ประธานญาติวีรชนหนุนการจัดตั้งรัฐบาลสลายขั้ว

“อดุลย์”หนุนการจัดตั้งรัฐบาล สลายขั้วสร้างความสามัคคีปรองดอง วอนพวกสุดโต่งทั้ง 2 ฝ่ายรู้จักปล่อยวาง ยอมรับความจริง ชี้การจัดตั้งรัฐบาลกลัดกระดุมเม็ดแรกผิดและตั้งโจทย์ผิดตั้งแต่แรก ย้ำต้องมีรัฐบาลช่วยชาติโดยเร็ว เพื่อเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ทุกฝ่ายต้องได้ประโยชน์ ประเทศชาติจึงจะเดินหน้าไปได้

20 ส.ค. 2566 – นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 และอดีตคณะกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลด้วยการสลายขั้วความขัดแย้ง ว่า เป็นแนวทางที่สอดคล้องกับข้อเสนอของคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35มาโดยตลอด เพราะความขัดแย้งทางการเมืองเกือบ2ทศวรรษที่ผ่านมา มีการแบ่งกลุ่ม แบ่งสี ผลัดกันขึ้นมีอำนาจมาหลายรอบแต่ความขัดแย้งก็ยังไม่ยุติ ปัจจุบันยังลุกลามไปถึงเด็กเยาวชนและสถาบันหลักของชาติ หากไม่หาทางยับยั้งจะเป็นภัยอันใหญ่หลวงต่อประเทศชาติ

ทั้งนี้คณะกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง ได้เสนอแนะทางการสร้างความปรองดองต่อรัฐบาลประยุทธ์ ตั้งแต่ปลายปี58 แต่รัฐบาลไม่นำพา บัดนี้คงได้บทเรียนแล้วว่าหากไม่สร้างความสามัคคีปรองดอง บ้านเมืองเดินต่อไปไม่ได้ จึงขอสนับสนุนแนวทางพรรคเพื่อไทยที่พยายามสลายขั้วในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่จะมีแรงเสียดทานทางการเมืองเช่นเดียวกับการแก้ปัญหาความขัดแย้งในประเทศอื่นๆทั่วโลก ก็จะมีพวกสุดโต่งทั้ง2ขั้วที่ไม่ยอมรับ ประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน จึงขอวิงวอนพวกสุดโต่งทั้ง2ฝ่าย รู้จักปล่อยวางบ้าง เพราะในความเป็นจริงทุกฝ่ายก็มีส่วนผิดและถูกด้วยกันทั้งนั้น หากสู้กันต่อไป ก็ไม่มีใครชนะ แม้จะชนะก็ปกครองไม่ได้ ครอบครัวญาติวีรชนฯก็ผ่านความเจ็บปวดมาไม่น้อย เมื่อได้ให้อภัย อโหสิกรรม พล.อ.สุจินดา คราประยูร บ้านเมืองก็มีสันติสุขเรื่อยมา ดังนั้นหากทุกฝ่ายร่วมกันสร้างความสามัคคีปรองดองครั้งนี้สำเร็จ จะเป็นคุณูปการต่อการเมืองไทยในระยะยาว

นายอดุลย์ กล่าวว่า สำหรับการจัดตั้งรัฐบาลที่เยื้อมานานเนื่องจาก ”กลัดกระดุมเม็ดแรกผิด” ตั้งแต่แรกโดยให้พรรคการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งอันดับหนึ่งกับพรรคที่ได้เสียงอันดับสองซึ่งเสียงใกล้เคียงกัน ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งตามหลักสากลแล้วไม่มีประเทศไหนเขาทำแบบนี้ เมื่อให้พรรคอันดับหนึ่งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแล้ว พรรคที่ได้อันดับสองจะต้องไปเป็นฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล มิเช่นนั้นหาก2พรรคใหญ่ร่วมรัฐบาลด้วยกัน ฝ่ายค้านก็จะอ่อนแอ และหากพรรคใดพรรคหนึ่งถอนตัว รัฐบาลก็ล้มคว่ำทันที นอกจากนี้ยัง”ตั้งโจทย์ผิด”ตั้งแต่แรกด้วย ที่ยัง”แบ่งขั้วทางการเมือง” เพราะจะทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียประโยชน์ ความขัดแย้งทางการเมืองก็จะไม่มีทางยุติได้ ซึ่งทุกฝ่ายจะต้องได้ประโยชน์จึงถูกต้อง เพราะเมื่อแบ่งผลประโยชน์ไม่ครบถ้วนย่อมไม่มีทางเป็นไปได้ เปรียบเสมือนร่างกายมนุษย์ทุกสัดส่วนได้รับอาหารเสริมแข็งแรงขึ้น ขาดแต่”หัว”กับ”ตีน” ที่ไม่ได้เลย ในที่นี้ตีนหมายถึงประชาชน ที่ถูกปลูกปั่นให้แบ่งขั้วแบ่งข้าง เสียประโยชน์ลูกเดียว ตลอดเกือบสองทศวรรษที่ผ่านมา

“ในความเป็นจริงแล้วพรรคการเมืองไทย ล้วนมีความต้องการและมีจุดอ่อนที่แตกต่างกัน พรรคเพื่อไทย เจ้าของพรรคตัวจริงต้องการกลับบ้าน พรรคก้าวไกล ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศทันที พรรคภูมิใจไทย ต้องการอำนาจเพื่อรักษาอาณาจักรของตัวเอง พรรครวมไทยสร้างชาติชาย รักษาอำนาจโดยไม่คำนึงถึงการปฏิรูป พรรคประชาธิปัตย์ ยังล้าหลังไม่เหลือความเป็นสถาบันแล้ว พรรคพลังประชารัฐ ภาพลักษณ์ไม่ดี แต่แนวทางถูกต้อง ดังนั้นพรรคการเมืองต่างๆจึงแย่งชิงอำนาจเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเองทั้งนั้น ไม่ได้ยึดเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นตัวตั้ง การจัดตั้งรัฐบาลจึงตกลงกันไม่ได้ สุดท้ายต้อง สลายขั้ว ตั้งรัฐบาลช่วยชาติ ตามแนวทาง 5 ข้อ ที่ได้เสนอไปแล้ว จึงจะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ และเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างแท้จริงได้”

นายอดุลย์ กล่าวด้วยว่า ขอตั้งคำถามต่อพรรคการเมืองต่างๆ ว่า การจัดตั้งรัฐบาลที่มีความยุ่งยากจากการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย เสียเวลาอันมีค่าของชาติบ้านเมือง จนป่านนี้ยังไม่สามารถมีรัฐบาลที่แท้จริงได้ เป็นประโยชน์แก่ประชาชนตรงไหน โผครม.ที่ออกมาสะท้อนภาพลักษณ์นักการเมืองที่ยังแย่งผลประโยชน์กันล้วนไม่ตอบโจทย์ประชาชน จึงขอย้ำว่าต้องไม่ยึดโควตา ต้องเอาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถจากทุกพรรคมาร่วมกันแก้ปัญหาชาติบ้านเมือง มิเช่นนั้นปัญหาจะวนอยู่ในวงจรเดิม ส่วนรัฐบาลรักษาการนั้นมีอำนาจจำกัดในการบริหารบ้านเมือง ไม่สามารถเดินหน้าวางแผนงบประมาณได้และแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการและหน่วยงานของรัฐได้ การขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลตัวจริงไม่เกิดขึ้น ทั้งที่ภาวะเศรษฐกิจขณะนี้มีปัญหามากมาย รายได้ประชาชนหดหาย การท่องเที่ยวฟื้นน้อยกว่าที่คาดไว้มาก หนี้ครัวเรือนมีขนาดใหญ่โต และเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มแผ่วลงทุกวัน รวมทั้งมีปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์โลกที่ต้องวางแผนโดยผู้รู้ที่เชี่ยวชาญแต่เนิ่นๆ จึงขอเรียกร้องให้พรรคการเมืองเลิก ยึดแนวทางประโยชน์พรรค จับมือสามัคคีเพื่อแก้ไขปัญหาของชาติบ้านเมือง จำเป็นต้องมีรัฐบาลตัวจริงโดยเร็วที่สุด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อดุลย์' แนะ 'อุ๊งอิ๊ง' แสดงภาวะผู้นำด้วยตนเอง อย่าปล่อยให้คนครอบงำ

“อดุลย์” แนะนายกฯแพทองธาร แสดงภาวะผู้นำด้วยตนเองอย่าเป็นรัฐบาลเปลือกหอยมีคนคอยครอบงำบงการ จี้ลดราคาพลังงานหยุดปล้นเงินปชช. ลดส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยธนาคาร ทบทวนต่างชาติเช่าที่ดิน99ปี กาสิโนถูกฎหมายไม่เหมาะกับสังคมไทย อย่าให้มีการคอร์รัปชันเชิงนโยบาย หนุนแจกเงินสด1หมื่นเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เร่งนิรโทษกรรมคดีการเมือง

‘อดุลย์’ ชี้กลุ่มการเมืองกับทุนพลังงาน ร่วมกันปล้นเงินจากกระเป๋าประชาชน

‘อดุลย์’ชำแหละ ราคาไฟฟ้าแพงเพราะการสมคบคิดของกลุ่มทุนพลังงานกับการเมืองปล้นเงินจากกระเป๋าประชาชน ด้วยการผลิตล้นเกินไม่ใช้ก็ต้องจ่าย หนุน”พีระพันธุ์”รื้อโครงสร้าง ยกเลิกสัมปทานที่ไม่ชอบธรรม เร่งขุดทรัพยากรทางทะเลที่อ้างพื้นที่ทับซ้อน ซื้อพลังงานจากรัสเซีย เตือนรัฐบาล ระวังประชาชนจะหมดความอดทน

'อดุลย์' ร่อนจดหมายเปิดผนึกเฉ่ง 'เพื่อไทย' เตะถ่วงนิรโทษกรรมคดีการเมือง

“อดุลย์”ร่อนจดหมายเปิดผนึกเฉ่ง”พรรคเพื่อไทย”เตะถ่วงนิรโทษกรรมคดีการเมืองเอาประชาชนทุกเสื้อสีเป็นตัวประกันกระตุก”ทักษิณ” ต้องมีสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณช่วยทำให้บ้านเมืองเกิดสันติสุข อย่าเอาแต่ประโยชน์ของตัวเอง แล้วทิ้งประชาชนที่เคยช่วยเรียกร้องต่อสู้ให้กับตัวเอง จี้นายกฯเร่งออกพรก.นิรโทษกรรม เพื่อให้สังคมเกิดความปรองดองโดยเร็ว

ปธ.ญาติวีรชนฯ ยื่น 'วันนอร์' เร่งดันพรบ.นิรโทษกรรม จี้กมธ.ทำให้เร็วที่สุดอย่ายื้อเวลา

นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนฯ เดินทางเข้าพบ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อยื่นหนังสือผลักดันการออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม