17 ส.ค.2566 - นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ในเฟซบุ๊ฏ "เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค" มีเนื้อหาดังนี้
“ศูนย์กลางของจักรวาลกระทำผิดกฎหมาย แล้วแก้ตัวว่า ผู้ที่ผิดคือกฎหมาย ไม่ใช่ตนเอง”
……………………………………………………………………..
สำนักงานกกต. เสนอ ให้ที่ประชุม กกต. มีคำสั่งให้เป็นกรณีความปรากฏต่อ กกต. ว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มีลักษณะต้องห้ามของการลงสมัครรับเลือกตั้ง และการยินยอมให้พรรคการเมืองส่งชื่อตนเองเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ รวมถึงยอมให้เสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เข้าข่ายรู้อยู่แล้วว่าตนเองไม่มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งแต่ยังคงลงสมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา 151 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. หรือไม่
รวมทั้งเป็นเรื่องที่สร้างความกังวลใจจนทำให้ ส.ว.ไม่อาจให้ความไว้วางใจเพื่อโหวตให้เป็นนายกฯ ได้
**ในขณะที่นายพิธา พูดกับผู้สนับสนุนทำนองว่า “เขาถูกกลั่นแกล้งและกีดกัน ไม่ให้เป็นนายกฯ” ทั้งที่ความจริงตนเองละเมิดกฎหมาย
***จะเห็นได้ว่า คนพวกนี้ทำตัวเป็นศูนย์กลางของจักรวาล กล่าวคือ เขากระทำผิดกฎหมาย แล้วแก้ตัวว่า ผู้ที่ผิดคือกฎหมาย ไม่ใช่ตนเอง
……………………………………………………………………..
ย้อนไปเมื่อวันที่ 20 พ.ย.2562 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายธนาธร สิ้นสภาพ ส.ส.จากเหตุถือหุ้นใน บ.วีลัค มีเดียจำกัด เนื่องจากเมื่อวันที่ 6 ก.พ.2566 นายธนาธรยังเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทดังกล่าว ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่พรรคอนาคตใหม่ส่งบัญชีรายชื่อผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อต่อ กกต.
**ในขณะที่นายธนาธร พูดกับผู้สนับสนุนทำนองว่า “เขาถูกกลั่นแกล้งและกีดกันในทางการเมือง” ทั้งที่ความจริงตนเองละเมิดกฎหมาย
***จะเห็นได้ว่า คนพวกนี้ทำตัวเป็นศูนย์กลางของจักรวาล กล่าวคือ เขากระทำผิดกฎหมาย แล้วแก้ตัวว่า ผู้ที่ผิดคือกฎหมาย ไม่ใช่ตนเอง
……………………………………………………………………..
14 สิงหาคม 2566 "นายปดิพัทธ์ สันติภาดา" สส.พิษณุโลก ในฐานะรองประธานสภาฯ คนที่ 1 กล่าวถึงกรณีดราม่าการโพสต์รูปคราฟเบียร์ ว่า เป็นเรื่องปกติที่เราเห็นถึงการนำเสนอเรื่องราวบางอย่าง ก็จะมีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย”
"เมื่อเรารู้ว่าการทำสุราชุมชนหรือการทำคราฟท์เบียร์ ในท้องถิ่นเป็นสิ่งที่เพิ่มมูลค่าให้กับจังหวัดนั้นๆ ได้ แต่เรากลับปิดกั้นการโฆษณาแล้วบอกว่าเรื่องนี้จะต้องนำมาสู่การติดคุกหรือโดนค่าปรับถึง 500,000 บาท ทำให้ผู้ผลิตไม่กล้าเลยที่จะโฆษณา ซึ่งคำว่าโฆษณาไม่ใช่แค่เชิญชวนให้มาดื่ม แค่จะบอกว่าข้างในนั้นมีอะไรบ้าง ยังทำไม่ได้เลย ต้องมีการซ่อนแง่กันไปหมด"
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ หากมีคนไปร้อง เพราะเป็นถึงรองประธานสภาฯ นายปดิพัทธ์กล่าวว่า “ก็เป็นสิทธิที่เขาจะมาติง แต่ตนเองเป็นรองประธานสภาฯ ไม่ได้เป็นเสมียนบรรจุกฎหมาย ก็ต้องมีความคิดที่จะเสนอต่อสังคมได้เฉกเช่นเดียวกัน”
นายปดิพัทธ์ ยังกล่าวอีกว่า “ผมไม่ได้เมาแล้วขับ ผมไม่ได้เมาแล้วทำร้ายใคร แล้ว ผมเองก็มีความภาคภูมิใจมากที่ผลิตภัณฑ์ของชาวพิษณุโลกควรจะมีคนอื่นได้เห็นด้วย เพราะฉะนั้น ผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับศีลธรรมอะไรทั้งสิ้น”
กฎหมายมาตรา 32 บัญญัติว่า “ห้ามโฆษณาแสดงชื่อ หรือเครื่องหมายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์”
ซึ่งที่มาของกฎหมายนี้ เกิดมาจากปัญหาที่เกิดมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ อันเป็นสาเหตุของปัญหานานัปการต่อ ท้ังชีวิต ทรัพย์สิน และสังคม
รัฐได้เห็นถึงความสําคัญของปัญหาเหล่านี้ จึงการตรากฎหมายขึ้นบังคับใช้ โดยมีมาตรการทางกฎหมายที่สําคัญคือ การควบคุมการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เนื่องจากการโฆษณามีอิทธิพลอย่างมากต่อการรับรู้ และทัศนคติที่ดี ส่งผล ต่อปริมาณการบริโภคที่เพิ่มขึ้นและการเกิดนักดื่ม หน้าใหม่ในกลุ่มเยาวชน
จึงบัญญัติกฎหมาย”ห้ามโฆษณาแสดงชื่อหรือ เครื่องหมายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์”
**ทั้งที่ความจริงนายปดิพัทธ์ ละเมิดกฎหมาย แต่นายปดิพัทธ์ พูดย้ำในรายการทีวีว่า “เป็นการเอาเรื่องนี้มาเล่นงานทางการเมือง”
***จะเห็นได้ว่า คนพวกนี้ทำตัวเป็นศูนย์กลางของจักรวาล กล่าวคือ เขากระทำผิดกฎหมาย แล้วแก้ตัวว่า ผู้ที่ผิดคือกฎหมาย ไม่ใช่ตนเอง
……………………………………………………………………..
แกนนำพรรคก้าวไกลและคณะก้าวหน้าหลายคน สนับสนุนการประท้วงไม่สวมชุดนักเรียนไปโรงเรียนของเด็กๆ ด้วยเหตุผลว่า “การสวมเครื่องแบบ เป็นการกดขี่และสร้างความเหลื่อมล้ำ”
**ทั้งที่ความจริง เป็นการยุยง ส่งเสริมให้เกิดการละเมิดกฎระเบียบ
***จะเห็นได้ว่า คนพวกนี้ทำตัวเป็นศูนย์กลางของจักรวาล กล่าวคือ เขากระทำผิดกฎหมาย แล้วแก้ตัวว่า ผู้ที่ผิดคือกฎหมาย ไม่ใช่ตนเอง
……………………………………………………………………..
กฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นกฎหมายคุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของชาติ การคุกคามพระมหากษัตริย์ย่อมหมายถึงการเป็นภัยค่อความมั่นคงของชาติ
แต่กลุ่มคนที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคการเมือง NGO และประเทศมหาอำนาจภายนอกประเทศ ออกมาละเมิดกฎหมายอาญามาตรา 112 ด้วยการคุกคาม ให้ร้าย ดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ แล้วอ้างว่าการกระทำเหล่านั้นคือการแสดงความเห็นต่างทางการเมือง
ซึ่งความจริงแล้ว การแสดงความเห็นต่างทางการเมือง กับ ให้ร้าย ดูหมิ่น หมิ่นประมาทและอาฆาตมาดร้าย เป็นคนละเรื่องกัน
***จะเห็นได้ว่า คนพวกนี้ทำตัวเป็นศูนย์กลางของจักรวาล กล่าวคือ เขากระทำผิดกฎหมาย แล้วแก้ตัวว่า ผู้ที่ผิดคือกฎหมาย ไม่ใช่ตนเอง
……………………………………………………………………..
ความเท่าเทียมกันในสังคมคือการที่ทุกคนอยู่ใต้กฎหมายเดียวกันอย่างเท่าเทียม
หากคิดว่ากฎหมายหรือบัญญัติใดในรัฐธรรมนูญไม่เหมาะสมก็สามารถนำเข้าสู่สภาเพื่อพิจารณาแก้ไขหรือปรับปรุง
มิใช่กฎหมายบัญญัติไว้ แต่ตั้งใจทำผิดกฎหมาย แล้วบอกว่ากฎหมายผิด ตนเองถูก
แบบนี้ถ้าเกิดมีประชาชนโดนนักการเมืองกลั่นแกล้งแล้วขับรถชนนักการเมืองคนนั้นตายแล้วก็อ้างกับสังคมว่า นักการเมืองคนนั้นมันชั่ว ตนเองไม่ผิด ได้หรือไม่
หรือภรรยาชมดาราฮอลลีวูดว่าหล่อ สามีโกรธตบตีเมียหรือฆ่าเมีย แล้วเมื่อถูกดำเนินคดีก็บอกกับสังคมว่า ผมไม่ผิด กฎหมายต่างหากที่ผิดเพราะเมียไปชมดาราฮอลลีวูดว่าหล่อจนทำให้สามีโกรธ ได้หรือไม่
สังคมจะอยู่กันอย่างไรถ้าทุกคนไม่เคารพกฎกติกา โดยเฉพาะคนที่เป็นรองประธานสภาหรือคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีมีทัศนคติแบบนี้
แห่กันออกมาเรียกร้องให้พระมหากษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ ทั้งที่พระมหากษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญมาตั้งแต่ 2475 ในขณะที่ตนเองหรือไม่ที่ทำตัวอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ
……………………………………………………………………..
ยังมีอะไรอีกที่คนพวกนี้กระทำผิดกฎหมาย แล้วแก้ตัวว่า ผู้ที่ผิดคือกฎหมาย ไม่ใช่ตนเอง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปปช.เปิดทรัพย์สิน 'ก่อแก้ว' สุดอู้ฟู่รวย 263 ล้านบาท
เปิดเซฟ 'ชัยธวัช ตุลาธน' อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล 19.3 ล้านบาท 'อภิชาติ' อดีตเลขาธิการพรรค 13.2 ล้านบาท 'ก่อแก้ว' อู้ฟู่ 263 ล้าน
'เอ็ดดี้ อัษฎางค์' มีคำตอบให้! 'พิธา' ไม่เข้าใจทำไมกลายเป็นศัตรูเพื่อไทย
เอ็ดดี้-อัษฎางค์ ยมนาค อินฟลูเอ็นเซอร์การเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ไม่เข้าใจทำไมกลายเป็นศัตรูกับเพื่อไทย อัษฎางค์ ยมนาค มีคำตอบให้
ก้าวไกลแพ้! ศาลยกฟ้อง 'ณฐพร โตประยูร' แจ้งเท็จ-หมิ่น ล้มล้างการปกครอง
ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.308/2564 ที่พรรคก้าวไกล เป็นโจทก์ฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ,หมิ่นประมาทฯพร้อมเรียกค่าเสียหาย 20,062,475บาท
รู้ไว้ซะ 'ปิยบุตร' เผย 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน เพราะก้าวไกลชนะเลือกตั้ง!
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอีกครั้ง
'พิธา' คุยพรรคประชาชนแข่งเลือกตั้งมีแต่ชนะกับพัฒนา ไม่มีคำว่าแพ้
ที่จ.อุดรธานี แกนนำ สส. และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ร่วมเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 พ.ย. 2567 ซึ่งพรรคประชาชนได้ส่ง คณิศร ขุริรัง เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก
'พิธา' เย้ยกลับทักษิณอย่าลืมผลเลือกตั้ง 66 ลั่นอุดรฯคือเมืองหลวงประชาธิปไตย
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาคณะก้าวหน้าและอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานีจากพรรคประชาชน