'อานนท์ นำภา' เพ้อหนักถนนทุกสายมุ่งสู่รัฐสภาวันนี้ รอฟังก้าวไกลถกแก้ 112 ก่อนโหวตนายกฯ

13 ก.ค.2566 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่สกายวอล์คแยกปทุมวัน นายอานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และแกนนำกลุ่มราษฎรได้ นัดรวมพลมวลชนเพื่อส่งเสียงถึง กกต.และ สว.หลัง กกต.มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส.ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกฯ กรณีปมถือหุ้นสื่อไอทีวี โดยนายอานนท์ให้ผู้เข้าร่วมเตรียมกระดาษและข้อความมาด้วย

สำหรับบรรยากาศมีมวลชนจำนวนไม่มากนักเข้าร่วมฟังการปราศรัยของแกนนำ จนกระทั่งเวลา 19.45 น. นายอานนท์ ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า วันที่ 13 ก.ค.นี้ ตัวแทนพวกเราจะได้ไปอธิบายมาตรา 112 ในสภาแน่นอน เพราะก่อนโหวตนายกจะมีการอภิปรายถึง 6 ชม.ฝากความหวังไว้กับ สส. 8 พรรคร่วมรัฐบาล ช่วยกันพูดช่วยกันชี้แจงให้เขาร่วมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้โหวตให้กับนายพิธาเป็นนายกฯ ผลการเลือกตั้งก้าวไกลมาเป็นอันดับหนึ่งถึง 43 จังหวัด 14 ล้านเสียง รวมกับพรรคร่วมได้คะแนนถึง 25 ล้านเสียงคิดเป็น 70% เป็นโคตรฉันทามติที่จะให้ฝ่ายประชาธิปไตยได้มาบริหารประเทศ

นายอานนท์ กล่าวต่ออีกว่า คนตื่นจากหลับแล้วไม่ว่าจะเป็นต่างจังหวัด ทุกอาชีพเขาไว้วางใจนักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย พลังประชาชนจะมีพลังอีกครั้ง แต่สมุนเผด็จการเครือข่ายอำนาจเก่าเขาได้สำแดงเดชจึงเป็นที่มาในการนัดเฉพาะกิจ กกต. มีมติส่งคำร้องกรณีหุ้นไอทีวี ซึ่งคนทั้งสังคมรู้แล้วว่ามันเป็นการใส่ร้ายแต่ กกต. ยังยืนยันทำผิดระเบียบตัวเอง ต่อไป กกต. ต้องติดคุกสถานเดียวเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เพราะมันชัดเจน มายื่นคำร้องวันสุดท้ายก่อนโหวตนายกฯอย่าว่าแต่เราเลยสุนัขยังรู้ว่าเขาต้องการอะไร ต้องการจะหยุดหาข้ออ้างให้ ส.ว.แค่นั้น ความคิดเขามีแค่นั้น แต่เขาหารู้ไม่ว่าประชาชนจะไม่ยอม

แต่นั่นแค่ด่านแรกด่านที่สองวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องนโยบายของก้าวไกลที่จะแก้ไข 112 ขัดรัฐธรรมนูญ เป็นการล้มล้างการปกครอง มติของประชาชน 14 ล้านเสียง ขั้นต่ำมีมติยกเลิกแก้ไข 112 แต่เขาไม่ฟังอ้างว่า 14 ล้านเสียงเป็นเสียงส่วนน้อย นอกจากนี้เขายังพยายามจะอ้างว่าคนที่เลือกพรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับการแก้ 112 แต่พวกเราจะไม่หักด้ามพร้าด้วยเข่า เราหวังว่ากฎหมาย 112 การกระจายอำนาจเลือกตั้งผู้ว่าฯ การทำให้กองทัพสมาร์ทดูดีขึ้นมีความฉลาดขึ้น เราจะให้ส.ส. ของเราเข้าไปอภิปรายเสนอกฎหมายในสภา แต่วันนี้เผด็จการอำนาจนิยมชนชั้นนำ คนในสังคมเก่ากำลังปิดตาย โดยเขาจะไม่โหวตรัฐบาลของพรรคร่วม 8 พรรค ไม่สนใจเสียงใดๆ

นายอานนท์ กล่าวต่ออีกว่า ก่อนหน้าเลือกตั้งเสียงโซเชียลอาจมีพลังแต่พวกเขาแกล้งไม่ได้ยิน วันเลือกตั้งเสียงของพวกเราก็อาจมีพลังแต่พวกเขาทำท่าไม่ได้ยิน จึงขอแรงเป็นครั้งสุดท้าย อย่าเพิ่งลางานเพราะท่านจะลาหลายวันใครที่ไม่ได้ทำงานประจำไปร่วมกันได้ในช่วงบ่าย แต่ถ้าเป็นพนักงานบริษัทอย่าเพิ่งลางานเพราะถ้าเราถูกหักหลัง ถูกปิดประตูการได้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมากที่มาจากประชาชน การลุกขึ้นต่อสู้ของประชาชนทั่วประเทศในสัปดาห์ข้างหน้าเกิดขึ้นแน่นอน

เช่นเดียวกันกับผู้นำเหล่าทัพที่ทราบว่าจะไม่เข้าร่วมประชุมเพราะติดธุระ มีอะไรสำคัญมากกว่าการโหวตนายกฯ ถ้าไม่เห็นหน้าในสภา เจอกัน ส.ว.ก็เช่นเดียวกันอย่าคิดว่าประชาชนตามไม่ทัน อย่าแสดงความเป็นกลางโดยการงดออกเสียงเพราะนั่นเป็นการแสดงความไม่เห็นด้วย เราจะจำชื่อจำนามสกุลต่อให้ไปเปลี่ยนชื่อก็จะไปคัดสำเนาทะเบียนบ้านมา หน้าตาของพวกคุณมันชัดเจนอยู่แล้วถึงต่อให้ไปทำศัลยกรรมก็ตาม

“การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้ไปใช้สิทธิ์มากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ถึง 75 เปอร์เซ็นต์ 311 เสียงไม่ใช่เรื่องธรรมดานี่คือการแลนส์สไลด์ของพรรคฝ่ายประชาธิปไตยอย่างแท้จริง พรรคที่ถูกกล่าวหาล้มเจ้าแยกแผ่นดินถูกเลือกมาเป็นอันดับหนึ่ง ถึง 14 ล้านเสียง 13 ก.ค.นี้ เราจะเห็นเรื่องแปลกๆเช่น สว.ติดโควิด ไม่อยากเข้าสภาสารพัดข้ออ้างขอให้ทุกคนจำชื่อจำนามสกุลไว้คนเหล่านี้ถือว่าเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองอย่างแท้จริง เพราะการเลือกตั้งเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์บูรณ์แล้วว่าพวกเราชนะอย่างเด็ดขาด คนในสังคมเลือกแล้วว่าอยากให้ฝ่ายประชาธิปไตยมาบริหารประเทศ สุดท้ายอยากให้กำลังใจกับพรรคร่วมรัฐบาลกอดกันให้เหนียวแน่นแล้วประชาชนจะเป็นผนังทองแดงให้ทุกคนให้ทุกพรรคอย่างแน่นอน ถนนทุกสายมุ่งสู่รัฐสภา ถ้าโหวตหักหลังประชาชนสัปดาห์หน้าเจอกัน ให้การต่อสู้ของเราครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายเปลี่ยนแปลงประเทศให้สมบูรณ์” นายอานนท์ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เท้ง' โวย 'อนุทิน' สร้างวาทกรรม ปชน. แก้ ม.112 ทั้งที่พูดเรื่องนิรโทษกรรมคดีหมิ่นสถาบัน

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวตอบโต้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า ต้องบอกว่าการยกมือในวันนั้น ไม่ใช่การเห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 แต่เป็นการผลักดันเรื่องนิรโทษกรรมของนักโทษที่โดนคดีทางการเมือง

’อนุทิน‘ ชัด ไม่ร่วมรัฐบาลพรรคประชาชน ปมยังเดินหน้าแก้ ม.112

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุจุดยืนชัด ไม่จับมือจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่ยังมีนโยบายแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 หลังดีเบตไทยรัฐทีวี ย้ำต่างอุดมการณ์ แต่ยังทำงานร่วมกันได้ หากเป็นเรื่องแก้ปัญหาประชาชน

ป.ป.ช. เลื่อนชี้ขาดคดี 44 อดีต สส.ก้าวไกล หลังยื่นขอความเป็นธรรม

นายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) รักษาราชการแทนเลขาธิการป.ป.ช. กล่าวถึงกระแสข่าวคณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่จะนัดลงมติคดีอดีต 44 สส.พรรคก้าวไกล ผิดจริยธรรมร้ายแรง กรณีการเข้าชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

ไต่สวนเสร็จแล้ว! คดี 44 อดีตสส.ก้าวไกล รอลุ้น ประธาน ป.ป.ช. ชงชี้ชะตา 25 ธ.ค.นี้

ป.ป.ช. บรรจุวาระประชุมพิจารณา คดี 44 อดีต สส.ก้าวไกล กรณีถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมฯอย่างร้ายแรง ในการร่วมลงชื่อ และยื่นเสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งเดิมคาดว่าจะมีการบรรจุวาระในวันที่ 25 ธ.ค.นั้น

อีกราย! คุก 20 ปีอดีตทีมงานก้าวหน้าหมิ่นสถาบันพร้อมออกหมายจับ

ศาลพิพากษาจำคุก โจ้ พฤทธิกร อดีตทีมงานก้าวหน้า 20 ปี โพสต์ข้อความดูหมิ่นสถาบันกว่า 10 ครั้ง ด้านเจ้าตัวหลบหนีพิพากษาลับหลังก่อนออกหมายจับ