12 ส.ค.2566 - เพจเฟซบุ๊ก พรรคก้าวไกล เผยแพร่เนื้อหาการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา มีวาระการประชุมสำคัญ ว่าด้วยการรับทราบรายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2565 และรายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 มี สส.พรรคก้าวไกลหลายคนร่วมอภิปราย โดยเฉพาะต่อประเด็นสิทธิทางการเมืองและสิทธิของผู้ลี้ภัย
‘ลูกเกด’ ชี้ไม่ครอบคลุมทุกการละเมิดสิทธิ โดยเฉพาะจากผู้มีอำนาจ ถาม ‘กสม.’ เกรงใจผู้มีอำนาจมากไปหรือไม่
‘แก้วตา-โตโต้’ ติง ไร้รายงานกรณีผู้ลี้ภัยถูกรัฐบาลไทยส่งกลับประเทศ จี้เร่งปรับปรุงกฎหมาย เข้าร่วมอนุสัญญาคุ้มครองบุคคลที่สูญหายโดยการบังคับ
ผู้อภิปรายคนแรกของพรรคก้าวไกล คือ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว สส.ปทุมธานี เรียกร้องให้ กสม. ทำหน้าที่อย่างกล้าหาญมากกว่านี้ โดย น.ส.ชลธิชา กล่าวว่าส่วนตัวขอชื่นชมการทำงานของ กสม. ที่ผ่านมา แต่เห็นว่ายังคงต้องการความกล้าหาญมากกว่านี้ในการทำหน้าที่ โดยเฉพาะต่อการตรวจสอบองคาพยพของรัฐ ที่ไม่ยอมให้สิทธิมนุษยชนอย่างเท่าเทียมกันต่อประชาชน
ประการแรก การรับเรื่องร้องเรียนและการตรวจสอบ ซึ่งตนขอชื่นชมระบบการร้องเรียนของ กสม. ที่ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายและติดตามเรื่องได้ง่าย แต่จากการรับฟังภาคประชาสังคมที่ผ่านมา พบว่าการร้องเรียนผู้มีอำนาจหรือการร้องเรียนที่กระทบต่อความมั่นคงด้วยช่องทางดังกล่าวมักไม่เป็นผล และยังไม่เห็นความพยายามของ กสม. ให้มีการตรวจสอบติดตามหลายๆ เรื่อง เช่น กรณีการถูกอุ้มหายและอุ้มฆ่านักกิจกรรมชาวไทยในประเทศเพื่อนบ้าน และกรณีผู้ชุมนุมถูกสลายการชุมนุมอย่างรุนแรง เป็นต้น
ประการที่สอง กสม. ตีความอำนาจของตัวเองตามกฎหมายให้แคบ จนไม่สามารถดำเนินบทบาทเชิงรุกในบางกรณีได้ เช่น การสังเกตการณ์กรณีฟ้องร้องกลั่นแกล้งปิดปาก การละเมิดสิทธิในต่างแดนที่มีนักลงทุนชาวไทยเข้าไปเกี่ยวข้อง และการสังเกตการณ์การชุมนุมที่ผ่านมาอย่างมีนัยยะสำคัญน้อยเกินไป
พร้อม แนะ กสม. ขยายขอบเขตอำนาจตรวจสอบเชิงรุกในกระบวนการยุติธรรม ชลธิชาอภิปรายต่อว่ารายงานดังกล่าว ยังขาดความครอบคลุมข้อเท็จจริงและสถานการณ์ที่เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยผู้มีอำนาจ และการชี้ชัดอย่างตรงไปตรงมาว่าผู้มีอำนาจละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างไรบ้าง เช่น การสลายการชุมนุมกลุ่มราษฎรต้านเอเปค ที่รายงานของ กสม. ไม่ได้ระบุให้เห็นถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นกรณีที่มีผูุ้ชุมนุมถูกกระสุนยางยิงเข้าตาขวาจนตาบอด และกรณีที่มีผู้ชุมนุมหลายคนถูกยิงบริเวณส่วนบนของร่างกาย ซึ่งขัดกับหลักสากลในสลายการชุมนุม ตลอดจนการไม่ให้สิทธิในการประกันตัวนักเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อต่อสู้คดีอย่างเป็นธรรม หรือกำหนดเงื่อนไขประกันตัวอย่างไม่ได้สัดส่วน ขัดหลักการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ เช่น การติดกำไลอีเอ็ม การห้ามเข้าร่วมชุมนุม ห้ามกระทำความผิดซ้ำ เป็นต้น
รายงานนี้ยังไม่ได้ชี้ให้เห็นถึงข้อบกพร่องของ ม.112 ว่าขัดกับกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ (ICCPR) อย่างไรบ้าง แม้ผู้รายงานพิเศษและคณะทำงานของ UN จะมีความเห็นต่อปัญหาทั้งการบังคับใช้และบทบัญญัติของกฎหมาย พร้อมข้อแนะนำและเสนอแนะต่อรัฐบาลไทยมาตลอดเวลา นอกจากนี้ ต่อการบังคับใช้กฎหมายป้องกันการฟ้องร้องเพื่อปิดปาก รายงาน กสม. ก็ไม่ได้ระบุลงลึกให้เห็นว่าเหตุใดจึงไม่ปรากฏกรณีตัวอย่างที่ชัดเจนในการใช้กฎหมายดังกล่าว จากองค์กรและบุคลากรในวงการอัยการและศาล
ชลธิชากล่าวต่อไป ว่าตนจึงมีข้อเสนอว่า กสม. ต้องปรับปรุงโครงสร้างการทำงาน โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับสิทธิทางการเมือง ขยายขอบเขตอำนาจให้มีการตรวจสอบเชิงรุกในกระบวนการยุติธรรม การสังเกตการณ์การดำเนินคดี โดยเฉพาะการดำเนินคดีทางการเมือง เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะต่อผู้เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ในรายงานถัดไป กสม. ต้องครอบคลุมถึงสถานการณ์สิทธิมนุษยชน โดยไม่ลดทอนมิติความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากผู้ละเมิด และต้องประเมินให้ผู้อ่านเข้าใจอย่างชัดเจนว่าการกระทำใดบ้างที่ขัดหรือละเมิดต่อสิทธิมนุษยชนสากล
"นอกจากนี้ กสม. ยังมีท่าทีเกรงใจต่อองคาพยพของรัฐ จนลดทอนบทบาทที่สำคัญของ กสม. ดิฉันจึงขอสนับสนุนให้ กสม. สร้างความไว้วางใจให้ภาคประชาสังคม ในลักษณะที่กล้าเผชิญหน้าต้นตอของปัญหาไปด้วยกัน" ชลธิชากล่าว
ส่วนการอภิปรายต่อประเด็นผู้ลี้ภัย มี สส.พรรคก้าวไกลอีก 2 คน คือ ธิษะณา ชุณหะวัณ สส.กรุงเทพฯ (เขตปทุมวัน สาทร ราชเทวี) และ ปิยรัฐ จงเทพ ส.ส.กรุงเทพฯ (เขตพระโขนง บางนา) ร่วมอภิปรายชี้ให้เห็นถึงข้อบกพร่องในรายงานของ กสม. ที่ไม่ครอบคลุมปัญหาเกี่ยวกับผู้ลี้ภัยในประเทศไทยและผู้ลี้ภัยชาวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ปลาหมอคางดำ'ต้องเป็นศูนย์ ก่อนนิเวศย่อยยับ
จากสถานการณ์ปลาหมอคางดำที่กำลังระบาดไปในแหล่งน้ำธรรมชาติและพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในประเทศไทย ซึ่งปลาหมอคางดำมีต้นกำเนิดอยู่ในทวีปแอฟริกา ประเทศไทยเองมีบริษัทเอกชนนำเข้ามาเมื่อปี 2553 ซึ่งวงจรปลาหมอคางดำขยายพันธุ์รวดเร็ว ทุกๆ 22 วัน
'อนาคตไกล' รับซื้อ 'ปลาหมอคางดำ' 20 ตันเพื่อกำจัด อัด 'พิธา' ตรรกะวิบัติอ้างคนจะเพาะเลี้ยงมากขึ้น
“พรรคอนาคตไกล” บรรเทาความเดือดร้อนพี่น้องเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและชาวประมง รับซื้อปลาหมอคางดำ 20 ตันเพื่อกำจัด อัด "พิธา-ก้าวไกล ตรรกะวิบัติ" อ้างคนจะเพาะเลี้ยงมากขึ้น
'พิธา-ชัยธวัช' จวกรัฐมนตรีเล่นใหญ่แก้ 'ปลาหมอคางดำ' ด้วยวิธีรับซื้อ ชี้ยิ่งทำเพาะเลี้ยงมากขึ้น
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล กล่าวถึงปัญหาปลาหมอคางดำระบาด ว่า ตนให้นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. และนายแพทย์วาโย อัศว
'ก้าวไกล' เปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ. 'พิธา' อ้อนพี่น้องชาวลำพูนเชื่อในประชาธิปไตย
ก้าวไกลจัดสภากาแฟที่ลำพูน แลกเปลี่ยนปัญหาภาคเอกชน 'พิธา' ชี้เศรษฐกิจภาคเหนือมีแรงเฉื่อยลักษณะพิเศษโตช้า
'เพื่อไทย-ก้าวไกล' จับมือหนุนยกเลิกกฎหมายค้าประเวณี!
'Swing Thailand' บุกสภา ยื่นกว่าหมื่นรายชื่อ หนุนยกเลิก 'กม.ปรามการค้าประเวณี' เหตุละเมิดสิทธิมนุษยชน
อึ้ง!ปดิพัทธ์บอกยุบ 'ก้าวไกล' แสดงว่าไทยยังไม่เป็นประชาธิปไตยส่งผลสภานานาชาติ
'ปดิพัทธ์' ยอมรับมีชื่อเป็น กก.บห.ก้าวไกล เสี่ยงพ้น สส. หากพรรคถูกยุบจริง แต่เชื่อมั่นว่าการสู้คดีมีน้ำหนัก ไม่เสียดายตำแหน่งรองประธานสภา ชี้งานที่หาเสียงไว้ทำได้หมดแล้ว