'จตุพร' อัดไม่แปลกใจผลโหวต 'เศรษฐา' เป็นนายกฯ เชื่อมาจากเสียงสมยอมของกลุ่มรัฐประหาร 2557 ส่วน ปชช.ถูกหลอกต้มให้ต่อสู้ แต่ต้องเสียรู้เพื่อไทยการละคร มี คสช.ร่วมแสดงตบตาผ่องถ่ายอำนาจต่อเนื่องในปี 2566
24 ส.ค.2566 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ได้เผยแพร่เนื้อหาของการจัดรายการประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน "น่ายินดี?" เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2566 โดยระบุว่า สว. โหวตนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนมากมาจากกลุ่มทหารเกี่ยวข้องกับการยึดอำนาจปี 2557 ดังนั้น ปฎิบัติการโหวตเห็นชอบ จึงเป็นใบเสร็จยืนยันการสมรู้ร่วมผ่องถ่ายอำนาจให้กันและกันระหว่างพรรคเพื่อไทย นายทักษิณ ชินวัตร และการรัฐประหาร (รปห.)
นายจตุพร กล่าวว่า การโหวตนายเศรษฐา เป็นนายกฯ เมื่อ 22 ส.ค. เสียงโหวตได้แสดงถึงคณะ รปห. เมื่อ 2557 ล้วนโหวตให้นายเศรษฐาทั้งสิ้น รวมทั้งทหารเครือข่าย และน้องชายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาด้วย โดยมีเพียง พล.อ.ประยุทธ์ คนเดียวไม่ได้โหวต ดังนั้น สิ่งที่เห็นในการโหวตนายกฯ เป็นยิ่งกว่าใบเสร็จการสมคบคิดกัน นับตั้งแต่การรู้เห็นเป็นใจต่อกันและกันอย่างสมบูรณ์ที่สุดมาตั้งแต่ช่วงยึดอำนาจปี 2557 แล้วมาคืนอำนาจกลับให้กันในปี 2566
“ผมไม่รู้สึกดีใจหรือเสียใจกับรัฐบาลนี้เลย และคนที่เข้ามาใหม่ก็ไม่มีความหวังใดทั้งสิ้นกับประเทศ เพราะประเทศนี้ควรทำอะไรที่ถูกทำนองคลองธรรมกันเสียบ้าง และนี่การตั้งรัฐบาลที่คนไทยเสียรู้อย่างเบ็ดเสร็จมากที่สุด”
นายจตุพร กล่าวว่า หากย้อนไปพิจารณารายชื่อ สว.ที่โหวตให้นายเศรษฐาแล้ว ในจำนวน 152 คน ล้วนเป็นคณะ รปห.และเกี่ยวข้องกับการยึดอำนาจจากรัฐบาลเพื่อไทยเมื่อปี 2557 ดังนั้น ประชาชนไปต่อสู้ให้เหนื่อยยากกันทำไม เมื่ออำนาจเป็นสมบัติผลัดกันชมและแบ่งภารกิจต่อเนื่องกันมาเรื่อยๆ เช่นนี้
“ไม่ว่าพรรคการเมือง คณะ คสช. รัฐประหาร ต่างเล่นละครตบตาประชาชนกันทุกฝ่าย แล้วประชาชนต่อสู้ไปบาดเจ็บล้มตายกันหาอะไรกัน ถ้าประชาชนไม่รู้สึกว่า ถูกหลอก ถูกต้ม และไม่แสดงความรู้สึกใดๆ แล้วปล่อยให้บ้านเมืองอยู่ในสภาพอย่างนี้ เราคงหาความหวังใดๆ กันไม่ได้ อีกทั้ง เชื่อว่า เมื่อทุกอย่างมีการตรวจสอบเข้มข้น ก็จะปรากฎความจริงกันตามลำดับขึ้น”
นายจตุพร กล่าวว่า การเป็นนายกฯ ของนายเศรษฐา ไม่ได้อิจฉาอะไรเลย เพราะการตระบัดสัตย์ได้เป็นนายกฯ ไม่มีอะไรต้องอิจฉาทั้งสิ้น แต่ยิ่งเพิ่มให้ประชาชนสงสัย แล้วเรียกร้องให้ตรวจสอบเข้มข้นยิ่งขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
2 ตุลาการศาลรธน.เสียงข้างน้อย รับคำร้อง 'ทักษิณ' สั่งรัฐบาลเอื้อประโยชน์ฮุนเซน น่าจะเกิดผลใช้สิทธิล้มล้างปกครองฯ
จากกรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 10 ต.ค.2567 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูก
'แก้วสรร' แนะ 'ธีรยุทธ' ปรับยุทธวิธี เสริมความแกร่งของสำนวนมุ่งไปที่ กกต.-ปปช.
หลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย กรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ
แก้วสรร : ประเมินคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ
แก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง "ประเมินคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ" โดยมีเนื้อหาดังนี้
ศาลรธน.ยกคำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง เอกฉันท์ 5 ประเด็นเว้นประเด็น 2
จากกรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย
รองเลขาฯเพื่อไทย ฟาดกลับ 'ไอซ์ รักชนก' แซะแจกเงินหมื่นช่วงเลือกตั้งนายก อบจ.
น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่าน X ว่า ใจเย็นๆ นิดนะคะ รัฐบาลตั้งใจส่งเงินหมื่นกระตุ้นเศรษฐกิจ ถึงมือกลุ่มเป้าหมายให้เร็วที่สุด
ระทึกสุดขีด! 22 พ.ย. ศาลรธน.ลงมติ 'รับ-ไม่รับ' คำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง
คอนเฟิร์ม ศุกร์นี้ 22 พ.ย. 9 ตุลาการศาลรธน.นัดประชุมวาระพิเศษ หลังงดมาสองรอบ เตรียมนำหนังสือ-ความเห็นอัยการสูงสุด กางบนโต๊ะประชุม ก่อนลุ้นโหวตลงมติ”รับ-ไม่รับคำร้อง”คดีทักษิณ-เพื่อไทย โดนร้องล้มล้างการปกครองฯ