'ดร.ศุภณัฐ' เปิดใจสุดผิดหวัง 'ลุงตู่'

'ดร.นิว' เปิดใจเรื่องลุงตู่ ยก 6 เหตุผลก่อนยอมรับผิดหวังมาก ทั้งๆ ที่เตือนภัยการใช้โซเชียลมีเดีย แต่กลับไม่สนใจ ชี้รัฐประหาร 22 พ.ค.เสียของที่สุด ปล่อยให้ลัทธิซอกหลืบรั้วมหาลัยเติบโตจนเป็นมหันตภัยแห่งราชอาณาจักร

23 ส.ค.2566 - ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์เฟซบุ๊กพร้อมรูป พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่านานๆ ที ขอเปิดใจสักครั้ง ครั้งนี้ประเด็นลุงตู่ครับ

ประการแรก การที่ผมเคยปกป้องลุงตู่ในอดีต ล้วนแต่มีสาเหตุมาจากการที่ม็อบสามนิ้วบิดเบือนโจมตีลุงตู่ เพื่อหวังปลุกระดมสร้างสถานการณ์ให้กระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของส่วนรวมทั้งสิ้น ผมไม่ได้มีความมุ่งหมายที่จะปกป้องลุงตู่โดยตรงในเชิงส่วนตัวแต่อย่างใด หรือบางครั้งก็มีความจำเป็นต้องปกป้องลุงตู่ เพื่อนำเสนอหลักวิชาการเมืองการปกครองที่ถูกต้อง ดังนั้น ชัดเจนนะครับว่าผมไม่ใช่และไม่เคยเป็นติ่งลุงตู่แต่อย่างใด หากแต่เป็นเรื่องของส่วนรวมที่มาก่อนเรื่องของตัวบุคคลเสมอ

ประการที่สอง ตัวตนของผมจริงๆ ผมไม่เคยพอใจลุงตู่เลย และไม่เคยให้อภัยลุงตู่ที่ปล่อยให้ลัทธิซอกหลืบจากรั้วมหาลัยเติบโตมาได้จนถึงทุกวันนี้ แถมยังสามารถช่วงชิงอำนาจรัฐในมือของลุงตู่ไปได้เสียอีก ทั้งๆ ที่หากลุงตู่สามารถจัดการปัญหาได้ตรงจุดตั้งแต่แรก สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยก็คงไม่ถูกบิดเบือนให้ร้ายจนกลายเป็นวิกฤตศรัทธาชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแบบนี้ แม้ปัจจุบันลุงตู่ใกล้จะวางมือเต็มที แต่ขณะเดียวกันก็กำลังจะทิ้งวิกฤตปัญหาสำคัญนี้เอาไว้ให้เป็นภาระของประชาชน ที่ยังคงต้องออกมาช่วยกันปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยต่อไป โดยที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่วิกฤตปัญหานี้จะคลี่คลายและจบลงเสียที

ประการที่สาม ผมเคยโพสต์เตือนลุงตู่มาโดยตลอดตั้งแต่ปี 2562 ชี้ให้เห็นถึงภัยของการใช้โซเชียลมีเดียเป็นอาวุธชี้นำทางความคิดแทรกแซงความมั่นคง (The Weaponization of Social Media) พร้อมทั้งเสนอให้ #สร้างอธิปไตยไซเบอร์ มีครั้งหนึ่งผมเคยเขียนกระทุ้งลุงตู่แบบแรงๆ ว่าเป็นทหารแท้ๆ แต่กลับไม่มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงได้ ปรากฏว่ามีนายตำรวจใหญ่ท่านหนึ่งซึ่งตอนนี้เกษียณอายุราชการไปแล้ว พยายามติดต่อมาขอให้ผมลบโพสต์ดังกล่าว แต่ผมก็ไม่ลบ เพราะผมไม่ได้ทำอะไรผิด ผมเป็นประชาชนคนหนึ่งที่มีศักดิ์ศรีและอุดมการณ์ของตัวเอง ผมไม่ใช่ไอโอของลุงตู่ และไม่เคยมีผลประโยชน์ใดๆ กับลุงตู่โดยสิ้นเชิง ผมจึงสามารถวิจารณ์ได้เต็มที่โดยที่ไม่เคยต้องเกรงกลัวหรือเกรงใจใดๆ ทั้งสิ้น

ประการที่สี่ ผมเคยเจอลุงตู่โดยบังเอิญและมีโอกาสได้พูดคุยกันสั้นๆ ลุงตู่ขอบคุณในสิ่งที่ผมทำเพื่อส่วนรวม และผมเองก็ให้กำลังใจลุงตู่เช่นกัน ก็นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่าประทับใจ ท่านให้เกียรติผม ผมให้เกียรติท่าน แล้วโดยปกติผมก็ไม่ได้ยุ่งกับการเมืองทุกเรื่อง เน้นเฉพาะที่เกี่ยวกับความมั่นคง ต่อต้านภัยความมั่นคงเป็นหลัก แต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2566 ผมได้ตัดสินใจออกหน้าเชียร์ลุงตู่ในการเลือกตั้ง เพราะลุงตู่เองก็มีผลงานไม่น้อย และมันคือน้ำใจที่อยากจะมอบให้ลุงตู่อีกสักครั้ง ผมจึงเชียร์ลุงตู่แบบเฉพาะกิจ ดังนั้น ขอให้ทราบโดยทั่วกันว่าผมไม่ได้เชียร์พรรคการเมืองใดเลย อย่าเข้าใจผิด อย่าคิดกันไปเอง ปัจจุบันนี้ผมก็ยังไม่รู้สึกว่ามีพรรคการเมืองใดที่เป็นความหวังได้จริงๆ

ประการที่ห้า สำหรับความคิดเห็นส่วนตัว ผมผิดหวังกับลุงตู่มาก ทั้งๆ ที่ผมคอยเตือนลุงตู่เกี่ยวกับภัยของการใช้โซเชียลมีเดียเป็นอาวุธชี้นำทางความคิดแทรกแซงความมั่นคงมาโดยตลอด แต่ลุงตู่ก็มิได้นำพา จนสุดท้ายลุงตู่เองก็อวสานเพราะไม่ได้ทำในสิ่งที่ผมเตือน และกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันที่ 22 สิงหาคม 2566 สุดท้ายกลับกลายเป็นว่ารัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 เป็นการรัฐประหารที่เสียของที่สุด ไม่ได้สร้างประชาธิปไตย ไม่ได้แก้ไขวิกฤตปัญหาชาติ ไม่ได้แก้ไขภัยความมั่นคง แถมยังปล่อยให้ลัทธิซอกหลืบจากรั้วมหาลัยเติบโตจนกลายเป็นมหันตภัยแห่งราชอาณาจักร ชนิดที่ลุงตู่ไม่มีปัญญาที่จะแก้ไขได้จริงๆ แถมกำลังจะทิ้งวิกฤตปัญหานี้ให้เป็นภาระของสถาบันพระมหากษัตริย์กับประชาชนต่อไปอีกด้วย

ประการสุดท้าย หากท่านผู้อ่านเป็นติ่งลุงตู่และอ่านแล้วรู้สึกไม่พอใจ อยากจะด่าผมขึ้นมา ก็อยากให้ลองคิดทบทวนถึงอดีตที่ผมเคยออกหน้าปกป้องลุงตู่หลายครั้งต่อหลายหน อีกทั้งยังเป็นการปกป้องเพื่อส่วนรวมด้วยจิตใจและอุดมการณ์อันบริสุทธิ์ โดยที่ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆ ตอบแทน หรือมีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับลุงตู่เลยแม้แต่นิดเดียว มิหนำซ้ำยังมีประสิทธิภาพมากกว่าบรรดาไอโอที่ปกป้องลุงตู่เสียอีก แถมสุดท้ายยังต้องกลายเป็นนเป้าหมายในการโจมตีด่าทอของม็อบสามนิ้วไปโดยปริยาย ไม่ได้อะไรนอกจากการถูกด่าแบบสาดเสียเทเสียสารพัด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดร.นิว ชำแหละพฤติกรรมครอบงำ จุดเริ่มต้นแทรกแซงทหาร ไปสู่ ‘ฮุนเซนโมเดล’

ที่น่ากลัวที่สุด การแทรกแซงทหารจากฝ่ายการเมืองอาจเป็นบันไดสำคัญไปสู่การครอบงำสถาบันสูงสุดตามแผนการฮุนเซนโมเดล

เฉ่งพรรคเซาะกร่อนบ่อนทำลาย ห้วงวิกฤตของปชช.แต่จัดสัมมนาผลักดัน Sex Tourism

ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า