'มายด์ ภัสราวลี' เฮ! ศาลยกฟ้องฝ่าพรก.ฉุกเฉิน คดีชุมนุม 21 ตุลา

ศาลยกฟ้อง ‘มายด์ ภัสราวลี’ รอดผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ชุมนุมม็อบ 21 ตุลา บุกทำเนียบฯ ยื่นหนังสือไล่ลุงตู่ เชื่อเป็นบรรทัดฐานคดีอื่นของม็อบ 3 นิ้ว

13 ธ.ค. 2564 – ที่ศาลแขวงดุสิต ถนนนครไชยศรี เมื่อเวลา 09.00 น. ศาลได้อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการคดีแขวงดุสิตเป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 ม.เทคโนโลยีมหานคร แกนนำกลุ่มมหานครเพื่อประชาธิปไตย และ สมาชิกคณะประชาชนปลดแอก เป็นจำเลย ในความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 ประกอบมาตรา 11 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ.2548 รวมทั้งประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ลงวันที่ 15 ต.ค. 2563 เรื่องห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุม (ข้อ 1 ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรงฯ)

จากกรณีเมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2563 จำเลยได้เข้าร่วมการชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออกจากการบริหารประเทศ

โดยวันนี้ น.ส.ภัสราวลี ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาที่ พร้อมให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าห้องพิจารณาว่า ระหว่างการนำสืบตนได้ยืนยันในหลักการของประชาชนที่เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก เพราะประชาชนทนไม่ไหวซึ่งเป็นสิทธิของประชาชนที่ทำได้ ส่วนศาลจะพิจารณาอย่างไรและผลจะออกมาเป็นอย่างไร อยากให้รอติดตามเพราะคดีนี้เป็นคดีแรกที่มีการพิพากษาในส่วนของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรงฯ และคาดว่าจะส่งผลต่อคดีอื่น ๆ ของเพื่อนด้วย คาดว่าผลการตัดสินสามารถออกได้หลายรูปแบบทั้งในมุมของการได้รับความยุติธรรมและมุมเกมการเมือง เพราะคดีนี้เป็นคดีทางการเมืองที่ไม่ควรถูกดำเนินคดีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

ภายหลังฟังคำพิพากษา น.ส.ภัสราวลี เปิดเผยว่า ศาลได้มีคำพิพากษายกฟ้องตน เนื่องจากศาลเห็นว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรงฯ ที่มีการประกาศออกมาจะถูกใช้ก็ต่อเมื่อสถานการณ์นั้นฉุกเฉินและร้ายแรงจริง ๆ ถึงจะบังคับใช้ได้ และการชุมนุมของประชาชนที่เกิดขึ้นในวันนั้น ก็ไม่เข้าข่ายการชุมนุมมั่วสุม เพราะการมั่วสุมต้องเป็นการรวมตัวกันและมีเจตนาที่ไม่ดี การชุมนุมวันนั้นเป็นการชุมนุมที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 44 เป็นการชุมนุมโดยสงบเป็นสิทธิที่ประชาชนสามารถทำได้

“มั่นใจว่าคดีนี้จะเป็นบรรทัดฐานส่วนหนึ่งในการตัดสินคดีอีกหลายคดีที่เกี่ยวกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพราะการชุมนุมของประชาชนเป็นการใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญและสามารถพึงกระทำได้ เชื่อว่าคำพิพากษาส่งท้ายปีในครั้งนี้จะเป็นการเติมกำลังใจให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิของตัวเอง เพราะหลังจากนี้ประชาชนจะมาทวงคืนอำนาจของประชาชนเอง” น.ส.ภัสราวลี กล่าวสรุป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน (TLHR) ระบุว่า คดีที่สืบเนื่องจากการชุมนุม#21ตุลาไปอนุสาวรีย์ชัย มีผู้ต้องหารวมทั้งสิ้น 14 คน อาทิ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด, นายกรกช แสงเย็นพันธ์หรือปอ, น.ส.สุวรรณา ตาลเหล็ก หรือลูกตาล, นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้, นายชาติชาย แกดำ หรือ บอย, นายไพศาล จันปาน รวมถึงนพ.ทศพร เสรีรักษ์ ซึ่งพนักงานอัยการได้ทยอยสั่งฟ้องและแยกสำนวนออกเป็นหลายคดี สำหรับคดีนี้เป็นคดีแรกที่มีคำพิพากษาตัดสินออกมา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เครือข่ายกัญชา' ประกาศเลิกม็อบหน้าทำเนียบฯแล้ว

ความคืบหน้าเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ที่นำโดยนายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายฯ ที่ได้มาปักหลักชุมนุมอยู่บริเวณเชิงสะ

คปท.ลุ้นศาลคุ้มครองชั่วคราว เล็งหาที่ชุมนุมใหม่เอาแม้วเข้าคุก

ผู้สื่อข่าวรายงานจากบริเวณ เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ​ บริเวณใกล้ทำเนียบรัฐบาล ถึงความเคลื่อนไหว การชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) และ กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้อง

คุกอ่วม 51 ปี! 'โทนี่' หนุ่มลูกครึ่ง ละเมิดลูกสาวตัวเอง ถ่ายคลิปลงดาร์กเว็บ

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลได้อ่านคำพิพากษา คดีละเมิดทางเพศผู้สืบสันดาน หมายดำที่ อ 1111/2567 หมายเลขแดงที่ อ2173/2567ที่พนักงานอัยการคดีอาญา เป็นโจทก์ฟ้องนายโทนี่ (ขอสงวนนามสกุล)หนุ่มสัญชาติไทย -เยอรมัน เป็นจำเลยในความผิดฐานกระทำชำเราเด็กอายุต่ำกว่า 13 ที่เป็นผู้สืบสันดาน อนาจารเด็กต่ำกว่า 13 ปี