'จตุพร' เย้ย 'ชลน่าน-ภูมิธรรม' อวดเก่งแถอธิบาย แต่หลบหนีเปิดตัว รทสช.ตั้ง รบ. ถามทำไมไม่มีภาพเทียบเชิญจับมือแถลงร่วมให้มั่นใจ คาดหวั่นอารมณ์ปชช.เดือด บุกเผาเสื้อแดงทดแทนความโกรธแค้นเคือง มั่นใจฉากการเมืองบังคับ สว.ไม่โหวต 'เศรษฐา' เป็นนายกฯ
18 ส.ค.2566 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน "หลุด!!" โดยระบุว่า ข้อมูลพฤติกรรมอันน่าเคลือบแคลงการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของนายเศรษฐา ทวีสิน ที่หลุดออกมา คงทำให้โอกาสได้เป็นนายกฯ ยากลำบากยิ่งขึ้น ขณะที่ภาพพรรคเพื่อไทยเจรจาเชิญพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กลับไม่กล้าหลุดให้ประชาชนเห็น เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการตั้งรัฐบาลเป็นไปด้วยความราบรื่น เรียบร้อยดี
นายจตุพร กังขาพรรคเพื่อไทย ไม่ร่วมแถลงโชว์ภาพเทียบเชิญและจับมือตั้งรัฐบาลเป็นทางการกับ รทสช. (36 เสียง) ว่า ทำไมมีแต่แต่โฆษก รทสช.แถลงคนเดียวและฝ่ายเดียว และทำไมไม่มีภาพคณะเจรจาของเพื่อไทยและหัวหน้าพรรค รทสช. มาแถลงด้วยกัน ซึ่งไม่รู้ว่า เพื่อไทยอายอะไร แล้วหลบซ่อนหน้ากันทำไม ข้อสังเกตุว่า เพื่อไทยคงจับอารมณ์ไม่พอใจของประชาชนได้ จึงใช้วิธีสื่อสารเลี่ยงบาลีหลบหนีภาพการจับมือตั้งรัฐบาล เนื่องจากช่วงหาเสียงประกาศเป็นมั่นเหมาะทุกพื้นที่ว่า ไม่จับมือตั้งรัฐบาลสืบทอดอำนาจกับ รทสช.และพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)
"ในวันที่ 18 ส.ค. นี้ เพื่อไทยคงไปเจรจากับ พปชร. เพื่อเชิญมาร่วมรัฐบาลอย่างเป็นทางการอีกพรรคหนึ่ง และคงไม่มีภาพแถลงข่าวของเพื่อไทยอีกตามเคย เพราะ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กับ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ประกาศตลอดการหาเสียงไม่จับมือ พปชร.เช่นกัน ดังนั้น สิ่งที่บอกตั้งรัฐบาลได้เรียบร้อยอาจยังไม่เรียบร้อย และคงมีปัญหาสำคัญติดขัดซุกซ่อนเอาไว้ก็ได้"
นายจตุพร เห็นว่า ด้วยสมการจำนวนเสียงร่วมรัฐบาลขณะนี้ แม้มีประมาณ 314 เสียง (โดยพรรคประชาธิปัตย์คงถูกเพื่อไทยปล่อยให้เป็นฝ่ายค้าน) แต่เมื่อเพื่อไทยเสนอนายเศรษฐา เป็นนายกฯ ต้องอาศัยเสียง สว. อีกกว่า 60 เสียงมาโหวตให้ผ่าน 375 เสียงตามบทบัญญัติ รธน. มาตรา 272 กำหนดให้มีเสียงเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกรัฐสภาทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ หรือประมาณ 750 คน
"แม้การร่วมรัฐบาลข้ามขั้วส่อจับมือกันจบลงแล้ว แต่การโหวตนายเศรษฐา เป็นนายกฯ ยังเป็นเรื่องยากอยู่ดี เพราะสิ่งสำคัญไม่สามารถหักล้างข้อมูลของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่เปิดโปงความไม่ชอบมาพากลพฤติกรรมการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และวันจันทร์นี้ (21 ส.ค.) ยังนัดแถลงข้อมูลชุดใหม่อีกรอบ ดังนั้น หากนายเศรษฐา พร้อม ควรไปเผชิญหน้านำข้อมูลของตัวเองไปหักล้าง ซึ่งอย่างน้อยจะทำให้บ้านเมืองสะอาดขึ้นที่ได้รับการตรวจสอบอย่างชัดเจน"
นายจตุพร กล่าวว่า การเจรจาเข้าร่วมรัฐบาลนั้น เป็นเรื่องสำคัญกับบ้านเมือง แต่ไม่มีคู่เจรจาทั้งสองพรรคมาร่วมแถลงอย่างเป็นทางการด้วย เพื่อทำให้มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่มีภาพการเจรจาแล้ว จึงประเมินถึงการจับมือร่วมรัฐบาลยังไม่มีความแน่นอนตามประสาการเมือง ซึ่งมากด้วยความตลบตะแลงคือ ใช้เล่ห์เหลี่ยมพลิกแพลงไปมา
นอกจากนี้ ชุดเจรจาตั้งรัฐบาลของเพื่อไทย ประกอบด้วย นพ.ชลน่าน, นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค หายหน้าไปไหนหมดไม่ออกมาแถลงจับมือเชิญ รทสช.เข้าร่วมรัฐบาล แล้วการแถลงของโฆษก รทสช.จะมีความน่าเชื่อถือได้อย่างไรกัน
ส่วน นพ.ชลน่าน ประกาศจะลาออกจากหัวหน้าพรรค นั้น นายจตุพร กล่าวว่า ต้องคิดหนักอีก หากยึดมาตรฐานนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลาออกจาก สส. เพื่อแสดงความรับผิดชอบ แต่ นพ.ชลน่าน จะต้องรับผิดชอบแค่ไหนอย่างไรก็ยังสงสัยอยู่
"อย่าได้อธิบายว่า เป็นคำพูดหรือการประกาศเพื่อรณรงค์หาเสียง หรือบอกถูกบีบบังคับให้พูดอย่างนายภูมิธรรม แถอธิบาย อีกอย่างนายชูวิทย์ ออกมาชำแหละนายเศรษฐา เพิ่มอีกในวันที่ 21 ส.ค. แล้ววันที่ 22 ส.ค.โหวตนายกฯ อาการแบบนี้คงหาสภาพเพื่อไทยไม่เจอแน่"
นายจตุพร กล่าวว่า การชี้แจงข้อกล่าวหาของนายชูวิทย์นั้น นายเศรษฐา ต้องนำข้อเท็จจริงมาตอบโต้เป็นข้อๆ ให้ประชาชนเกิดความกระจ่างและมั่นใจในการทำหน้าที่นายกฯ ผู้บริหารสูงสุดของประเทศ แต่นายเศรษฐา กลับชี้แจงแบบรวบรัดและกล่าวหานายชูวิทย์ กลับไป ย่อมไม่ตรงประเด็นข้อมูลที่ถูกกล่าวหา
อีกอย่าง เพื่อไทยในฐานะพรรคเสนอนายเศรษฐา เป็นนายกฯ ควรออกมาชี้แจงข้อเท็จเป็นข้อๆ ด้วยเช่นกัน เพราะความซื่อสัตย์ และจริยธรรมของนายกฯ เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเป็นเดิมพันของประเทศในอนาคตภายใต้การนำของนายเศรษฐา นักธุรกิจที่เพื่อไทยเสนอให้เป็นนายกฯ
นายจตุพร คาดว่า เมื่อข้อมูลการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่นายชูวิทย์ นำมาเปิดเผยคงเป็นสัญญาณเตือนถึงข้อมูลของทุกคนที่เป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เข้าสู่การเมืองด้วย แล้วอุ๊งอิ๊ง จะชี้แจงต่อประชาชนอย่างไร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชำแหละ 'ทักษิณ' คุยโม้ ลดค่าไฟฟ้า 3.70 บ. ทำหุ้นตก มือดีฉวยโอกาสช้อนซื้อทำกำไร
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า ทักษิณ ชินวัตร ยิ่งปราศรัยและพูดมากเท่าใด ยิ่งไม่อยู่กับร่องกับรอยสะท้อนอาการน่าเป็นห่วงมากขึ้นเท่านั้น และสิ่งสำคัญแสดงพฤติกรรมและทัศนะเหยียดมนุษย์ให้เห็นอย่างเด่นชัด
'ทักษิณ' สติแตก หาเสียงเหยียดเชื้อชาติ ขู่ส่งเชือกผูกคอคนด่า
ทักษิณ ยิ่งปราศรัยยิ่งมีอาการหนักขึ้น อัดใหญ่มาจากไหน กล้าข่มขู่ส่งเชือกไปผูกคอคนวิจารณ์ ฟาดกลับถ้ากลัวมากต้องเลิกเป็นรัฐบาลไปนอน
ปูด! ส่อเขี่ย 'พีระพันธุ์' ดึงปชน.มาเสริม ปลด 'ภูมิธรรม' นายทหารยศไม่สูงเสียบแทน
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน โพสต์เฟซบุ๊คว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรมว.พลังงาน จากพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีแววจะถูกปรับออกจาก ครม.
'ภูมิธรรม' มั่นใจรัฐบาลอยู่ครบเทอม 4 ปีแน่!
'ภูมิธรรม' มั่นใจรัฐบาลอยู่ครบ 4 ปี เชื่อปี 68 ไม่มีเหตุวุ่นวายนำสู่รัฐประหาร ชี้ ปชต.ไม่ควรสะดุดขาดตอน ย้ำสัมพันธ์ทหารดีมาก มอง 'ยิ่งลักษณ์' กลับไทยธรรมดาของคนอยู่ ตปท.
'จตุพร' มองการเมือง 2568 สัมพันธ์อำนาจระแวงบีบกด ฉุดบ้านเมืองเข้ามุมอับ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ส่งท้ายปี 2567 ว่า ในปี 2568 บ้านเมือง
'จตุพร' ซัด 'ทักษิณ' สติแตก โต้ 'ผมเป็นหนี้อะไรนักหนาสู้ให้จนติดคุก 5 ครั้ง' คงทดแทนพอแล้ว
'จตุพร' ซัด 'ทักษิณ' สติแตก อารมณ์อึดอัดพลุกพล่าน พูดกราดเกรี้ยวดุดัน โชว์ถ่อยเป็นพ่อไม่ไว้หน้านายกฯ ลูกสาว จวกปราศรัยเหวี่ยงแห ดุด่าสองแง่สามง่าม ยัดเยียดสารพัดเนรคุณ ย้อนแสบทดแทนบุญคุณนักสู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บหรือยัง ลั่น 'ผมเป็นหนี้อะไรนักหนา' สู้ให้จนติดคุก 5 ครั้ง ชีวิตผจญชะตากรรมไม่รู้จบ บ้านรอถูกยึด คงทดแทนกันพอแล้วมั้ง