ACT ยื่นนายกฯขอทุกหน่วยงานเปิดข้อมูล 'เศรษฐา' ลั่นข้าราชการระดับสูงต้องโชว์ทรัพย์สิน ซื้อขายตำแหน่งต้องหมดไป
06 ก.ย.2566 - สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงานวันต่อต้านคอร์รัปชัน ภายใต้หัวข้อ “ดีเดย์ 6 ก.ย.66 รวมพลังคนไทยต่อต้านคอร์รัปชัน ACT ชู 5 ข้อเรียกร้องต่อ “เศรษฐา ทวีสิน” ซึ่งเป็นเวทีแรกในการกล่าวปาฐกถาของนายเศรษฐาหลังการเข้าถวายสัตย์ฯ โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ร่วมคณะด้วย และมี พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายวิเชียร พงศธร ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน(ประเทศไทย) น.ส.กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร อดีต รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นางกัญจนา ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย รอให้การต้อนรับ
สำหรับ 5 ข้อเรียกร้องของ ACT ประกอบด้วย กำหนดให้การปราบปรามคอร์รัปชันเป็นวาระแห่งชาติ ตั้งคณะกรรมการที่มีตัวแทนทุกภาคส่วนมีนายกฯเป็นประธาน สนับสนุนให้ ป.ป.ช. สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ช.) ทำหน้าที่ได้อย่างอิสระ เร่งรัดการออกกฎหมายต่อต้านคอร์รัปชันที่ค้างคาอยู่ ทุกหน่วยงานต้องพร้อมเปิดข้อมูล นับจาก TOR ไปจนถึงสัญญาต่างๆในรูปแบบที่เชื่อมโยงกับ ACT Ai และ แก้กฎระเบียบราชการต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้เป็นข้ออ้างในการไม่เปิดเผยข้อมูลปัญหาคอร์รัปชัน
โดยนายเศรษฐา กล่าวว่า ยินดีที่ได้มาพูดคุยกับทุกคนในวันต่อต้านคอร์รัปชัน หัวข้อการปราบปรามทุจริตเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาลและเป็นหน้าที่หน่วยงานรัฐต้องสนับสนุนและปฏิบัติตามอย่างไม่มีข้อยกเว้น ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับการรับรู้เรื่องการทุจริตเป็นอันดับ 4 ของอาเซียน ต่ำกว่า สิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม จึงเป็นเรื่องที่เราต้องพัฒนา เพราะประเทศเหล่านั้นเป็นคู่แข่งทางการค้าของเรา เพราะเรื่องการทุจริตทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นแก่นักลงทุนและทำให้เศรษฐกิจถดถอยกระทบจีดีพี ทั้งนี้เพื่อให้ปัญหาทุจริตหมดไป รัฐบาลมีนโยบายนำเทคโนโลยี เข้ามาเพื่อความโปร่งใสตรวจสอบได้ ให้บริการภาครัฐรวดเร็ว มีหลักนิติธรรม ยึดประโยชน์ประชาชนเป็นหัวใจสำคัญ และเราจะเร่งปรับปรุงกฎหมายลูกเพื่ออำนวยความสะดวกการขอใบอนุญาติ ลดการเรียกรับสินบนจากประชาชน ที่สำคัญรัฐบาลยังจะให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมายและลงโทษที่เฉียบขาด ควบคุมเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงในหลายตำแหน่ง ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและต้องเปิดเผยต่อสาธารณชนเพื่อแสดงความโปร่งใสให้ประชาชนตรวจสอบได้ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและสร้างรากฐานให้สังคมเคารพกฎหมายร่วมกันและขจัดคอร์รัปชั่นให้หมดไปจากประเทศ
นายเศรษฐา กล่าวด้วยว่า เราจะนำเทคโนโลยีมาช่วยให้เกิดความโปร่งใสตรวจสอบได้ เช่นการใช้ระบบจ่ายเงินภาครัฐทางอิเล็กทรอนิกส์แทนเงินสด เปิดขอใบอนุญาติผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ปรับปรุงการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐให้ทันสมัยโปร่งใสป้องกันการทุจริต ปรับเปลี่ยนการบริหารให้เป็นรัฐบาลดิจิทัล โดยเน้นความสำคัญการขับเคลื่อนภารกิจราชการ เพราะภาคราชการเป็นภาคส่วนที่มีเกียรติมีศักดิ์ศรี เป็นผู้ปฏิบัตินโยบายของรัฐบาล และเป็นผู้ขับเคลื่อนนโยบาย ฉะนั้นการซื้อขายตำแหน่งการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม เป็นภารกิจที่ตนจะแก้ไขเพื่อให้แน่ใจว่าข้าราชการจะได้รับความเป็นธรรม และได้รับการสนับสนุนเพื่อผลงานที่ดี ฉะนั้นการซื้อขายตำแหน่งในรัฐบาลนี้ต้องหมดไป
ภายหลังปาฐกถาเสร็จสิ้นผู้สื่อข่าวถามว่ามาปาฐกถาวันต่อต้านคอร์รัปชัน ประจำปี 2566 ซึ่งถือเป็นเวทีแรกในตำแหน่งนายกฯตื่นเต้นหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตื่นเต้นตลอด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เอาแล้ว! บิ๊กโจ๊กฟ้อง 'เศรษฐา' เป็นอาญาแผ่นดินปมตั้ง 'บิ๊กต่อ'
'บิ๊กโจ๊ก' ยื่น ป.ป.ช. ฟ้อง 'เศรษฐา' ผิด ม.157 ปมแต่งตั้ง 'บิ๊กต่อ' เป็นผบ.ตร. โดยมิชอบ ระบุไม่ได้ท้ารบ แต่ปกป้องสิทธิ
'เศรษฐา' ชวนคนไทยเชียร์ตัวแทนทีมชาติไทยในโอลิมปิกปารีส 2024
นายกฯ ส่งกำลังใจเชียร์ทัพนักกีฬาตัวแทนประเทศไทยร่วมแข่งขันโอลิมปิก ปารีส 2024 ครั้งที่ 33 วันที่ 26 กรกฎาคม - 11 สิงหาคม 2567 นี้ เชิญชวนคนไทยร่วมเชียร์และรับชมถ่ายทอดสด
เตือนเช่าที่99ปีไทยกึ่งเมืองขึ้น
นายกฯ หวัง "เงินดิจิทัล" ผ่านวาระ 3 กระตุ้นเศรษฐกิจไตรมาส 4
โพลยกพิธาเหนือนิด ซัดกกต.2มาตรฐาน
"เศรษฐา" ร่ายผลงานทัวร์อีสาน 4 จังหวัด โปรยยาหอมเรื่องน้ำ-สินค้าเกษตร
แม้วสั่งอิ๊งค์เกาะกระแส‘ลิซ่า’
“เศรษฐา” เปิดงานโชว์ศักยภาพซอฟต์พาวเวอร์ “แพทองธาร”
นายกฯ ควบคุมทิศทางอุตสาหกรรม MICE ฟุ้ง สร้างรายได้กว่า 2 แสนล้าน
นายกฯ ควบคุมทิศทางอุตสาหกรรม MICE เชื่อมั่นเติบโตต่อเนื่อง พร้อมเตรียมแผนจัดงาน-กิจกรรมตลอดไตรมาส 4 ของปีงบประมาณ 2567 กระตุ้นตลาด MICE ไทย คาดการณ์เเนวโน้มปีงบประมาณ 2568 สร้างรายได้กว่า 2 แสนล้านบาท