JETRO) เพื่อศึกษาแนวทางพัฒนาการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมของไทย ตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของโลก ที่มุ่งเน้นการพัฒนาที่ยั่งยืน เศรษฐกิจหมุนเวียน และความเป็นกลางทางคาร์บอน