'พิภพ' วิเคราะห์ ศึกชิงเมือง เค้าลางหายนะโดยประชานิยมเหมือนสมัย 'ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์'

'พิภพ' วิเคราะห์ ศึกชิงเมืองระหว่าง ฝ่ายประชาธิปไตยเก่า กับฝ่ายประชาธิปไตยใหม่ มีการปฎิรูปประเทศเป็นเดิมพัน ชี้เค้าลางหายนะโดยนโยบายแบบประชานิยมเหมือนสมัย'ทักษิณ'และ'ยิ่งลักษณ์'

20 ก.ย.2566 - นายพิภพ ธงไชย อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เผยแพร่ความคิดเห็นเรื่อง ศึกชิงเมืองระหว่าง ฝ่ายประชาธิปไตยเก่า กับฝ่ายประชาธิปไตยใหม่ มีเนื้อหาดังนี้

ในไลน์ของ choochai@214 ของหมอชูชัย ศุภวงศ์
ได้นำบทสัมภาษณ์ของผมในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ที่พาดหัวใหญ่ว่า
”ปฎิรูปก่อนประเทศพัง”มาบอกกล่าวเล่ากันใหม่

จึงอยากขยายความเพิ่มเติม ณ วันนี้ว่า

1. เมื่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำการรัฐประหารรัฐบาล นส.ยิ่งลักษณ์ โดยอาศัยการเคลื่อนไหวมวลชนเรือนล้าน ในนาม กปปส.ที่นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ โดยอ้างว่ามาห้ามทัพไม่ให้คนไทยทะเลาะกัน อันอาจนำไปสู่การบาดเจ็บล้มตาย และจะนำการปฏิรูปประเทศภายในยุสมัยของตนที่ครองอำนาจนานถึง 9 ปีโดยคณะทหารนั้น โดยเริ่มต้นด้วยข้อ 2.

2. ตั้งขบวนการเขียน รธน.ที่นำโดย ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ แล้วฉีกทิ้ง ด้วยการพูดของประธานผู้ยกร่างว่า”เขาอยากอยู่ยาว” ทั้งที่ รธน.ฉบับนี้เป็น “รธน.ฉบับปฏิรูป”รอบด้านฉบับหนึ่ง

3. เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงมีการตั้งนายมีชัย ฤชุพันธุ์ จัดการยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ ให้หัวหน้าคณะรัฐประหารอยู่ยาวขึ้น โดยให้มี สว. 250 คน มีสิทธิโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคร่อมสองสมัย แต่ รธน.ฉบับนี้ นายมีชัยก็ให้ความสำคัญปฏิรูปตำรวจและการศึกษา โดยกำหนดไว้ใน รธน. เพียงแต่พลเอกประยุทธ์ล้มเหลว ทำไม่สำเร็จ การปฏิรูปในสองเรื่องที่สำคัญ เมื่อทำไม่ได้ ปัญหาประเทศก็ตามมาให้เห็นจนวันนี้

4.ความล้มเหลวในกระบวนการยุติธรรม ที่ได้ถูกกระทำในสมัยก่อนสิ้นสุดรัฐบาลประยุทธ์ที่ฝากบาดแผลฉกรรจ์ไว้คือ การนำตัวนักโทษชายทักษิณกลับบ้าน ให้มีการลดโทษจาก 8 ปีเหลือ 1 ปีและให้เท้าเหยียบเรือนจำกลางกรุเทพมหานครที่แดน 7 เพียงไม่กี่ ชม.ก็ย้ายตัวกลางดึกไป รพ.ตำรวจ กลายเป็น”นักโทษเทวดา” ซึ่งบัดนี้ก็ไม่มีใครเห็นตัว และมีโอกาศที่จะได้ลดโทษเหลือ 3 เดือน ก่อนเดินออกจากเรือนจำ

นี่เป็นการทำลายกฎหมายอาญา ระเบียบปฏิบัติทั้งหมดในกระบวนการยุติธรรมครั้งสำคัญของประเทศ เป็นการเยาะเย้ยต่อฟ้าดิน ตามสุภาษิตจีน

5. การลือกตั้งเมื่อ 14 พฤษภาคม 2566 เกิดปรากฎการณ์สืนามิทางการเมือง เกิดแลนด์สไลด์ พรรคก้าวไกล ได้ สส.ทั้งเขตและ บช.รายชื่อ ได้เสียงประชาชนถึง 14 ล้านคน 151 เสียง โดยอดีตนายกรัฐมนตรีนายชวน หลีกภัย ให้การรับรองว่าพรรคก้าวไกลไม่มีการซื้อเสียงใดๆ

ทำให้เกิดอาการตกอกตกใจของฝ่ายประชาธิปไตยที่ต่อต้านหรือสนับสนุนรัฐประหาร ไปออกแบบมัดรวมพรรคที่ต่อต้านการรัฐประหารไว้ จึงวางแผนแก้มัด เพื่อมัดกันใหม่ ไปรวมพรรคที่สนับสนุนการรัฐประหาร

และถีบหัวหน้าพรรคก้าวไกลออกไปเป็นฝ่ายค้าน ด้วยการโจมตีและล่อลวงทางการเมือง ทั้ง สว.ที่จะดันประยุทธ์หรือประวิตรกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งแต่ไม่สำเร็จ พรรคเพื่่อไทยจึงได้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยรื้อ MOU ทิ้งเฉพาะเรื่องสำคัญที่สัญญาไว้จะไม่ทำ ไม่ว่าจะเขียน รธน.ใหม่ หรือนิรโทษกรรมทางการเมือง หรือปฏิรูปประเทศ หรือปฏิรูปกองทัพ

หายนะประเทศจึงปรากฏเค้ารางตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยนโยบายการเมืองแบบประชานิยมเหมือนสมัยทักษิณและ นส.ยิ่งลักษณ์

โดยลืมไปว่าผลการเลือกตั้งที่ออกมาแบบนี้ คือคนหนุ่มสาว คนรุ่นใหม่และชนชั้นกลางคนรุ่นเก่าใหม่ เขาต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ โดยการปฎิรูปประเทศ ที่อัดอั้นกันมา 50 ปีตั้งแต่ช่วงสมัย 14 ตุลา 16

6. ณ วันนี้เป็นต้นไป การเมืองไทยจะแบ่งเป็น 2 ขั้ว ขั้วหนึ่งคือ “ฝ่ายประชาธิปไตยเก่า” หรืออนุรักษ์นิยม ตั้งแต่ขวาจัด ไปจนถึงขวากลาง กับ “ฝ่ายประชาธิปไตยใหม่” ตั้งแต่อนุรักษ์นิยมก้าวหน้า ถึงเสรีนิยม

การต่อสู้ทางการเมืองจะเริ่มกันใหม่ ณ วันนี้ โดยมีการปฎิรูปประเทศเป็นเดิมพัน ซึ่งจะยืดเยื้อไปถึงการเลือกตั้งสมัยหน้า

โดยเสียงประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน

 

.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'โบว์' จัดหนักแนวร่วมค่ายส้ม จัดตั้ง สว.พวกเดียวกันไม่บ่น แต่ผลหลุดลุ่ยกลับโวยกันใหญ่

น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือ โบว์ พิธีกรรายการวิเคราะห์ข่าว และนักกิจกรรมเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า #สว67 แนวร่วมค่ายส้มทั้งสื่อทั้ง NGO

'ธนาธร' ร่อนจดหมายถึงผู้สมัครสว.ฝ่ายปชต. ปลุก อย่าหักหลัง ถ้ารวมกันแน่นเราจะชนะ

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสชต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า จดหมายถึงผู้สมัคร สว. ฝ่ายประชาธิปไตย ถึงผู้สมัคร สว. ฝ่ายประชาธิปไตยทุกท่าน

ฟันธง 'เศรษฐา' ไม่รอด ถึงเวลาทบทวน 'ดีลลับการเมือง'

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ฟันธงล่วงหน้า เศรษฐารอดยาก ไม่เกี่ยวกับดีลการเมือง