'อดุลย์' หนุนสลายขั้ว สลายเสื้อสี จัดตั้งรัฐบาลช่วยชาติ

“อดุลย์”หนุนสลายขั้ว สลายเสื้อสี จัดตั้งรัฐบาลช่วยชาติตามข้อเสนอ 5 ข้อ หวั่นยังแบ่ง2ขั้วเหมือนเดิมความขัดแย้งไม่ยุติ “ทักษิณ”กลับบ้านเป็นสิทธิของคนไทยทุกคน แต่ต้องเคารพกฎหมายไทยและเสียสละก่อน แนะรัฐบาลชุดใหม่ออกกฎหมายนิรโทษกรรมคดีการเมืองให้เกิดความปรองดอง จึงขอพระราชทานภัยโทษ เตือนอย่ามีวาระซ่อนเร้น จะเกิดวิกฤตอีก

30 ก.ค. 2566 – นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 อดีตคณะกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลว่า ที่มีความยุ่งยากในขณะนี้เป็นเพราะรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ.2560 ที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธานคณะกรรมร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งคณะกรรมการญาติวีรชนฯได้คัดค้านและไม่เห็นชอบต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว เพราะนายมีชัย เขียนหมกเม็ดล็อกไว้เพื่อการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหารคสช.ส่งผลจนถึงปัจจุบัน เช่นเดียวกับรัฐธรรมนูญปี 2534 หรือ ฉบับรสช.ที่นายมีชัย เป็นประธานฯ จนนำไปสู่เหตุการณ์พฤษภา’35 หลังการเลือกตั้งทั่วไปล่าสุดจึงได้คายพิษสงออกมา แม้พรรคการเมืองที่ชนะเลือกตั้งอันดับหนึ่งรวมเสียงได้มากกว่ากึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร แต่ก็ยังต้องพึ่งเสียงส.ว.อีก แต่อย่างไรก็ตามเมื่อรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้แล้วทุกฝ่ายก็ต้องจำยอมปฏิบัติตาม ซึ่งตามกติกาสากลหากพรรคอันดับหนึ่งจัดตั้งไม่ได้ก็ต้องให้พรรคอันดับสอง หลายประเทศในยุโรป พรรคอันดับหนึ่งจัดไม่ได้ก็กลายไปเป็นฝ่ายค้าน ไม่ใช่ว่าพรรคอันดับหนึ่งต้องได้เป็นรัฐบาลเสมอไป และก็ใช้เวลาเนิ่นนานกว่าเราอีก ดังนั้นทุกฝ่ายต้องเคารพกติกาไม่เช่นนั้นบ้านเมืองก็ไม่สงบสุข

“การจัดตั้งรัฐบาลของไทยในขณะนี้ เมื่อพรรคอันดับหนึ่งคือก้าวไกลจัดตั้งไม่สำเร็จ พรรคอันดับสองคือเพื่อไทย ย่อมมีสิทธิและอำนาจในการจัดตั้งรัฐบาลโดยปราศจากเงื่อนไข หรือ เอ็มโอยูของ 8 พรรคร่วม มิเช่นนั้นก็จะไม่สำเร็จอีก การเชิญพรรคร่วมรัฐบาลเดิมมาหารือก็ปรากฏเงื่อนไขใหม่ที่พรรคเพื่อไทยจะต้องพิจารณาว่าจะตัดสินใจอย่างไร เพราะหากการเมืองยังแบ่ง2ขั้วเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นสูตรใด 8 พรรคร่วม หรือ ขั้วรัฐบาลเดิม เป็นรัฐบาล ก็จะมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเสียประโยชน์ จะไม่ทำให้ประชาชนจากทุกฝ่ายยอมรับได้ แต่ต้องจำยอมเพราะไม่มีทางเลือก ความขัดแย้งก็จะยังไม่ยุติ เพราะจะมีอีกฝ่ายต่อต้านอีก แล้วบ้านเมืองจะสงบได้อย่างไร ดังนั้นการตั้งโจทก์สลับขั้วจึงไม่ถูกต้อง แต่ต้อง “สลายขั้ว” ถึงเวลาต้อง “สลายเสื้อสี” เพื่อให้มีรัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากทุกฝ่าย แล้วก้าวข้ามความขัดแย้ง สร้างความรักความสามัคคีของคนในชาติ ให้อภัย อโหสิกรรมต่อกัน ตามที่ครอบครัวญาติวีรชนฯ ให้อโหสิกรรม พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกฯในเหตุการณ์พฤษภา’35 ก็จะได้รัฐบาลช่วยชาติตามที่ญาติวีรชนฯคิดจนตกผลึกและได้เสนอมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องเป็นแนวทางที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ ทั้งนี้ขอถามประชาชนด้วยว่ามีแนวไหนที่ดีกว่านี้เพื่อออกจากความขัดแย้งที่ประชาชนทุกฝ่ายเสียประโยชน์หมด เพราะถูกทำให้เลือกข้างตลอด จึงหมดเวลาเลือกข้างแล้ว ”

นายอดุลย์ กล่าวว่า สำหรับรัฐบาลช่วยชาติมีแนวทางดังนี้ 1.ดึงบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถจากทุกพรรคการเมืองมาร่วมรัฐบาลโดยไม่ยึดโควตา รวมทั้งนโยบายที่มีประโยชน์ต่อประเทศชาติจากทุกพรรคมาใช้เป็นนโยบายรัฐบาล 2. ออกกฎหมายแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองตามที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอไว้ ซึ่งนพ.ระวี มาศฉมาดล อดีตส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ได้เสนอร่างพระราชบัญญัติสร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ.… ต่อสภาผู้แทนราษฎรไว้แล้ว 3.คดีเกี่ยวกับมาตรา 112 ทรงเป็นพระราชอำนาจซึ่งผู้ใดจะละเมิดมิได้ ด้วยพระเมตตากรุณาของพ่อหลวงเป็นที่รู้กันประจักษ์โดยทั่วไป 4.ปฏิรูปประเทศเชิงโครงสร้างทุกด้าน เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ และวางรากฐานประเทศให้ก้าวหน้าทันสมัย 5. ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นประชาธิปไตยให้เป็นที่ยอมรับทุกฝ่าย ภายใน2ปี คืนอำนาจให้ประชาชน ด้วยการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ โดยรัฐบาลชุดใหม่ต้องดำเนินการตาม 5 ข้อดังกล่าวทันที

ประธานญาติวีรชนฯ กล่าวถึงกรณีอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร จะกลับประเทศไทย ว่า เป็นสิทธิของคนไทยทุกคนที่จะกลับบ้านเกิดเมืองนอน แต่เมื่อมีคดีติดตัว ก็ต้องแสดงความเคารพต่อกฎหมายไทย ภายใต้พระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายในการปกครองประเทศ สำหรับการจะขอพระราชทานอภัยโทษเป็นสิทธิของประชาชนทุกคนอยู่แล้ว แต่ขอย้ำว่าต้องเคารพกฎหมายไทย แสดงถึงความจงรักภักดีให้เป็นที่ประจักษ์ พระเมตตานี้ประชาชนธรรมดาก็ได้รับอย่างเสมอภาคกันอยู่แล้ว ไม่มีใครได้สิทธิพิเศษ แต่เนื่องจากสังคมไทยมีความขัดแย้งในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา มีประชาชนถูกดำเนินคดีทางการเมืองจำนวนมาก จึงต้องมีการนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองก่อน

“โดยรัฐบาลชุดใหม่ต้องออกกฎหมายยกเลิกคดีทางการเมืองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนเสื้อเหลือง เสื้อแดง รวมทั้งคดีของคนรุ่นใหม่หรือกลุ่ม3นิ้วที่ถูกคดีทางการเมืองจำนวนมากในปัจจุบันนี้ ตามร่างพรบ.สร้างเสริมสังคมสันติสุขฯ เมื่อทุกฝ่ายพ้นจากทุกข์เข็ญ บรรยากาศของการเมืองก็เกิดความสามัคคี ปรองดอง สมานฉันท์ อดีตนายกฯทักษิณ จึงค่อยขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งท่านต้องรู้จักการให้และเสียสละก่อนแล้วจะได้รับการให้อภัย อโหสิจากทุกฝ่าย เพราะมีประชาขนกว่าครึ่งประเทศที่ไม่เห็นด้วยกับท่าน ซึ่งจะเอาประโยชน์แต่ฝ่ายเดียวไม่ได้ ต้องทำให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์และเห็นพ้องต้องกัน และขอเตือนว่าอย่ามีวาระซ่อนเร้น ด้วยการใช้เสียงประชาชนหรืออำนาจใดๆ ไปกดดันกระบวนการยุติธรรมเหมือนที่ผ่านมา เพราะจะเกิดความขัดแย้งและวิกฤตรอบใหม่ซ้ำอีก”นายอดุลย์ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อดุลย์' แนะ 'อุ๊งอิ๊ง' แสดงภาวะผู้นำด้วยตนเอง อย่าปล่อยให้คนครอบงำ

“อดุลย์” แนะนายกฯแพทองธาร แสดงภาวะผู้นำด้วยตนเองอย่าเป็นรัฐบาลเปลือกหอยมีคนคอยครอบงำบงการ จี้ลดราคาพลังงานหยุดปล้นเงินปชช. ลดส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยธนาคาร ทบทวนต่างชาติเช่าที่ดิน99ปี กาสิโนถูกฎหมายไม่เหมาะกับสังคมไทย อย่าให้มีการคอร์รัปชันเชิงนโยบาย หนุนแจกเงินสด1หมื่นเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เร่งนิรโทษกรรมคดีการเมือง

‘อดุลย์’ ชี้กลุ่มการเมืองกับทุนพลังงาน ร่วมกันปล้นเงินจากกระเป๋าประชาชน

‘อดุลย์’ชำแหละ ราคาไฟฟ้าแพงเพราะการสมคบคิดของกลุ่มทุนพลังงานกับการเมืองปล้นเงินจากกระเป๋าประชาชน ด้วยการผลิตล้นเกินไม่ใช้ก็ต้องจ่าย หนุน”พีระพันธุ์”รื้อโครงสร้าง ยกเลิกสัมปทานที่ไม่ชอบธรรม เร่งขุดทรัพยากรทางทะเลที่อ้างพื้นที่ทับซ้อน ซื้อพลังงานจากรัสเซีย เตือนรัฐบาล ระวังประชาชนจะหมดความอดทน

'อดุลย์' ร่อนจดหมายเปิดผนึกเฉ่ง 'เพื่อไทย' เตะถ่วงนิรโทษกรรมคดีการเมือง

“อดุลย์”ร่อนจดหมายเปิดผนึกเฉ่ง”พรรคเพื่อไทย”เตะถ่วงนิรโทษกรรมคดีการเมืองเอาประชาชนทุกเสื้อสีเป็นตัวประกันกระตุก”ทักษิณ” ต้องมีสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณช่วยทำให้บ้านเมืองเกิดสันติสุข อย่าเอาแต่ประโยชน์ของตัวเอง แล้วทิ้งประชาชนที่เคยช่วยเรียกร้องต่อสู้ให้กับตัวเอง จี้นายกฯเร่งออกพรก.นิรโทษกรรม เพื่อให้สังคมเกิดความปรองดองโดยเร็ว

ปธ.ญาติวีรชนฯ ยื่น 'วันนอร์' เร่งดันพรบ.นิรโทษกรรม จี้กมธ.ทำให้เร็วที่สุดอย่ายื้อเวลา

นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนฯ เดินทางเข้าพบ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อยื่นหนังสือผลักดันการออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม

ประธานญาติวีรชนหนุนการจัดตั้งรัฐบาลสลายขั้ว

“อดุลย์”หนุนการจัดตั้งรัฐบาล สลายขั้วสร้างความสามัคคีปรองดอง วอนพวกสุดโต่งทั้ง 2 ฝ่ายรู้จักปล่อยวาง ยอมรับความจริง ชี้การจัดตั้งรัฐบาลกลัดกระดุมเม็ดแรกผิดและตั้งโจทย์ผิดตั้งแต่แรก ย้ำต้องมีรัฐบาลช่วยชาติโดยเร็ว เพื่อเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ทุกฝ่ายต้องได้ประโยชน์ ประเทศชาติจึงจะเดินหน้าไปได้

'อดุลย์' หวั่นนองเลือดเสนอไอเดียตั้ง 'รัฐบาลช่วยชาติ' ดัน 'ประวิตร' เป็นนายกฯ

“อดุลย์”หวั่นการจัดตั้งรัฐบาลนำไปสู่ความขัดแย้งนองเลือด แนะทุกฝ่ายมองโลกบนความเป็นจริงพรรคอันดับหนึ่งตั้งไม่ได้ก็ต้องให้พรรคอันสองเป็นแกนนำ ถึงเวลารอมชอมสามัคคี นำนโยบายที่เหมาะสมและบุคคลทีมีความสามารถจากทุกพรรคร่วมกันจัดตั้ง “รัฐบาลช่วยชาติ” ดัน “ประวิตร”เป็นนายกฯ แล้วออกกฎหมายเพื่อความสมานฉันท์ นิรโทษกรรมคดีการเมือง ปฏิรูปประเทศทุกด้าน 2ปี ยุบสภา เตือน “ก้าวไกล” อย่าหักด้ามพร้าด้วยเข่า”กลุ่มอนุรักษ์นิยม”ต้องปรับตัว