อดีตรองอธิการบดีมธ.ชำแหละ หลักสูตร 'อบรมเยาวชนก้าวหน้า' เพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุด

'อ.หริรักษ์' อบรม 'ด้อมส้ม' บุก'ตลาดเสรี2' ละเมิดสิทธิ์ผู้อื่นอย่างชัดแจ้ง ชี้เยาวชน3นิ้วล้วนมีพฤติกรรมแบบนี้ เชื่อทำเป็นขบวนการมานาน จับตาหลักสูตร อบรมเยาวชนก้าวหน้า การสร้างความเกลียดชังสถาบันกษัตริย์ แก้ม.112 เป็นเพียงจุดเริ่มต้น พวกเขามุ่งมั่นเพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุด

4ส.ค.2566-รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล ม.ธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า

เมื่อวานเห็นข่าวด้อมส้มที่มีทั้งหญิงทั้งชายกลุ่มหนึ่ง ดูแล้วหน้าตาคุ้นๆ ล้วนยังเป็นเยาวชน ไปที่ตลาดเสรี 2 ซึ่งเป็นของคุณเสรี สุวรรณภานนนท์ นำใบปลิวซึ่งมึข้อความว่าเป็นประกาศจับและมีรูปของ สว.หลายคนที่ไม่ลงมติให้ความเห็นชอบ หรือลงมติไม่เห็นชอบให้คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ไปติดตามที่ต่างๆในตลาด สีหน้าท่าทางแต่ละคนแสดงว่า มีความเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ตัวเองทำเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ทั้งที่เป็นการละเมิดสิทธิ์ผู้อื่นอย่างชัดแจ้ง

นี่คือสิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ที่เยาวชนที่จะเป็นอนาคตของชาติมีทัศนคติ มีความเชื่อว่าการกระทำเช่นนี้เป็นเสรีภาพที่ต้องกระทำได้ ลองมองย้อนไปในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เยาวชนที่เป็นสาวกของลัทธิ 3 นิ้ว ล้วนมีพฤติกรรมและความเชื่อแบบนี้ ที่หนักหนาสาหัสคือมีผู้ใหญ่ที่เป็นนักวิชาการบางคนให้ความเห็นที่ผิดเพี้ยน เช่น การที่ม็อบเผาทรัพย์สินสาธารณะไม่ใช่ความรุนแรง แต่เป็นการแสดงออกเชิงสัญญลักษณ์เท่านั้น ผู้นำลัทธิ 3 นิ้วบางคนแสดงความเห็นว่า การเผาพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีความผิดเพียงเป็นการเผาทรัพย์เท่านั้น เป็นต้น

ไม่เคยมียุคใดที่คนในสังคมไทยมีความคิดและตรรกะที่ผิดเพี้ยนเช่นนี้ เรื่องนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นจากความบังเอิญ แต่เกิดจากการวางแผนและมีการดำเนินการมากันเวลานาน เริ่มจากการแทรกซึมในมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาต่างๆ โดยอาศัยแนวร่วมที่เป็นนักวิขาการในมหาวิทยาลัยต่างๆ และแทรกซึมเข้าไปในองค์กรนิสิตนักศึกษาต่างๆ อบรมบ่มเพาะด้วยการใส่ชุดความคิดที่พวกเขาต้องการ ต่อมาจึงลงไปแทรกซึมถึงระดับโรงเรียน ทำกันมานานจนกระทั่งมีหลายคนที่เกิดจากการบ่มเพาะแบบนี้ได้เข้าไปเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยต่างๆและเป็นแนวร่วมอย่างแข็งขัน

เมื่อมี social media การปั่นและบ่มเพาะความคิดแบบนี้ยิ่งทำได้สะดวกและเกิดผลเป็นวงกว้างมากขึ้น บรรดาแกนนำม็อบ 3 นิ้ว และม็อบกลุ่มต่างๆที่เกิดขึ้นในระยะ 3-4 ปีที่ผ่านมา ส.ส.บางคน รวมทั้งเยาวชนอย่าง หยก ก็น่าจะเป็นผลผลิตของขบวนการนี้

2-3 วันมานี้เห็นโปสเตอร์โฆษนาาหลักสูตรอบรมเยาวชนก้าวหน้า ของ Progressive Academy รับผู้เข้ารับการอบรมอายุ 15-25 ปี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ใช้เวลาอบรมถึง 62 ชั่วโมง มีการบรรยาย กิจกรรมกระตุ้นการเรียนรู้ กิจกรรมเชิงปฏิบัติการ ทัษศนศึกษา และการค้นคว้าอิสระ ซึ่งทำกันมา 2 รุ่นแล้ว ดูรายชื่อวิทยากรแล้วส่วนใหญ่มีทัศนคติคล้ายๆกันต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และก็พอจะคาดเดาได้ว่า หลักสูตรนี้ต้องการใส่ความคิดแบบใดให้กับเยาวชนที่เข้ารับการอบรม นี่น่าจะเป็นเรื่องใหม่ ที่ขบวนการนี้ไม่เพียงใช้วิธีแทรกซีมอยู่ในมหาวิทยาลัย และสถาบันการศีกษาเท่านั้น แต่เปิดการอบรมกันตรงๆอย่างเปิดเผยไปเลย

การที่มีผู้ทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และถูกดำเนินคดีเป็นจำนวนมากอย่างไม่เคยมีมาก่อน ในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา เป็นเพราะผลผลิตที่มาจากขบวนการนี้ สังเกตว่าเริ่มมีตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยุบพรรค และมากขึ้นเรื่อยๆตลอดมาจนถึงปัจจุบัน พวกเขาอ้างว่ามาตรา 112 ถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อกลั่นแกล้งต่อผู้เห็นต่างทางการเมือง ดังนั้นต้องยกเลิกมาตรา 112 และเมื่อถูกแรงต้านมากขึ้นก็เปลี่ยนมาเป็นแก้ไข โดยนำออกจากหมวดความมั่นคง ซึ่งเท่ากับเป็นการบอกว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ไม่มีความเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ และลดโทษให้ต่ำลงเท่ากับการหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดา และมีเงื่อนไขที่ไม่ต้องถูกลงโทษหากทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ หรือสิ่งที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นความจริง

การสร้างความเกลียดชังต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และความพยายามในการแก้มาตรา 112 เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของขบวนการนี้ เป้าหมายสุดท้ายของพวกเขาคือพยายามทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ไม่เป็นที่ต้องการของคนส่วนใหญ่ ทำให้อ่อนแอลง ถ้ายังจำเป็นต้องคงอยู่ก็ให้คงอยู่อย่างไม่มีบทบาทใดๆ เป้าหมายสูงสุดก็คือการเปลี่ยนประเทศให้เป็นไปอย่างที่พวกเขาต้องการ

การจัดหลักสูตรอบรมเยาวชนก้าวหน้า แสดงว่าขบวนการนี้ยังดำเนินต่อไป ไม่ว่าพวกเขาจะมีอำนาจรัฐอยู่ในมือหรือไม่ แม้ว่าจะเป็นการสร้างความขัดแย้งอย่างไร ครอบครัว ญาติพี่น้องแตกแยกกันอย่างไร ล้วนไม่นำพา พวกเขายังมุ่งมั่นดำเนินการต่อไป จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายสูงสุดที่ต้องการ

น่าสนใจว่า รัฐบาลใหม่ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ จะยอมรับหรือไม่ว่ามีขบวนการนี้อยู่ ถ้ายอมรับจะมีแนวทางจัดการกับขบวนการนี้หรือไม่อย่างไร จะจัดการได้ดีกว่ารัฐบาลพลเอก ประยุทธ์หรือไม่ หรือเพียงขอให้ได้เป็นรัฐบาลเป็นพอ ทั้งหมดได้แต่ปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นักวิชาการ' วิเคราะห์ผลการเลือกสว.จะเป็นผลดีต่อประเทศชาติ มากกว่าเป็นผลเสีย

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า

เอวัง 'เอกชัย' ยอมรับ เห็นสัดส่วน สว.คงยากที่จะแตะ ม.112 แก้รธน.

นายเอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ผู้ต้องหาในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 110 “ร่วมกันพยายามกระทำการประทุษร้ายต่อเสรีภาพของพระราชินี” จากกรณีถูกกล่าวหาขัดขวางขบวนเสด็จของสมเด็จพระราชินีและสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าทีปังกร บนถนนพิษณุโลก ขณะร่วมการชุมนุมเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 63 โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า

'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' ซัดรัฐบาลไร้ผลงาน เศรษฐกิจทรุด ฝ่ายค้านสนใจแต่จะแก้และนิรโทษ112

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า

ปูดวาระซ่อนเร้น! เหตุดึงดัน 'แจกเงินดิจิทัล'

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ได้คุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินคนหนึ่ง ซึ่งได้เคยดำเนินการออกหุ้นกู้ให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่