2 นักวิชาการอิสระ ยื่นผู้ตรวจการฯ ส่งศาล รธน. ตีความมติรัฐสภาห้ามเสนอชื่อพิธาซ้ำ

2 นักวิชาการอิสระ ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งศาลรธน.วินิจฉัย มติรัฐสภาห้ามเสนอชื่อ "พิธา"ซ้ำขัดรธน. พร้อมจี้ชงสั่งระงับการเลือกนายก ด้านเลขาผู้ตรวจเผยจะเร่งเสนอพิจารณาโดยเร็ว ปัดตอบวินิจฉัยทันก่อนนัดโหวต 27ก.ค.หรือไม่
 
21ก.ค.2566 - นายพรชัย เทพปัญญา นักวิชาการอิสระ พร้อมนายบุญส่ง ชเลธร  อาจารย์คณะนวัตกรรมสังคมมหาวิทยาลัยรังสิต ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 213เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินผ่าน พ.ต.ท.กีรป กฤตธีรานนท์ เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้เสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การที่ที่ประชุมรัฐสภาวันที่19ก.ค.มีมติว่าการเสนอชื่อนายพิธา  ลิ้มเจริญรัตน์เพื่อให้สมาชิกรัฐสภาโหวตลงมามติเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นการเสนอญัตติซ้ำขัดกับข้อบังคับการประชุมรัฐสภา 2563 ข้อที่ 41นั้นเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายพรชัย  กล่าวว่า กรณีดังกล่าวตนถือว่าเป็นผู้ที่ถูกกระทบสิทธิโดยตรงเพราะเป็นผู้ที่ไปเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค.และเลือกส.ส.ทั้งแบบบัญชีรายชื่อและแบบแบ่งเขตของพรรคก้าวไกล ซึ่งตามหลักการของระบอบประชาธิปไตยผู้ที่ได้คะแนนเสียงมากที่สุดจะสามารถเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลได้ 
 
แต่เมื่อมีการประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 13 ก.ค แล้วนายพิธาไม่ได้รับเลือก และเมื่อนัดลงมติใหม่ในวันที่ 19ก.ค.กลับถูกขัดขวางโดยอ้างข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อ 41โดยอ้างว่าเป็นการเสนอญัตติซ้ำ  ซึ่งตนมองว่ารัฐธรรมนูญกำหนดการเลือกนายกรัฐมนตรีไว้เป็นการเฉพาะตามรัฐธรรมนูญมาตรา 159 ประกอบมาตรา 272  ตราบใดที่กระบวนการเลือกเลือกนายกฯยังไม่เสร็จสิ้น ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีย่อมสามารถถูกเสนอชื่อได้เรื่อยๆ มติดังกล่าวจึงเท่ากับรัฐธรรมนูญถูกละเมิดโดยข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อ41หรือไม่  จึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และถ้าศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องไว้พิจารณาแล้วขอให้มีคำสั่งให้ที่ประชุมรัฐสภายุติการเลือกนายกรัฐมนตรีไว้ก่อนจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย
 
ทั้งนี้นายพรชัย ยังเห็นว่า ในหลักการแล้วมติของที่ประชุมรัฐสภาวันที่ 19 ก.ค. ยังจะมีผลกระทบถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของทุกพรรคนับจากนี้ เพราะแคนดิเนตนายกได้รับการเสนอชื่อจะได้รับการโหวตเพียงครั้งเดียว หากไม่ผ่าน พรรคการเมืองนั้นก็จะไม่สามารถเสนอชื่อให้สมาชิกรัฐสภาโหวตได้อีก 
 
 ด้านนายบุญส่ง กล่าวว่า การยื่นเรื่องครั้งนี้ไม่ได้ เราไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแต่เห็นว่าบ้านเมืองต้องมีกฎกติกาที่ชัดเจน ซึ่งมติที่ประชุมรัฐสภาวันที่ 19 ก.ค.ยังมีข้อถกเถียงจากหลายฝ่าย หากไม่ทำให้เกิดความชัดเจนในอนาคตก็จะมีการตีความที่แตกต่างกันไปทำให้เกิดความเสียหายกับบ้านเมืองได้ จึงอยากให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้วินิจฉัยโดยเร็ว
 
 
ด้านพ.ต.ท.กีรป กล่าวว่า เรื่องนี้จากหารือเบื้องต้นในส่วนของข้อเท็จจริงคือการลงมติของสมาชิกรัฐสภาในวันที่ 19 ก.ค มีข้อมูลครบถ้วนอยู่แล้ว เหลือก็เพียงในส่วนของข้อกฎหมายที่จะต้องพิจารณาโดยเฉพาะตามมาตรา 46 ประกอบมาตรา 48 ของพ.ร ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเรื่องนี้เป็นการกระทำ เป็นการลงมติของสมาชิกรัฐสภาซึ่งต้องพิจารณาว่าเป็นการกระทำขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ และประเด็นที่สำคัญของการจัดส่งให้ศาลรัฐธรรมนูวินิจฉัยก็คือความเป็นผู้เสียหายซึ่งตามกฎหมายของศาลกำหนดว่า  บุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพโดยตรงและได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายหรืออาจจะเดือดร้อนเสียหายโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้อันเมื่อมาจากการถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพนั้นย่อมมีสิทธิ์ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยได้โดยผ่านกลไกของผู้ตรวจการแผ่นดินซึ่งจะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 60 วันแต่ถ้าเลยกรอบเวลาดังกล่าวผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิ์ก็สามารถยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ อย่างไรก็ตามทราบดีว่าเรื่องนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน  และประธานรัฐสภามีการนัดหมายเรื่องการโหวตนายกรัฐมนตรีแล้วทางสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินก็จะพยายามพิจารณาให้เร็วที่สุด 
 
เมื่อถามย้ำว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ทางผู้ตรวจการแผ่นดินจะมีคำวินิจฉัยเรื่องนี้ก่อนวันที่ 27 ก.ค.ที่ประธานรัฐสภานัดหมายโหวตนายกรัฐมนตรีรอบ 3 เลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดินระบุเพียงว่า เจ้าหน้าที่จะเร่งสรุปเรื่อง และนำเสนอที่ชมพู่ตรวจการพิจารณาโดยเร็ว
 
อย่างไรก็ตามหลังนายพรชัยได้ฟังการตอบสื่อของเลขาผู้ตรวจการแผ่นดินแล้วนายพรชัยระบุว่าการละเมิดสิทธิ ของตนหมายความว่ากระบวนกาเลือกนายกฯ ยังไม่สิ้นสุด แต่สมาชิกกับนำข้อบังคับการประชุมรัฐสถาข้อที่ 41มาละเมิดสิทธิ์ตนและผู้ที่ลงคะแนนเลือกตั้งทั้งประเทศ ซึ่งถ้าที่สุดแล้วผู้ตรวจการแผ่นดินไม่รับคำร้องนี้ไม่ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตนก็คงไม่ไปต่อ เพราะถือว่าได้ทำหน้าที่ของตนเองเสร็จแล้ว คงจะปล่อยให้พรรคการเมืองอื่นดำเนินการกันไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' อย่าสับสน! โพลวัดผลงาน ไม่ใช่เรตติ้งนายกฯ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าสับสน !!! ระหว่างผลงาน กับการเลือกนายกฯ คนต่อไป

พิธา มั่นใจ ก้าวไกล ไม่ถูกยุบ แต่เตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์

'พิธา' มองบวก 'ก้าวไกล' ยังมีโอกาสรอดสูง พร้อมเตรียมแผนรับรองทุกกรณี ลั่น ถึงไม่สมบูรณ์แบบ แต่การมีอยู่ของพวกผม จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศมากกว่า

'พิธา' เดินสายมู จ.เชียงใหม่

'พิธา' เดินสายมู ร่วมพิธีสงสนาน อาบน้ำนมพระพิฆเณศ-เวียนเทียนวัดศรีสุพรรณ เจ้าอาวาสมอบองค์พระให้ แต่ก็ต้องคืน เหตุมูลค่าเกิน 3,000 บาท พร้อมพบปะประชาชนถนนวัวลาย ป้าวัย 71 วิ่งโผกอด ร้องโอ้ยชื่นใจ ถ้าไม่มีเกมสกปรก ได้เป็นนายกฯไปแล้ว

'ก้าวไกล' เปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ. 'พิธา' อ้อนพี่น้องชาวลำพูนเชื่อในประชาธิปไตย

ก้าวไกลจัดสภากาแฟที่ลำพูน แลกเปลี่ยนปัญหาภาคเอกชน 'พิธา' ชี้เศรษฐกิจภาคเหนือมีแรงเฉื่อยลักษณะพิเศษโตช้า

อึ้ง!ปดิพัทธ์บอกยุบ 'ก้าวไกล' แสดงว่าไทยยังไม่เป็นประชาธิปไตยส่งผลสภานานาชาติ

'ปดิพัทธ์' ยอมรับมีชื่อเป็น กก.บห.ก้าวไกล เสี่ยงพ้น สส. หากพรรคถูกยุบจริง แต่เชื่อมั่นว่าการสู้คดีมีน้ำหนัก ไม่เสียดายตำแหน่งรองประธานสภา ชี้งานที่หาเสียงไว้ทำได้หมดแล้ว