25 ส.ค. 2566 – นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า รัฐบาลเศรษฐา 1
1.รัฐบาลเศรษฐา 1 ตั้งขึ้นแล้ว เป็นการจัดตั้งในท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้ง ชนิดที่ซับซ้อนรุนแรง มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาติ
แกนแห่งอำนาจรัฐ มาอยู่ที่เพื่อไทยแล้ว และจะเพิ่มดุลอำนาจมากขึ้นโดยลำดับ
โดยมีพลเอกประยุทธ์เป็นหุ้นส่วนอำนาจที่สำคัญ มีภูมิใจไทยและพลังประชารัฐ เป็นฐานกำลังที่วางใจได้ โดยก้าวไกลและประชาธิปัตย์ เป็นฝ่ายค้าน
นี่คือรัฐบาลสูตรที่ 3 ที่ได้ประมาณสถานการณ์ไว้ตั้งแต่ต้น
2.การพบปะที่ประหนึ่งเป็นการมอบหมายอำนาจหน้าที่ ระหว่างนายกฯ ประยุทธ์ กับนายกฯ เศรษฐา เมื่อวันวานนี้ เรื่องสำคัญที่สุดคือ การฝากฝังเรื่องก้าวข้ามความขัดแย้ง เดินหน้าประเทศไทย
ที่ไม่เป็นข่าวคือ #สามัคคีภายในรับศึกใหญ่ภายนอก
นี่คือภารกิจที่สำคัญที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุด และเป็นจุดชี้ขาดการดำรงรักษาและการเดินหน้าอำนาจรัฐบาลเศรษฐา
เมื่อครั้งมีอำนาจเต็ม พลเอกประยุทธ์ ไม่รับข้อเสนอเรื่องนี้ ของพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะยามเป็นนายกรัฐมนตรี ย่อมไม่ปรารถนาให้ความคิดของคนอื่นมาชี้นำ
แต่นี่ก็เป็นจุดอ่อนที่สุดของพลเอกประยุทธ์เช่นเดียวกัน
ทว่า ในวาระสำคัญที่สุดที่ประหนึ่งการส่งมอบหน้าที่ และการฝากฝังราชการสำคัญของบ้านเมืองที่พลเอกประยุทธ์ รับภาระอันแสนหนักมาถึง 9 ปีเต็ม ก็ปรากฎว่าเรื่องนี้ก็คือเรื่องสำคัญที่สุด
และเรื่องนี้จะเป็นจุดชี้ขาดอำนาจรัฐ รัฐบาลเศรษฐา 1 ด้วย
2.สถานการณ์และภาระหน้าที่ของรัฐบาลเศรษฐา 1
-การพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งเอกราช อธิปไตย ความมั่นคงปลอดภัยของชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์
-การก้าวข้ามความขัดแย้ง เดินหน้าประเทศไทย สามัคคีภายใน รับศึกใหญ่ภายนอก โดยต้องไม่เป็นศัตรูกับชาติใด และต้องเป็นมิตรกับประเทศต่างๆ บนพื้นฐานความเสมอภาคการไม่แทรกแซงกิจการภายในของกันและกัน และผลประโยชน์ร่วมกัน
-การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ในชาติ คืนความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย ยุติความขัดแย้ง 20 ปี ระดมพลังทุกฝ่ายเข้ามากอบกู้ฟื้นฟูชาติบ้านเมือง เป็นความเร่งด่วนที่สุด
-การฟื้นฟูเศรษฐกิจของชาติ และภาคผู้ประกอบการธุรกิจ รวมทั้งประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งเรื่องนี้ด้วยประสบการณ์ และบทเรียนอันอุดมสมบูรณ์ ของนายทักษินและคณะ ย่อมไม่เป็นปัญหาสำหรับเพื่อไทยและรัฐบาลเศรษฐา 1 ในการนำพาประเทศและประชาชนให้ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
นี่คือ สถานการณ์ที่กำหนดภาระหน้าที่ของรัฐบาลเศรษฐา 1 ที่จะชี้ขาดอนาคตของทั้งพรรคเพื่อไทย และรัฐบาลเศรษฐา 1 และเป็นเรื่องที่ไม่ว่าใครจะเห็นด้วยหรือไม่ มันก็เป็นเช่นนั้นเอง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เอ็มโอยู44-เอื้อนายทุน จุดจบรัฐบาลไม่ครบเทอม
หากอ้างอิงข้อมูลจากนิด้าโพลเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา หัวข้อ รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์ อยู่ครบเทอมหรือไม่ โดยประชาชนมากกว่า 57.71% มองว่าอยู่ไม่ครบเทอม ประกอบด้วยสัดส่วนร้อยละ
อดีตคนธปท.ต้านแทรกแซง
แรงต้านแทรกแซงแบงก์ชาติขยายวง อดีตพนักงาน ธปท.อีก 416 คน ร่วมลงชื่อจดหมายเปิดผนึก ยกจรรยาบรรณประธานบอร์ดห้ามเอี่ยวการเมือง เรียกร้องคณะกรรมการสรรหาฯ
อดีตพนักงาน ธปท. ร่อนจดหมายต้านการเมืองแทรกแซงตั้งบอร์ดและประธานแบงก์ชาติ
จดหมายเปิดผนึกจากอดีตพนักงาน ธนาคารแห่งประเทศไทย จรรยาบรรณที่พึงมีสำหรับตำแหน่งประธานและกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย
'กกร.เชียงใหม่' จ่อชง 'ครม.สัญจร' เยียวยาผู้ประกอบการน้ำท่วม
นายอาคม สุวรรณกันทา ประธานสมาพันธ์ SMEs ไทย จังหวัดเชียงใหม่ และรองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า มาหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นกับเชียงใหม่ปีนี้
'นายกฯอิ๊งค์' ยกนิ้วโป้ง! หายป่วย ลงพื้นที่ร้อยเอ็ด
’นายกฯอิ๊งค์‘ นำคณะลงพื้นที่ร้อยเอ็ด แม้เสียงยังแหบ ยกนิ้วโป้งอาการดีขึ้น เปิดตารางงาน ลุยปัญหายาเสพติด พร้อมพบปะชาวบ้าน ก่อนกลับ กทม. ช่วงเย็น
สอน 'เพื่อไทย' หัดเอาอย่าง 'อภิสิทธิ์' นักการเมืองรักษาสัจวาจา
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เพื่อไทย ไม่นิรโทษ มาตรา 112 ไม่แคร์มวลชน แต่แคร์พรรคร่วม