ทนาย 'สุเทพ' ชี้ธาริตประวิงเวลา 2 ปีแต่ไม่รอดคุก ศาลเห็นเจตนาตั้งข้อหากลั่นแกล้ง

10 ก.ค.2566 - นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เผยภายหลังฟังคำพิพากษาศาลฎีกาจำคุก 2 ปีไม่รอลงอาญา นายธาริต เพ็งดิษฐ์เข้าเรือนจำทันทีว่า การตัดสินของศาลในวันนี้ ถือว่าเป็นการสิ้นสุดการรอคอยร่วม 2 ปี โดยส่วนตัวไม่ขอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีที่ศาลฎีกามีคำพิพากษา ถือว่าเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม แม้ว่าที่ผ่านมาศาลฎีกาจะนัดมาคำพิพากษาตั้งแต่ปี 2563 แต่ก็พบว่านายธาริต มีความพยายามประวิงเวลามาโดยตลอด จนกระทั่งมาถึงวันนี้ยังยื่นคำร้องอีกหลายฉบับทำให้การอ่านคำพิพากษาล่าช้าออกไป จากที่จะต้องอ่านคำพิพากษาแล้วเสร็จตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งจะเห็นว่าคำร้องทุกคำร้องศาลได้ยกทั้งหมด แต่ศาลก็ต้องอ่านคำชี้แจงถึงการพิจารณาคำร้องเพื่อให้นายธาริตและทนายความได้เข้าใจ

ส่วนประเด็นที่ศาลคำพิพากษาออกมาในลักษณะแบบนี้ เพราะศาลเห็นว่านายธาริตมีความพยายามที่จะชี้นำพนักงานสอบสวน เนื่องจากตรวจสอบพบว่าการทำสำนวณในครั้งแรก พยายามชี้นำพนักงานสอบสวนว่ากลุ่มผู้ชุมนุมใช้ความรุ่นแรงและมีอาวุธ เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลกลับเปลี่ยนสำนวนไปดำเนินคดีกับนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ที่อยู่ในฐานะผู้อำนวยการ ศอฉ. ว่ามีคำสั่งให้ทหารใช้อาวุธและความรุนแรงจนทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นประเด็นที่ศาลเห็นว่ามีเจตนากลั่นแกล้ง ส่วนจำเลยที่ 2-4 ศาลยกฟ้อง เนื่องจากมองว่า อาจจะมีส่วนร่วมกระทำความผิด เนื่องจากถูกผู้บังคับบัญชาชี้นำ จึงยกประโยชน์ให้กับจำเลยทั้ง 3 คน

นายสวัสดิ์ เผยอีกว่า ที่ผ่านมาไม่เคยออกมาตอบโต้ตั้งแต่กระบวนการในขั้นแรก ที่ศาลขั้นต้นยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับมาให้ลงโทษจำเลยทั้งหมดจำคุก 2 ปี จนกระทั่งศาลฎีกามีคำพิพากษาสั่งให้ลงโทษนายธาริตคนเดียวจำคุก 2 ปีไม่รอลงอาญา ซึ่งตนเองก็เคารพกระบวนการยุติธรรม เพราะหากไม่เคารพกระบวนการยุติธรรมก็จะทำให้บ้านเมืองเสียหาย ซึ่งการดำเนินคดีดังกล่าวมาครบทุกศาลแล้ว ถือว่าคดีสิ้นสุดแล้ว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อภิสิทธิ์-อดีตนายกรัฐมนตรี มอง 'จุดเสี่ยง' รัฐบาลเพื่อไทย ระเบิดการเมือง วางไว้เองหลายลูก

แม้ขณะนี้จะไม่ได้มีตำแหน่งทางการเมืองใดๆ แต่สำหรับ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์" การแสดงทัศนะหรือความคิดเห็นทางด้านการเมือง

เพิ่มโทษจำคุก 'เอก สายเต๊าะ' คดียิงปืนในหมู่บ้าน มีปืนไม่ได้รับใบอนุญาต

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่ามนมา ศาลอาญาได้นัดฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อ.1412/2567 พนักงานอัยการ สำนักงานพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ ฟ้อง นายเอกลักษณ์ ขุนพรหม