อาจารย์ไชยันต์ชี้เรื่องรองประธานสภาโฆษณาเบียร์ หากเห็นว่ากฎหมายมีปัญหาก็แก้ไขไม่ใช่ฝ่าฝืนและบอกบอกกฎหมายไม่ดี ยกตัวอย่างคราวฉีกบัตรเลือกตั้งก็ยอมรับถูกกระบวนการยุติธรรมตัดสิน
16 ส.ค.2566 - ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “สส.กับการกระทำผิดกฎหมายฯ” ระบุว่า การที่ประชาชนโพสต์ภาพขวดเหล้าเบียร์ หรือแก้วเบียร์ที่มีโลโก้เบียร์ จึงยังไม่ใช่ความผิดตามกฎหมายนี้ แต่บุคคลที่มีชื่อเสียงกับบุคคลทั่วไปมีความแตกต่างกัน
ถ้าเป็นบุคคลทั่วไปโพสต์ภาพคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยที่ไม่มีข้อความเชิญชวนอวดอ้างชักจูงใจก็จะไม่เป็นความผิด แต่ดาราหรือบุคคลที่มีชื่อเสียงมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก ทำให้คนหันมาสนใจสินค้ามีผลเป็นการโน้มน้าวหรือชักจูงใจไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม จึงไม่สามารถทำได้
โดยโทษความผิดฐานโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นโทษตามกฎหมาย คือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ถ้าเป็นการโฆษณาของผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าจะปรับ 500,000 บาท โดยมีการกำหนดอัตราการเปรียบเทียบปรับไว้ด้วย
ก็ว่าไปตามกฎหมายครับ ส่วนการไม่หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย หรือฝ่าไฟแดง มีโทษเท่ากันสำหรับบุคคลทั่วไป ดารา บุคคลสาธารณะ และนักการเมือง
เพียงแต่ถ้านักการเมืองไม่หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลายเป็นปกติ หรือฝ่าไฟแดงตามน้ำ แม้โทษตามกฎหมายจะไม่แตกต่างจากบุคคลอื่นๆ แต่มันก็รู้สึกแปลกๆ และน่าสงสัยกับการอาสามาทำงานเป็นตัวแทนดูแลผลประโยชน์สาธารณะ
อีกทั้งหากเห็นว่า กฎหมาย มาตรา 32 ของพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มีปัญหา ก็ควรแก้ไข ไม่ใช่ไปฝ่าฝืน แล้วบอกว่า กฎหมายไม่ดี เหมือนเรื่องมาตรา 112 ก็เช่นกัน ไม่เห็นด้วย ก็หาทางแก้เสียก่อน ไม่ใช่ไปฝ่าฝืนหรือสนับสนุนผู้ที่ฝ่าฝืน
ส่วนเรื่องที่ผมฉีกบัตรเลือกตั้ง ผมก็ยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และน้อมรับคำตัดสิน ซึ่งถึงที่สุดศาลฎีกาก็ตัดสินว่าผมผิดและลงโทษทั้งจำคุก (รอลงอาญา) ปรับเงินและตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ไชยชนก' แย้ม 'DSI' มีข้อมูลโยง 2 นักการเมือง ปม MOU บ.สแกนม่านตา
'ไชยชนก' ชี้หน้าที่ 'ดีเอสไอ' สอบสวน หลังพบข้อมูลนักการเมือง 1-2 คน เอี่ยว MOU กระทรวงดีอี-บ.สิงคโปร์ สแกนม่านตา โยงฟอกเงินดิจิทัล
จุฬาฯ-มหิดล ผนึกกำลังสร้างนวัตกรรมเวชสำอางจากข้าวไรซ์เบอร์รี่ไทย เตรียมทดสอบทางคลินิกที่ศิริราช
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหิดล ลงนามถ่ายทอดเทคโนโลยี "AnthoRice™ Complex" นวัตกรรมเซรั่มบำรุงรากผมจากสารสกัดข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ไทย
จุฬาฯ จับมือ Founder Institute สหรัฐฯ เปิดตัวโครงการ 'Go Global Startup Bootcamp: Chula - DC Silicon Startup Bridge' ปั้นสตาร์ทอัพไทยสู่เวทีโลก
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CU Innovation Hub) เดินหน้ายกระดับศักยภาพผู้ประกอบการนวัตกรรมไทย เปิดโครงการ “ติดอาวุธเสริมศักยภาพธุรกิจนวัตกรรมสู่สากล (Go Global Startup Bootcamp): Chula – DC Silicon Startup Bridge” ร่วมกับ Founder Institute (FI) ประเทศสหรัฐอเมริกา” ซึ่งเป็นเครือข่ายนักลงทุน การบ่มเพาะและเร่งการเติบโตของสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อบ่มเพาะและเร่งการเติบโตของผู้ประกอบการบริษัทสตาร์ทอัพของไทย ในการเตรียมความพร้อมสู่การพัฒนาธุรกิจในระดับสากล ทั้งในด้านองค์ความรู้ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การระดมทุน ตลอดจนการก้าวเข้าสู่เครือข่ายสตาร์ทอัพระดับโลก
'เทพไท' ชำแหละสันดานนักการเมืองยุคนี้!
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช
มีผลวันนี้! ปลดล็อกช่วงเวลาห้ามขายเหล้าเบียร์-ขยายเวลาดื่มในร้าน
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศคณะกรรมการควบคุ

