'พิธา' บรรยายพิเศษจุฬาฯ ชี้โอกาสของไทยในอาเซียนที่จะเกิดขึ้นในรัฐบาลก้าวไกล

"พิธา" บรรยายพิเศษจุฬาฯ โชว์วิสัยทัศน์พาไทยยืนอย่างมีศักดิ์ศรี พลิกวิกฤตเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจในเวทีโลก ชี้โอกาสทองของไทยที่จะเกิดขึ้นในรัฐบาลก้าวไกล ให้ผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาได้ทำงานถูกกฎหมายเป็นกำลังแรงงานให้นักลงทุนไทย 

12 ก.ย.2566 -นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้รับเชิญให้บรรยายพิเศษ ที่ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในหัวข้อ “ก้าวย่างบนความท้าทาย และโอกาสของไทยต่ออาเซียนและมหาอำนาจ” โดยนายพิธา กล่าวว่า การต่างประเทศจะกลายเป็นนโยบายที่สำคัญหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง หากประชาชนตระหนักว่าปัญหาภัยแล้ง ฝุ่น PM2.5 ไปจนถึงราคาปุ๋ย อาหารสัตว์ พลังงานที่แพงขึ้น ไม่ใช่สิ่งที่รัฐบาลไทยจะแก้ได้หากไม่มีบทบาทในเวทีโลก นโยบายต่างประเทศก็จะกลายเป็นหนึ่งในนโยบายหลักที่พรรคการเมือง รัฐบาล ต้องคิด ต้องให้ความสำคัญ

นายพิธากล่าวว่า การต่างประเทศของไทยในยุคนี้ เผชิญความท้าทายสำคัญ เพราะอยู่ในยุคที่สหรัฐอเมริกา​และจีน แข่งขันกันขยายอำนาจ โดยมีภูมิภาคอาเซียนเป็นสมรภูมิสำคัญ แต่บทบาทของไทยในอาเซียนกลับถดถอย และบทบาทอาเซียนในฐานะพลังต่อรองระดับภูมิภาคก็ถดถอยเช่นกัน ถ้าดูจากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ผู้นำมหาอำนาจ เลือกเดินทางเยือนอินโดนีเซียและเวียดนามบ่อยครั้ง แต่ส่งระดับรองไปร่วมประชุมอาเซียนซัมมิท ซึ่งสะท้อนว่ามหาอำนาจให้ความสำคัญกับภูมิภาคนี้ แต่เลือกดำเนินความสัมพันธ์กับบางประเทศที่ถูกประเมินว่ามีบทบาทสำคัญ มากกว่าสัมพันธ์กับอาเซียนทั้งกลุ่ม

นาย​พิธา​ กล่าวอีกว่า ในสภาพการณ์เช่นนี้ การต่างประเทศไทยในมุมมองของก้าวไกล ต้องตอบ 2 โจทย์ คือ “ป้องกันวิกฤต” และ “เก็บเกี่ยวโอกาส” จากโลกใบใหม่ ความผันผวนและการแข่งขันในเวทีโลก โดยมีหลักปฏิบัติ 3 ประการ คือ 1. การต่างประเทศที่มีกระดูกสันหลัง มีหลักการ ยืนอย่างมีศักดิ์ศรีโดยวางตัวเป็นมหาอำนาจระดับกลาง 2. การต่างประเทศที่ยึดมั่น Rule-Based International Order คือการยึดกติกา ระเบียบระหว่างประเทศ ใช้องค์กรระหว่างประเทศและเวทีนานาชาติในการต่อรองผลประโยชน์อย่างเป็นธรรม ไม่ลุแก่อำนาจหรือใช้วิธีการที่ละเมิดระเบียบโลก 3. การต่างประเทศที่รู้จังหวะ รู้ว่าเมื่อไหร่ควรเงียบ เมื่อไหร่ควรพูด ไม่ใช่ไม่กล้าพูดยืนยันหลักการเพราะเกรงใจมหาอำนาจ

นายพิธา กล่าวเพิ่มเติม​ว่า ทั้งนี้ยกตัวอย่างรูปธรรมของการต่างประเทศไทยที่จะเกิดในรัฐบาลก้าวไกล ภายใต้หลักการ 3 ข้อนี้ ได้แก่ 1. เมียนมา ไทยในฐานะประเทศที่มีพรมแดนติดเมียนมามากที่สุด ต้องทำ Humanitarian-Economic Corridor เพื่อรองรับผู้ลี้ภัยสงคราม โดยเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจของประชาชนทั้งสองประเทศ ผู้ลี้ภัยทำงานได้อย่างถูกกฎหมาย เป็นกำลังแรงงานให้นักลงทุนไทย ในขณะเดียวกันก็ต้องเร่งสร้างเสถียรภาพในเมียนมาเพื่อยุติสงครามกลางเมือง เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง โดยรัฐบาลไทยจะมีบทบาททั้งโดยตรงและผ่านอาเซียน ในการสนับสนุนผลักดันการเจรจาระหว่างกลุ่มการเมืองต่างๆ ในเมียนมา

2. แม่น้ำโขง รัฐบาลไทยจะรวมกลุ่มกับประเทศปลายน้ำให้เข้มแข็งขึ้น เพื่อเจรจาต่อรองกับประเทศต้นน้ำให้มีการใช้ทรัพยากรน้ำในแม่น้ำโขงอย่างเป็นธรรม 3. Inclusive Diplomacy การทูตที่ขยายขอบเขตงานต่างประเทศให้กว้างกว่าการเมืองหรือการเจรจาทางการทูต แต่รวมถึงการมีบทบาทในการใช้ soft power การแสวงหาโอกาสทางเศรษฐกิจการค้า

4. การเจรจาเขตการค้าเสรี ตั้งการส่งเสริมการค้าการลงทุนภายในอาเซียน และการเจรจากับภูมิภาคอื่น โดยวาระสำคัญคือการเจรจาเขตการค้าเสรีไทยยุโรป ซึ่งไทยควรเจรจาต่อรองเพื่อขยายผลประโยชน์ที่คนไทยจะได้รับมากขึ้น โดยเฉพาะสิทธิฟรีวีซ่า

5. การต่างประเทศด้านสิทธิและความมั่นคงของมนุษย์ ใช้เวทีระหว่างประเทศปกป้องสิทธิแรงงานไทย ปัญหากดปราบผู้ลี้ภัยข้ามชาติ แก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 โดยมีกฎหมายอากาศสะอาดและฝุ่นควันข้ามแดนที่ครอบคลุมทั้งอาเซียน (ASEAN Clean Air and Transboundary Haze Act) แก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ สร้างเครือข่ายปราบปรามการค้ามนุษย์ และ online scammers โดยให้สภาความมั่นคงแห่งชาติเข้ามามีบทบาทในการปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์มากขึ้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ก้าวไกล' เปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ. 'พิธา' อ้อนพี่น้องชาวลำพูนเชื่อในประชาธิปไตย

ก้าวไกลจัดสภากาแฟที่ลำพูน แลกเปลี่ยนปัญหาภาคเอกชน 'พิธา' ชี้เศรษฐกิจภาคเหนือมีแรงเฉื่อยลักษณะพิเศษโตช้า

อึ้ง!ปดิพัทธ์บอกยุบ 'ก้าวไกล' แสดงว่าไทยยังไม่เป็นประชาธิปไตยส่งผลสภานานาชาติ

'ปดิพัทธ์' ยอมรับมีชื่อเป็น กก.บห.ก้าวไกล เสี่ยงพ้น สส. หากพรรคถูกยุบจริง แต่เชื่อมั่นว่าการสู้คดีมีน้ำหนัก ไม่เสียดายตำแหน่งรองประธานสภา ชี้งานที่หาเสียงไว้ทำได้หมดแล้ว

'รังสิมันต์-มาริษ'โต้เดือดปมธนาคารไทยมีเอี่ยวช่วยซื้ออาวุธให้รัฐบาลเมียนมา!

'โรม' จี้ถามจุดยืนประเทศ หลังมีแฉธนาคารในไทย เอี่ยวใช้ธุรกรรมการเงินฆ่าชาวเมียนมา ซัด รบ.ต้องชัดเจน ด้าน 'รมว.กต.'โต้ไม่พบหลักฐานธนาคาร-รัฐบาลไทยเข้าไปเอี่ยว รับการคว่ำบาตรเป็นเรื่องยาก

'รอมฎอน' ลุยสังเกตการณ์ไต่สวนคดีตากใบข้องใจท่าที อสส.

'รอมฎอน' ลุยสังเกตการณ์นัดไต่สวนมูลฟ้องคดีตากใบ 19 ก.ค.นี้ รับกังวลหลัง 'อสส.' ขอญาติผู้สูญเสียยุติร้องเรียน ก่อนคดีหมดอายุความ

'ชัยธวัช' ลั่นทุกคนในพรรคนิ่ง ถ้ายุบจริงเราตกผลึกหมดแล้ว ไม่ต้องเตรียมตัวอะไร

นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงความคืบหน้ากรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล ในวันที่ 7 ส.ค.นี้ โดยไม่มีการไต่สวน