ม็อบด้อมส้ม "ธรรมศาสตร์จะไม่ทน" ชุมนุมทวงคืนอำนาจประชาชน ถล่มศาลรัฐธรรมนูญ-ส.ว. เฮลั่นไฟจุดติดแล้วเรียกร้องมวลชนลงถนนต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย พร้อมเป่าเค้กอวยพรวันเกิดทักษิณ
26 ก.ค.2566 - เวลา 17.00 น. ที่ลานสัญญาธรรมศักดิ์ (หน้าคณะนิติศาสตร์) มหาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นัดทำกิจกรรม“#ธรรมศาสตร์จะไม่ทน” ทวงคืนอำนาจให้แก่ประชาชนแสดงจุดยืนต่อ 8 พรรคประชาธิปไตย และไม่เอา ส.ว.
โดยกิจกรรมการชุมนุมวันนี้เริ่มต้นขึ้น ได้มีนักศึกษาชุมนุมวรรณศิลป์ ม.ธรรมศาสตร์ ขึ้นอ่านบทกวีเรียกร้องให้ประชาชนลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ต่อด้วยนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ม.กรุงเทพฯ ขึ้นปราศรัยถึงบทบาทของศาลรัฐธรรมนูญที่เป็นลิ่วล้อของเผด็จการ ในฐานะนักกฎหมายคนรุ่นใหม่ขอทวงคืนศักดิ์ศรีนิติศาสตร์ ทวงคืนศักดิ์ศรีนักกฎหมาย และจะไม่ยอมให้เกิดขึ้น โดยให้ศาลรัฐธรรมนูญที่มาจากทหารให้จบที่รุ่นเรา พร้อมกันนี้ยังสื่อสารไปยังศาลรัฐธรรมนูญที่จะวินิจฉัยกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งเรื่องการวินิจฉัยโหวตนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้อีก โอกาสสุดท้ายถ้าตัดสินพลาดแม้แต่นิดเดียวให้เตรียมรับคำพิพากษาของประชาชนได้เลย ถ้าขืนยังทำตัวแบบนี้อย่าเรียกตัวเองว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญให้เรียกตัวเองว่า “ตุลากาลี”
นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ม.กรุงเทพฯ ยังย้ำว่าในฐานะนักศึกษานิติศาสตร์รู้สึกอับอายผู้ใหญ่เป็นลิ่วล้อเผด็จการ ขอสั่งสอนนักกฎหมายเหล่านั้นว่าอำนาจอธิปไตยสูงสุดเป็นของประชาชน ขณะที่ผู้ปราศรัยที่ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาได้สลับสับเปลี่ยนกันขึ้นเวทีปราศรัย โจมตีการทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญและ ส.ว. โดยเฉพาะแกนนำพรรคโดมปฏิวัติ ม.ธรรมศาสตร์ เรียกร้องถึงเวลาลงถนนปฏิวัติด้วยสองมือสองเท้า พร้อมระบุว่าไฟได้จุดติดแล้ว หลายที่มีการจัดชุมนุมทั้งอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หอศิลป์กรุงเทพ ม.เกษตรศาสตร์ กระทั่ง ม.ธรรมศาสตร์และมหาลัยทั่วประเทศ พร้อมกับเรียกร้องให้ 8 พรรคการเมืองที่รวมลงนามเอ็มโอยูให้จับมือกันไว้อย่าหักหลังประชาชน หากเกิดอะไรขึ้น นักศึกษาจะออกมายืนยันหลักการ จะออกมาเรียกร้อง จะออกมาเคียงบ่าเคียงไหล่ประชาชน จะลงท้องถนน 10 เดือนจะไม่รอไล่ ส.ว.เท่านั้น
แกนนำปราศรัยอีกคนคือ เบญจา อะปัญ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้ขึ้นปราศรัยบนเวทีช่วงหนึ่งว่า เลือกตั้งกันมาคาดหวังว่าจะได้รัฐบาลประชาธิปไตยแต่ 312 เสียง ทำไมน้อยกว่า 188 เสียง ชนะการเลือกตั้งแต่มาสามถจัดตั้งรัฐบาลได้เพราะ ส.ว. แต่ก็จะสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไป อย่าพึ่งหมดหวัง ขอบคุณที่ธรรมศาสตร์จุดติดอีกครั้ง นี้คือดีเอ็นเอของธรรมศาสตร์
ต่อด้วย “บิ๊ก” เกียรติชัย ตั้งภรณ์พรรณ สมาชิกกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ผู้ต้องหาคดี 112 ปราศรัยตอนหนึ่งถึง ส.ว.ที่ไม่โหวตให้นายพิธา เป็นนายกฯ อ้างว่าเป็นการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นการปกป้องสถาบันจริงหรือ ได้แต่สงสัยว่าทำเรื่องไม่ดีแต่เอาสถาบันมาเป็นข้ออ้างหรือไม่ พวกนี้ทำอะไรไม่เป็นนอกจากโหน จึงเรียกระบอบบนี้ว่าเรากำลังอยู่ในระบบประชาธิปไตยที่มีขุนศึกและศักดิ์นาคอยเหยียบหัวประชาชนอยู่ เป็นการกระทำให้สถาบันฯกระทบกับประชาชนโดยตรงยืนยันว่าไม่ใช่การปกป้องสถาบันฯแน่นอน ที่ฟ้องมาตรา 112 ไปทั่วทำเพื่อสถาบันกษัตริย์หรือเพื่อปกป้องตัวเอง
ฝากไปถึงฝ่ายการเมืองประชาธิปไตย จับมือกันให้แน่นพวกคุณจะก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงเพื่อประชาธิปไตย ถ้าเพื่อไทยนำพรรคอนุรักษ์นิยมเข้ามาจัดตั้งรัฐบาล พรรคเพื่อไทยก็เป็นแค่นั่งร้านให้พรรคเผด็จการ ถ้าไม่รักษาสัญญาประชาชนจะไม่เป็นที่พึ่งให้อีก ยังเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่ตระบัดสัตย์ประชาชน อีกอย่างฝากไปถึงมวลชนถึงแม้ว่าตอนนี้ดูแทบจะไม่มีหวัง แต่การรวมตัวของเรามีความหมาย เพราะการชุมนุมปี 63 ทำให้ผลการเลือกตั้งมีวันนี้ ให้ทั้ง 2 พรรคเดินไปพร้อมกัน การเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยที่แข็งแกร่งต้องมีพรรคการเมืองที่เข้มแข็ง มีมวลชนส่งเสริมอย่างสม่ำเสมอ เราไม่ได้สู้แค่ในโซเชียล สู้ในสนามเลือกตั้ง แต่ต้องออกมาสู้บนท้องถนนด้วยให้ทุกคนออกมาเยอะ ขอเตือนไปยังฝ่ายที่ถืออำนาจ หากยังฝืนการเปลี่ยนแปลงระบบของคุณจะล้มลง และล้มแรงกว่าที่คาดคิด หากไม่ยอมฟังเสียงประชาชนระบบผู้ถืออำนาจจะไม่เหลือกอีกต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งระหว่างปราศรัยกันแกนนำได้มีการร้องเพลงและเป่าเค้กอวยพรวันคล้ายวันเกิด 74 ปี อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นักวิชาการมธ. เตือน 'รถบัส 2 ชั้น' วิ่งระยะไกลเสี่ยงอุบัติเหตุกว่ารถชั้นเดียว 7 เท่า
นักวิชาการธรรมศาสตร์ ชี้ รถบัส 2 ชั้น เสี่ยงอุบัติเหตุกว่ารถชั้นเดียวถึง 7 เท่า เสี่ยงตายมากกว่า 10 เท่า จึงไม่เหมาะสมวิ่งทางไกล-ทางคดเคี้ยว-ลาดชัน เหตุผู้โดยสารอยู่ข้างบน ส่งผลให้ ‘จุดศูนย์ถ่วง’ ไม่สมดุล ระบุ ต่างประเทศใช้แค่เป็นรถชมเมืองเท่านั้น เสนอแก้ปัญหาเบื้องต้น กำหนดโซนให้รถ 2 ชั้น วิ่งได้จำกัด
ฝ่ายค้านยกระดับซักฟอก! เปิดปฏิบัติการขึงพืด 'แพทองธาร' กลางสภา
ศึกซักฟอกที่จะเริ่มขึ้นใน วันที่ 24 มีนาคมนี้ กำลังเป็นที่จับตามองจากทุกฝ่าย หลังจากที่พรรคประชาชน ในฐานะแกนนำฝ่ายค้านได้ตัดสินใจ “เปลี่ยนเกม” จากการหว่านแหอภิปรายรัฐมนตรีหลายกระทรวง มาเป็นการเปิดปฏิบัติการ “ขึงพืด” นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร กลางสภา
'จตุพร' ซัด 'ผู้นำปากพล่อย' ถามศาล รธน.ส่งเดชแค่เกมซื้อเวลา
'จตุพร' เชื่อสถานการณ์บีบรัดผู้นำปากพล่อยรับปากส่งเดชไว้แล้วทำไม่ได้ จึงหาเหตุมาอ้าง งงนายกฯ อิ๊งเข้าใจอะไรผิดหรือไม่? ดึงสติบอก ศาล รธน.ไม่ใช่ที่ปรึกษา กม.รัฐบาลนะ ถามไปคงไม่มีคำตอบให้
ล็อกเป้าซักฟอกนายกฯ อิ๊งค์ ขยี้จุดตาย ทักษิณชั้น 14
ดีเดย์วันนี้ 27 ก.พ. ที่ ‘พรรคฝ่ายค้าน’ จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151
ดร.ณัฏฐ์ ชี้ชัดศาลรธน.ไม่มีหน้าที่ให้คำปรึกษา-ให้ความเห็นทางกฎหมาย
ที่อาคารรัฐสภาดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม หรือ “ดร.ณัฏฐ์” นักกฎหมายมหาชน กล่าวว่ากรณีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้
พายุเงียบในพรรคร่วม-ไปไกลสุดแค่ 'ปรับครม.' จับตาคลื่นลมภายนอกก่อตัว!
การเมืองในพรรคร่วมรัฐบาลดูเหมือนจะเข้าสู่ภาวะ “สงบศึก” เมื่อแกนนำพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยต่างออกมายืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่มีความขัดแย้ง และรัฐบาลจะเดินหน้าไปตลอดวาระ 4 ปี ตามโรดแมปที่วางไว้