'เทพมนตรี' ยกคำปรารภในรธน.ปี60 ยืนยันการแก้ไขรธน.ควรกระทำบางมาตรา ไม่ควรให้นักการเมืองแก้ไขเพื่อประโยชน์ตนเอง จะนำพาไปสู่การทุจริตคอร์รับชันทุกรูปแบบ การตั้งสสร.เพื่อนำมาสู่การยกร่างทั้งฉบับ สิ้นทั้งงบประมาณและเวลายังไม่เหมาะสมกับกาลยุคสมัย
27ก.ย.2566- นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์เฟซบุ๊กมีเนื้อหาดังนี้
การแก้ไขรัฐธรรมนูญควรกระทำบางมาตรา
คิดถึงคำปรารภที่เขียนไว้ตอนต้นในรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560
“ได้กำหนดกลไกเพื่อจัดระเบียบและสร้างความเข้มแข็งแก่การปกครองประเทศขึ้นใหม่ด้วยการจัดโครงสร้างของหน้าที่และอำนาจขององค์กรต่าง ๆ ตามรัฐธรรมนูญ และสัมพันธภาพระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหารให้เหมาะสม การให้สถาบันศาลและองค์กรอิสระอื่นซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สุจริต เที่ยงธรรมและมีส่วนในการป้องกันหรือแก้ไขวิกฤติของประเทศตามความจำเป็นและความเหมาะสม การรับรอง ปกป้อง และคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของปวงชนชาวไทยให้ชัดเจนและครอบคลุมอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น โดยถือว่าการมีสิทธิเสรีภาพเป็นหลักการจำกัดตัดสิทธิเสรีภาพเป็นข้อยกเว้น แต่การใช้สิทธิเสรีภาพดังกล่าวต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์เพื่อคุ้มครองส่วนรวม การกำหนดให้รัฐมีหน้าที่ต่อประชาชนเช่นเดียวกับการให้ประชาชนมีหน้าที่ต่อรัฐ การวางกลไกป้องกัน ตรวจสอบ และขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบที่เข้มงวด เด็ดขาดเพื่อมิให้ผู้บริหารที่ปราศจากคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาลเข้ามามีอำนาจในการปกครองบ้านเมืองหรือใช้อำนาจตามอำเภอใจ และการกำหนดมาตรการป้องกันและบริหารจัดการวิกฤติการณ์ของประเทศให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตลอดจนได้กำหนดกลไกอื่น ๆ ตามแนวทางที่รัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว พุทธศักราช 2557 ระบุไว้ เพื่อใช้เป็นกรอบในการพัฒนาประเทศตามแนวนโยบายแห่งรัฐและยุทธศาสตร์ชาติซึ่งผู้เข้ามาบริหารประเทศแต่ละคณะจะได้กำหนดนโยบายและวิธีดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป ทั้งยังสร้างกลไกในการปฏิรูปประเทศในด้านต่าง ๆ ที่สำคัญและจำเป็นอย่างร่วมมือร่วมใจกัน รวมตลอดทั้งการลดเงื่อนไขความขัดแย้งเพื่อให้ประเทศมีความสงบสุขบนพื้นฐานของความรู้รักสามัคคีปรองดอง การจะดำเนินการในเรื่องเหล่านี้ให้ลุล่วงไปได้จำต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประชาชนทุกภาคส่วนกับหน่วยงานทั้งหลายของรัฐตามแนวทางประชารัฐภายใต้กฎเกณฑ์ตามหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตยและประเพณีการปกครองที่เหมาะสมกับสถานการณ์และลักษณะสังคมไทย หลักความสุจริต หลักสิทธิมนุษยชน และหลักธรรมาภิบาล อันจะทำให้สามารถขับเคลื่อนประเทศให้พัฒนาไปข้างหน้าได้อย่างเป็นขั้นตอนจนเกิดความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน ทั้งในทางการเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ และสังคมตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”
ดังนั้นเราไม่ควรสนับสนุนให้นักการเมืองแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ตนเอง และการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พยายามจะให้มีขึ้นนั้นก็มิได้แก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน บ้านเมืองเราถ้าจะให้มีความเจริญก้าวหน้าต้องแก้ไขที่ตัวนักการเมืองไม่ใช่รัฐธรรมนูญ
เพราะปัญหาที่ผ่านมาเกิดที่ตัวนักการเมือง จะปรองดองกันกี่ครั้งมันเป็นธรรมชาติของสังคมมนุษย์
ต่อมริษยา
ต่อมแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์
มันคือรากฐานสำคัญที่นำพาไปสู่การทุจริตคอรับชั่นทุกรูปแบบ
รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันจึงไม่จำเป็นต้องแก้ไขทั้งฉบับ สมควรแก้ไขบางมาตราเพื่อประหยัดงบประมาณซึ่งมีอยู่อย่างจำกัด
การตั้ง สสร.เพื่อนำมาสู่การยกร่างเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญคือข้ออ้าง แท้ที่จริงแล้วต้องการวางรากฐานคะแนนเสียงในหมู่ประชาชนและพวกพ้องของนักการเมือง
อำนาจทั้งสามส่วนที่บริหารราชการแผ่นดิน แท้ที่จริงคืออำนาจที่มีมาแต่เดิมของพระมหากษัตริย์
และทุกวันนี้อำนาจนั้นก็ถูกใช้โดยนักการเมืองเสียเป็นส่วนใหญ่
การแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับสิ้นทั้งงบประมาณและเวลาซึ่งยังไม่เหมาะสมกับกาลยุคสมัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เทพมนตรี' ชำแหละ ตั้ง JTC แนวเดียวยุคทักษิณ ไทยยอมรับแผนที่แนบท้าย MOU44 หายนะ!
นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ JTC จาก MOU44 มีเนื้อหาดังนี้
เพื่อไทย เผยแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ประชุม กมธ.ร่วมประชามตินัดแรกแย่งหัวโขนประธาน
'กมธ.ร่วมประชามติ' ประชุมนัดแรก ถกนัวเก้าอี้ประธาน สุดท้ายได้ 'สว.ฉัตรวรรษ' นั่งหัวโต๊ะ
'บิ๊กอ้วน' หงุดหงิดถูกจี้ถามไทมไลน์แก้รัฐธรรมนูญ
'ภูมิธรรม' เผย กินข้าวพรรคร่วม 21 ต.ค. ยังไม่มีประเด็นอะไรเป็นพิเศษ บอก รธน.ยังไม่ชัด แสลงหูไม่เสร็จในรบ.นี้ จะกระทบ พท.หรือไม่ วอนอย่า 'ถ้า'
'ชูศักดิ์' ยังหวังแก้รธน.เสร็จทันเลือกตั้งรอบหน้า ย้ำต้องคุยพรรคร่วมให้สะเด็ดน้ำ
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะนัดหมายหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลหารือกันว่า เนื่องจากที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีมีภารกิจเดินทางไปต่างประเทศจึงไม่ได้มีการพูดคุยกันเป็นกิจลักษณะ
รื้อรธน. รอแกนนำสรุป นิกรชี้แฉลบหลายเรื่อง
“วิสุทธิ์” ย้ำการชำเรา รธน.ต้องรอระดับแกนนำสะเด็ดน้ำ ส่วนจะทันสมัยประชุมนี้หรือไม่ก็แล้วแต่ “อนุทิน” ลั่น พท.ยังไม่ติดต่อมา อย่าเพิ่งกังวลช่วงนี้มีเรื่องสำคัญกว่า “นิกร”