พุทธะอิสระสงสาร 14 ล้านเสียงถูกก้าวไกลสวมเขาเรื่อง 299 นโยบาย

พุทธะอิสระยกทำนายสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์เรื่องถิ่นกาขาวเตือนสติ พร้อมชำแหละพรรคส้ม ชี้ชัดสู้ไปหลอกไป 14 ล้านเสียงถูกสวมเขาเพราะตั้งแต่ได้คะแนนมาไม่เคยเอ่ยถึง 299 นโยบายมุ่งแต่แก้ 112

19 ก.ค.2566 - นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือพุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “แสนเอยแสนสงสาร” ระบุว่า คำทำนายโบราณสมัยต้นยุคกรุงรัตนโกสินทร์ มีอยู่ตอนหนึ่งมีคำว่า ชนร้องทุกข์ ยุคทมิฬ ถิ่นกาขาว ชาวศิวิไลซ์

ด้วยคำทำนายนี้กับสถานการณ์ทางสังคมที่พวกด้อมส้มออกมาสร้างความวุ่นวายทั้งในโลกโซเชียลและโลกเสมือนจริง ทำให้คนที่ไม่คิดหรือคิดน้อยเห็นต่างพากันคิดว่า มันจะเป็นชนร้องทุกข์ ยุคทมิฬ ถิ่นกาขาว ชาวศิวิไลซ์ยังไง เพราะยังมีแต่พวกที่สร้างความวุ่นวายอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง

พุทธะอิสระอยากจะบอกว่า ยิ่งพวกอันธพาลทั้งในโลกโซเชียลและโลกเสมือนจริง ออกมาสร้างปัญหา สร้างความแตกแยก ทำลายความมั่นคงของชาติ ศาสน์ กษัตริย์กันมากเท่าไหร่ ยิ่งเปิดเผยตัวตนแท้ออกมาให้มากเท่ามาก ผู้คนในสังคมก็จักแบ่งแยกได้ชัดเจน ว่ามีใครบ้างมีหน้ามีตา ตัวตนแท้จริงของคนที่เป็นปรปักษ์ต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มันเป็นใครอยู่ที่ใด ขบวนการเก็บกวาดจะได้ทำการกวาดล้างให้สิ้นเสี้ยนหนามของความเจริญศิวิไลซ์ ตามที่มีคำทำนายเสียที

ส่วนที่มีคำทำนายว่า ชนร้องทุกข์นั้นก็มีแต่จะรู้สึกสงสารพวกไร้เดียงสา คิดน้อย เชื่อง่าย มีแต่มิจฉาทิฐิ ที่ถูกหลอก ถูกครอบงำ ให้เชื่อผิดๆ แล้วออกมาทำผิดจนต้องติดคุก ติดตะราง นี่แหละคือคนที่น่าสงสาร จึงอยากจะเตือนลูกไทย หลานไทย ที่เชื่อผิด หลงผิดจนเผลอไผลกระทำผิด พลาดพลั้งไปด้วยความคึกคะนอง ขอวิงวอนให้ดูตัวอย่างพวกพ่อฟ้า ที่ยังจมปลักอยู่ในวังวนของการแก้ข้อกล่าวหาให้แก่ตัวเองในฐานความผิดมาตรา 112 และ 116 ตามมาด้วยพิทาคิโอคุณพ่อส้มก็กำลังเดินตามพ่อฟ้าและพวกตามกันไปติดๆ ในอีกไม่นานในคดีหุ้นสื่อ และล้มล้างการปกครอง

ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้แหละ คนพวกนี้จึงพยายามนักพยายามหนาที่จะขอแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 และกฎหมายอื่นที่พวกตนถูกแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ทั้งที่ตอนคนพวกนี้หาเสียงได้นำเสนอนโยบายดีๆ อยู่หลายนโยบาย จนสร้างความเพ้อฝันให้ทั้งคนแก่และเด็ก ได้เห็นความสุขในความฝัน แต่พอพวกพรรคก้าวไกลเข้ามาจะจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว สิ่งแรกที่พวกเขาทำก็คือช่วยตัวเองให้รอดพ้นจากคดีความต่างๆ ด้วยการยืนยัน นั่งยัน เอาแต่ขอแก้ไขกฎหมาย โดยไม่สนใจ ไม่ให้ความสำคัญต่อความเดือดร้อน ทุกข์ยากของพี่น้องประชาชนที่ลงคะแนนเลือกพวกเขาเข้ามาเลย สังคมจึงได้เห็นภาพว่า ทานอคคิโอและพวกดิ้นรนที่จะพาตัวรอดด้วยการแก้กฎหมาย แก้รัฐธรรมนูญ หากแก้ไม่ได้ก็ยอมไปเป็นฝ่ายค้าน นี่คือคำพูดของปิยบุตร ผู้นำเงาของพรรคก้าวไกล

ถามว่า เรื่องนี้จะพิสูจน์ได้ไงว่าเป็นเรื่องจริง พิสูจน์ได้จากนับตั้งแต่หลังเลือกตั้งเข้ามา พอรู้ว่าตนชนะการเลือกตั้ง พรรคก้าวไกลไม่เคยได้พูดถึง 299 นโยบายที่จะทำให้ประชาชนเลย มีแต่จะพูดแต่การแก้กฎหมาย แก้รัฐธรรมนูญ แก้มาตรา 112 ถามว่าเพราะอะไร ตอบง่ายๆ ก็คือ เพราะมันมีผลต่อสวัสดิภาพของคนที่ต้องคดีความในมาตรา 112 และ 116 โดยตรง ซึ่งส่วนใหญ่แกนนำของพวกด้อมส้มและผู้นำเงาของพรรคก้าวไกลถูกดำเนินคดีอยู่ไงหละ

ฉะนั้น คนที่น่าสงสารที่สุดไม่ใช่พลพรรคก้าวไกล แต่เป็นประชาชน 14 ล้านเสียงที่ถูกหลอกให้มาลงคะแนนให้แก่พวกเขา เช่นนี้ไม่เรียกว่า ช่างน่าสงสาร แล้วจะให้เรียกว่าอะไร อยู่ๆ ก็ให้เขาสวมเขาให้ซะงั้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ก้าวไกลแพ้! ศาลยกฟ้อง 'ณฐพร โตประยูร' แจ้งเท็จ-หมิ่น ล้มล้างการปกครอง

ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.308/2564 ที่พรรคก้าวไกล เป็นโจทก์ฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ,หมิ่นประมาทฯพร้อมเรียกค่าเสียหาย 20,062,475บาท   

รู้ไว้ซะ 'ปิยบุตร' เผย 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน เพราะก้าวไกลชนะเลือกตั้ง!

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอีกครั้ง

'พิธา' เผยไม่ได้เห็นต่าง 'ทักษิณ' เรื่องเปลี่ยนโครงสร้าง เหน็บอย่ามัวแต่พูด ถึงเวลาต้องทำแล้ว

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาคณะก้าวหน้าและอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวระหว่างลงพื้นที่เป็นผู้ช่วยหาเสียงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร