จำคุก 6 เดือนไม่รอลงอาญา 'มานี-จินนี่' 2 แกนนำม็อบปล่อยเพื่อนเรา ดูหมิ่นศาล

19 ก.ย.2566 - ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลนีดอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อ1451/2565 พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 2 ยื่นฟ้อง น.ส.เงินตา คำแสน หรือมานี กับพวกรวม 2 คน เป็นจำเลย ในความผิดต่อเจ้าพนักงาน ในการยุติธรรม, หมิ่นประมาท, พระราชบัญญัติควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ค. เวลากลางวัน จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันกล่าววาจาลักษณะดูหมิ่น ผู้พิพากษาในการพิจารณาคดี ด้วยถ้อยคำหยาบคาย ว่าเป็นบุคคลที่มีความประพฤติไม่ดี เป็นคนไม่ดี ไม่มีความเป็นกลาง และเป็นการใส่ความผู้เสียหายต่อบุคคลที่สามทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่าผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้พิพากษาไม่มีความเป็นกลางในการพิจารณาคดี

ทั้งนี้ การดูหมิ่นและหมิ่นประมาทผู้เสียหายดังกล่าว ผู้ต้องหาทั้งสองได้ร่วมกันกระทำด้วยการกล่าววาจาโดยใช้ ไมโครโฟนผ่านเครื่องขยายเสียงซึ่งใช้กำลังไฟฟ้า อันเป็นการโฆษณาโดยการกระจายเสียง โดยเครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้า ต่อบุคคลที่สามซึ่งเป็นประชาชนที่สัญจรไปมาผ่านที่ บริเวณหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้เสียหายเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น และถูกเกลียดชัง ทั้งนี้โดยจำเลยทั้งสองไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ อันเป็นการ ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย

จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพตามฟ้องโจทก์ทุกประการ

ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 198 ,328 พระราชบัญญัติ ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ.2493 มาตรา 4 วรรคหนึ่ง, 9 ประกอบ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการกระทำกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 198 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำเลยทั้งสอง รู้สำนึกในการกระทำความผิดของตนโดยให้การรับสารภาพและแถลงขอโทษต่อผู้เสียหาย ตามคำแถลงประกอบคำรับสารภาพ ตลอดจนได้ลงประกาศข้อความขอโทษผู้เสียหาย ผ่านบัญชีผู้ใช้โปรแกรมเฟซบุ๊กของจำเลยทั้งสอง

เห็นสมควรลงโทษจำเลยทั้งสองสถานเบา จำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 1 ปี จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ให้คนละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 6 เดือน พิเคราะห์รายงานการสืบเสาะและพินิจ จำเลยทั้งสองของพนักงานคุมประพฤติแล้วเห็นว่า แม้จำเลยทั้งสองจะไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน และจำเลยทั้งสองจะเขียนข้อความขอโทษผู้เสียหายและลงประกาศข้อความขอโทษดังกล่าวในบัญชีผู้ใช้โปรแกรมเฟซบุ๊กของจำเลยทั้งสองในทำนองว่า จำเลยทั้งสอง สำนึกในการกระทำที่ได้ร่วมกันดูหมิ่นศาลและผู้เสียหายว่าเป็นการกระทำที่ไม่สมควร อันเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของจำเลยทั้งสอง หากจำเลยทั้งสองได้ใช้ความระมัดระวัง และศึกษาข้อมูลมากกว่าในขณะเกิดเหตุจำเลยทั้งสองคงไม่กระทำความผิด

จำเลยทั้งสอง ทราบดีแล้วว่าศาลยุติธรรมได้อำนวยความยุติธรรมในการพิจารณาคดีมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคดีการเมือง ซึ่งจำเลยทั้งสองเข้าใจผิดไปว่าศาลไม่ให้ประกันตัวนักโทษ การเมืองและได้กล่าวถ้อยคำไม่สุภาพอันเป็นการดูหมิ่นและหมิ่นประมาทผู้เสียหายซึ่งเป็น ผู้พิพากษาไปนั้น จำเลยทั้งสองกระทำไปด้วยความรู้น้อยและไม่ได้ใช้สติไตร่ตรองอย่างถ่องแท้จำเลยทั้งสองรู้สึกสำนึกผิดและกราบขอโทษต่อผู้พิพากษาและผู้บริหาร ศาลอาญากรุงเทพใต้

โดยจำเลยทั้งสองให้คำมั่นว่าจะไม่กระทำความผิดอีก แต่การกระทำของจำเลยทั้งสองที่กล่าวถ้อยคำกล่าวหาผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้พิพากษาที่ปฏิบัติหน้าที่ไปตาม อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายด้วยถ้อยคำหยาบคาย กล่าวหาว่าเป็นผู้พิพากษาที่มีความประพฤติไม่ดี ไม่มีความเป็นกลางในการพิจารณาสั่งคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ไม่ได้ใช้ดุลพินิจโดยชอบของตนเอง แต่ต้องรอฟังคำสั่งจากบุคคลอื่นและมีคำสั่งไป ตามที่บุคคลอื่นสั่งมา อันเป็นการกล่าวหาว่าผู้เสียหายพิจารณาสั่งคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวไปภายใต้อิทธิพลครอบงำของบุคคลอื่น มีผลกระทบต่อชื่อเสียงเกียรติคุณ ของทั้งผู้เสียหายและองค์กรศาลยุติธรรม

ซึ่งจำเลยทั้งสองรับว่ากล่าวถ้อยคำดูหมิ่นศาลไป โดยไม่มีมูลความจริง ทั้งจำเลยทั้งสองยังกล่าวถ้อยคำดังกล่าวผ่านเครื่องขยายเสียง อยู่ที่บริเวณหน้าที่ทำการศาลอาญากรุงเทพใต้ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของผู้เสียหายในลักษณะ เป็นการข่มขู่ ต้องการให้ผู้เสียหายและผู้พิพากษาซึ่งปฏิบัติงานอยู่ในศาลเสียขวัญและ กำลังใจในการปฏิบัติงาน การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นเรื่องร้ายแรงและส่งผลกระทบต่อ ความเชื่อมั่นต่อองค์กรศาลยุติธรรม จึงไม่เห็นสมควรรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยทั้งสอง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไต่สวนมูลฟ้อง 'บิ๊กโจ๊ก' ฟ้องหมิ่น 'อัจฉริยะ' เผยดีลกันแล้วบิ๊กโจ๊กจะยอมถอนฟ้องทุกคดี

ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุงศาล นัดไต่สวนมูลฟ้อง คดีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.เป็นโจทก์ฟ้อง นายอัจฉริยะ เรืองรัตน

'โจ๊ก' เผย 'บิ๊กเต่า' ขอเลื่อนนัดไต่สวนมูลฟ้องคดีหมิ่นประมาท เป็นครั้งที่ 2

ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องของโจทย์เป็นครั้งที่ 2 ในคดีที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ยื่นฟ้องพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา

คุก 1 ปี 'จิรัฏฐ์' สส.ก้าวไกล อภิปรายหมิ่นอดีตเสธ.ทอ. ชดใช้ค่าเสียหาย 5 แสน

ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมิ่นประมาทหมายดำอ.2519/2565 ที่พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี อดีตเสนาธิการทหารอากาศ และอดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นโจทก์ฟ้องนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ สส.เขต4 ฉะเชิงเทรา พรรค ก้าวไกล เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา

'บิ๊กโจ๊ก' ฟ้อง 'พล.ต.ต.' กูรูกฎหมาย หมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 10 ล้าน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. เดินทางมายื่นฟ้องกูรูด้านกฎหมายซึ่งเป็นอดีตตำรวจ ยศพล.ต.ต.ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากกรณีจงใจใส่ความต่อบุคคลที่ 3 ทำให้ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด พร้อมเรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาท

ฟ้องผิดศาล! 'หมอวรงค์' ไล่ 'ทักษิณ' ไปประเทศสารขัณฑ์

นพ.วรงค์ เดชวกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

ครูดนตรีไทยหื่น นอนคุก! ศาลอาญาใต้ไม่ให้ประกัน คดีอนาจารลูกศิษย์

พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ผู้ร้อง นำตัว จ.ส.อ.ธรรณ์ธรรศ อาชีพครูสอนดนตรีไทยโรงเรียนดังในกรุงเทพ ผู้ต้องหาในความผิดเกี่ยวกับเพศ ความผิดต่อเสรีภาพ และลหุโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(17), 287/1 วรรคแรก, 277, 276, 278, 279, 285, 317, 318, 283 ทวิ, 319, 391, 306