'ดร.เสรี' วอนหยุดด้อยค่าพรรคร่วมรัฐบาล ปรับตัวหน่อยเถอะ เพื่อประเทศชาติ

22 ส.ค.2566- ดร.เสรี วงษ์มณฑา พิธีกรรายการทีวีชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊กว่า เช้าวันนี้เปิดดูข่าวทางโทรทัศน์ ทำให้เห็นว่าข้อความว่า “สองคนยลตามช่อง มองต่างกัน” มันเป็นสัจธรรมอย่างแน่นอน

คนเรามีกรอบความคิดและมุมมองในการประเมินว่าใครเป็นคนดีหรือคนไม่ดีไม่เหมือนกันจริงๆ จึงทำให้เรามองใครเป็นคนดีต่างกัน

การคิดต่าง มองต่าง ประเมินต่าง เป็นธรรมชาติของความเป็นมนุษย์ที่มีภูมิหลังการเลี้ยงดู การศึกษาที่ต่างกัน
แต่ความแตกต่าง ไม่ควรทำให้เราแตกแยก แต่ที่ผ่านมาเกือบ 2 ทศวรรษ คนไทยที่มีมองคนๆหนึ่งว่าเป็นคนดีหรือคนไม่ดี มีความแตกแยก

เป็นเพราะอะไร ทำไมการคิดต่างของพวกเราจึงก่อให้เกิดความแตกแยก ทั้งด่ากัน ทำร้ายกัน บ้านเมืองวุ่นวาย
หรือมันมีเรื่อง “ผลประโยชน์” ที่ทำให้พวกเราจึงคิดต่าง และเกิดความแตกแยก

บางคนเอาผลประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้ง แต่บางคนเอาผลประโยชน์ส่วนตนเป็นที่ตั้ง

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดความแตกแยกกันมา 2 ทศวรรษแล้ว และตอนนี้ก็หวั่นไหวว่าเหตุการณ์วันนี้จะนำไปสู่ความปรองดอง หรือความแตกแยก

เห็นภาพในข่าวแล้ว บอกตรงๆ เป็นห่วงจังเลยค่ะ

เมื่อไหร่จะพูดจาอย่างสร้างสรรค์

เมื่อไหร่จะหยุดด้อยค่าพรรคที่มาร่วมตั้งรัฐบาล

เมื่อไหร่จะเลิกพูดประชาชนยากลำบากมา 8-9 ปี

เมื่อไหร่จะหยุดสร้างวาทกรรมเอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่น

เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อพรรครัฐบาลปัจจุบันหน่อยเถอะ เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันได้สนิทใจ ไม่ตะขิดตะขวงใจ

ปรับตัวหน่อยเถอะ เพื่อประเทศชาตินะคะ

พวกเขาโกหกครั้งแล้วครั้งเล่า กี่ครั้ง กี่เรื่องแล้ว

เขาบิดเบือนความจริงกี่เรื่องแล้ว

เขาปล่อย fake news กี่เรื่องแล้ว

เขาพูดแบบไม่รู้จริงมากี่เรื่องแล้ว

เขาวิเคราะห์ด้วยตรรกะที่บิดเบี้ยวกี่เรื่องแล้ว

เขาบิดเบือนประวัติศาสตร์กี่เรื่องแล้ว

เขาหลอกประชาชนให้คนหลงใหลว่าเขาเก่ง เขาดีกี่เรื่อง

เขาสร้างวาทกรรมด้อยค่าคนอื่นกี่เรื่องแล้ว

ที่น่าแปลกใจว่าทำไมยังมีคนหลงรัก หลงใหล หลงเชื่อพวกเขา ทำไมถึงยอมให้เขาครอบงำด้วยข่าวสารที่ไม่เป็นความจริง

เมื่อไหร่จะตาสว่างกันเสียที พ่อแม่ช่วยให้ความจริงกับลูก เพื่อดึงลูกออกมาจากการเชื่อและหลงใหลคนพวกนี้หน่อยเถอะนะ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อริยสัจ 4...หลักการดีที่ควรใช้

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีผู้คนนับถือศาสนาพุทธมากกว่า 92% และในคำสอนของศาสนาพุธก็มีอริยสัจ 4 เป็นหลักที่ใช้ในการแก้ปัญหาที่ยุ่งเหยิงไปสู่ความสงบ

พรรคร่วมรัฐบาลขอเขย่า ไม่ตกเป็น'หมูในอวย'พท.

แม้ว่าพรรคร่วมรัฐบาล นำโดยพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ฯลฯ จะยอมผ่านเรือธงของพรรคเพื่อไทย โครงการดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน 1 หมื่นบาทให้แก่ประชาชนจำนวน 50 ล้านคน

'ศิริกัญญา' บอกรัฐบาลคอพาดเขียงเพิ่มงบ 1.22 แสนล้านส่อผิดกฎหมายอื้อ

'ศิริกัญญา' ชี้ดิจิทัลวอลเล็ต เสี่ยงขัดกฎหมายหลายมาตรา ท้าใช้เสียงข้างมากในสภาแก้ กม. ก่อนแล้วค่อยทำโครงการ ซัด ครม.-นายกฯคาดพาดเขียง กระตุกสติพรรคร่วมอาจกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด

หรือจะรอให้ประเทศไทยเป็นรัฐล้มเหลว

สถานการณ์บ้านเมืองของไทยเรามีอาการน่าเป็นห่วง เพราะคนรักชาติที่มีอยู่มากกว่าคนชังชาติทำอะไรไม่ได้ กลายเป็นคนหมู่มากที่นิ่งเฉย (Passive Majority) ทำได้อย่างมากก็คือ